181 วันกับการเลิกบุหรี่ ไม่ขอกำลังใจ แต่มาให้กำลังใจ



ทำเพื่อนติดบุหรี่มานับสิบคน ไม่เคยชวนให้ลอง แต่ถ้ามาขอก็ไม่ปฏิเสธ
มาวันนี้ การตัดสินใจเลิกสูบบุหรี่ เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของผม


โดยพื้นฐานผมสูบบุหรี่มาเป็นเวลาทั้งหมด 6 ปี ลากยาวจากมัธยมปลายปีสุดท้ายไปถึงจบการศึกษามหาวิทยาลัย
โดยเฉลี่ยผมสูบวันนึง 20 มวนหรือ 1 ซอง โดยผมเลือกสูบยี่ห้อที่(ผมคิดว่า)มีคุณภาพคือ Mild Seven ตกซองละ 95 บาท
ซึ่งผมในตอนนั้นก็คิดว่าคุ้มเพราะก้นกรองดีกว่ายี่ห้ออื่น (ทำมาแอบรักสุขภาพนิดนึง แหวะ 55)

ซึ่งที่บ้านผมก็รู้ว่าผมสูบบุหรี่ ครั้งแรกพอท่านรู้ว่าผมติดบุหรี่ ท่านดุผมด่าผมให้ผมเลิก
ผมเข้าใจคุณพ่อของผมท่านก็ว่าผมได้ไม่เต็มปาก เพราะท่านก็สูบให้ผมดูมาตั้งแต่ผมเกิดมา
เวลาผ่านไป ผมเข้าไปยอมรับกับท่านว่าผมเลิกไม่ได้ แต่ถ้าผมเลิกขึ้นมาจริงๆพ่อจะเลิกด้วยไหม พ่อผมไม่ตอบ
หลังจากนั้นผมก็กลายเป็นเพื่อนสูบบุหรี่ของคุณพ่อ เวลาไปไหนมาไหน ผมไม่ต้องแอบสูบใดๆทั้งนั้น



ทำไมถึงคิดเลิก?
คนที่ยังสูบบุหรี่อยู่คงเคยโดนถามมาทั้งสิ้น สูบทำไม? ผมเคยให้คำตอบว่า "ผมไม่มีเหตุผลที่จะต้องเลิกสูบ ผมไม่เดือดร้อน"
ไม่กลัวสุขภาพแย่เหรอ? ผมเคยให้คำตอบว่า "อีก 30-40 ปีกว่าอาการมะเร็งมา ป่านนั้นผมซื้อปอดเทียมใส่แทนไปแล้ว"
ดื้อใช่ไหมครับ?  เพราะผมเคยมีความคิดว่าขนาดพ่อผมยังไม่ว่า พวกคุณเป็นใครมาจากไหน ผมไม่สนใจ
แฟนผมก็ขอให้ผมเลิกมาตลอดสี่ปีที่คบกัน ถามว่าเค้ากับบุหรี่เลือกอะไร ผมตอบผมเลือกบุหรี่
ผมรู้จักบุหรี่มาก่อนเค้า แล้วเขาก็รู้จักตัวตนของผมตอนสูบบุหรี่เหมือนกันตอนจะคบกัน

ย้อนกลับไปกว่า 181 วันที่แล้ว ผมได้แชร์รูปจาก internet รูปนึงใน facebook ของผม http://bit.ly/18mh2Pp
ด้วยความสะใจเลยลงข้อความเสียดสีคนไม่สูบบุหรี่ โดยมีเพื่อนนักสูบเข้ามาชอบใจและแชร์กันมากมาย
คืนวันนั้น ผมมานั่งอ่านข้อความในรูปนี้ซ้ำอยู่หลายรอบ ผมถามตัวเอง
ไปว่าพวกคนที่ไม่สูบทำไมทั้งๆรู้ตัวว่าตัวเองแท้ๆนั่นแหละที่สังคมรังเกียจ ทำไมต้องดิ้นรนให้ตัวเองดูดีดูไม่ผิดเรื่องสูบบุหรี่



เริ่มต้นการเลิก
คืนนั้น เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่ติดบุหรี่ ที่ผมลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการเลิก
ตอนแรกผมคิดว่าจะใช้บุหรี่ไฟฟ้า(e-cigarette) แทน  หรือฝรั่งเรียกกันว่า Vaping
ซึ่งการ vaping นี้นิยมในหมู่ฝรั่งมาก ขนาดดาราหลายคนติด vaping
ผมไปหาข้อมูลและเกือบจะสั่งอุปกรณ์ทั้งหมดจากเวปฝรั่ง ผมมานั่งคิด
ถ้าผมไปข้างนอกแล้วหยิบบุหรี่ไฟฟ้าออกมาดูด ผมจะรู้สึกโคตรอนาถตัวเองเลย
ถ้าคิดที่จะเลิกแล้ว ยังจะมาหลอกตัวเองกับสิ่งทดแทนอีกทำไม รู้สึกสงสารตัวเอง

ผมจึงไปใช้วิธีธรรมชาติขึ้นหน่อยคือหมากฝรั่งนิโคติน ผมใช้ nicomild-2 โดยทางมหาลัยมศว. เป็นผู้จัดทำ
ผมอีเมล์ไปหาคุณหมอที่ผลิตโดยตรง และสั่งมาทั้งหมด 24 แพค. ตอนนั้นยังคิดในใจเอาเงินไปซื้อบุหรี่สูบดีกว่าไหม 55
ผมให้สัญญากับตัวเองว่าเมื่อหมากฝรั่งส่งถึงบ้านผม หลังจากที่รับของจากบุรุษไปรษณีย์ วินาทีหลังจากนั้นเป็นต้นไปผมจะหยุดสูบบุหรี่
(ผมใช้หมากฝรั่งไปแค่ 4-5 แพค แจกเพื่อนไปจำนวนนึง เหลืออีก 10 กว่าแพค ถ้าใครต้องการบอกนะครับ ยินดีบริจาค เพราะน้องที่เรียนแพทย์มศวบอกว่าของขาดตลาด)



ระหว่างเลิก





ช่วงที่ทรมาณที่สุดคืออาทิตย์แรกสุดครับ ร่างกายจะต้องการนิโคตินอย่างมาก โดยร่างกายผมตอบสนองได้สะใจมาก
ผมนอนไม่ได้ เพราะก่อนนอนผมต้องการนิโคติน - เป็นอยู่เกือบเดือน ผมเกือบต้องใช้ยานอนหลับ
ผมถ่ายหนักไม่ได้ เพราะขณะถ่ายผมต้องการนิโคติน - เป็นอยู่เกือบเดือน
ผมทำงานไม่ได้ ผมเพลียผมไม่มีแรง ผมอยากสูบ อยากสูบบุหรี่

ผมไม่แน่ใจว่าผมผ่านช่วงห่านั่นมาได้ยังไง แต่ถ้าผ่านอาทิตย์แรกไปได้
ตามหลักการณ์นิโคตินในร่างกายของคุณได้ถูกชะล้างไปหมดแล้ว ถ้าคุณมีอาการอยากอีกก็เป็นเพราะ "นิสัย"

หลังจากพ้นอาทิตย์แรก ผมตัดสินใจไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนที่นั่งเล่น escobar โดยที่ผมพกหมากฝรั่งไป
โดยวันนั้นได้โต๊ะที่ติดกระจกพอดี (ถ้าใครเคยไปคงคิดออกว่าระหว่างนั่งเล่น/esco จะมีทางเดินซึ่งตรงนั้นเป็นโซนสูบบุหรี่)
ผมทรมาณที่สุดในชีวิตเลยครับ มองแ-ม่*งออกไปข้างนอกแล้วรับไม่ได้ ผมอยากสูบมาก มากที่สุด
ผมได้แต่เคี้ยวหมากฝรั่งยืนดูพวกเขาสูบ หนักเข้าหน่อยผมคิดว่าผมอยากได้กลิ่นก็ยังดี
ผมเลยออกไปยืนเคี้ยวหมากฝรั่งนิโคตินกลางวงแถวนั้นเลยครับ อนาถมาก อนาถตัวเอง หลังจากวันนั้นผมเลยเลิกใช้หมากฝรั่งนิโคติน

ช่วงนั้นผมเกลียดพวก SOCIAL SMOKER เป็นอย่างมากครับ เพราะพวกนี้ไม่ติดบุหรี่ ในชีวิตประจำวันเขาไม่ต้องการนิโคติน
แค่สูบตอนทานเหล้า ตอนสังสรรค์ ผมว่า, โดยส่วนตัว, มันไม่ยุติธรรมครับ ผมเคยรู้สึกอิจฉาคนพวกนี้มาก
แต่มาคิดในทางกลับกัน เขาสูบเพราะ "นิสัย" ตอนเลิกที่จะเลิกมันก็ไม่ต่างกับพวก HARDCORE SMOKER หรอก
คนเราเกลียดการเปลี่ยนแปลง เกลียดการแก้นิสัยตัวเอง

อีกอย่างนึงคนสูบบุหรี่คงเข้าใจกันดี ว่าจะมีการตั้งวงพูดคุยกันระหว่างสูบบุหรี่หรือ smoker talk
ระหว่างรออาหาร, ทานอาหารเสร็จ, เวลาพัก, เวลาเล่นกีฬาเสร็จ, etc
ซึ่งผมก็แก้นิสัยนี้ไม่หายเวลาพวกเขาลุกกันไปสูบบุหรี่ ผมก็ออกไปยืนดมควันคนพวกนี้ ไปยืนคุย
แต่เวลามีคนยื่นบุหรี่มาให้ผมหรือถามผมว่าเอาหน่อยไหม ผมตอบพวกเขาไปว่า "ผมไม่สูบบุหรี่ครับ"
ผมเลือกที่จะไม่พูดว่า "ผมกำเลิกบุหรี่" , "เลิกแล้ว" เพื่อมาโชว์พาวแต่อย่างใด แต่ผมเป็นคนที่ "ไม่สูบบุหรี่" แล้ว



ระหว่างเลิก (ปัจจุบัน)
ผมรู้สึกภูมิใจกับการตัดสินใจของผมมาก เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกดีที่สุดตั้งแต่ใช้ชีวิตมา
ผมยอมรับและไม่หลอกตัวเองเวลาว่าผมได้กลิ่นบุหรี่ ผมยังมีอาการอยากสูบอยู่
แต่ตอนนี้จิตใจผมแข็งแกร่งพอที่จะไม่กลับไปหามันอีก ผมสามารถควบคุมมันได้ ผมชนะใจตัวเองได้
การเลิกบุหรี่ทำให้ผมมีความมั่นใจขึ้นมาก ถ้าผมตั้งใจมีความมุ่งมั่น ผมสามารถทำอะไรก็ได้ทุกอย่าง
เพราะผมได้ผ่านกำแพงที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตมาแล้ว คนที่ยังเลิกไม่ได้คือคนที่เอาชนะใจตัวเองไม่ได้
คุณสามารถอ้างเหตุผลร้อยแปดเพื่อที่จะทำให้ตัวเองสบายใจและยังใช้บุหรี่ได้ต่อไป

การสูบบุหรี่จากการวิจัยไม่ได้ทำให้คุณผ่อนคลาย แต่ที่คุณรู้สึกผ่อนคลายเพราะคุณ "คิดไปเอง" ว่าบุหรี่ช่วยให้ผ่อนคลาย
จากผลการวิจัยบุหรี่ทำให้คุณเครียด ใช่ครับเครียด ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีใดๆเลยทั้งสิ้น

ตอนนี้ผมทานอาหารอร่อยขึ้นมาก และจมูกของผมก็รับรู้กลิ่นได้ดีขึ้นเช่นกันครับ
เมื่อก่อนผมไม่สามารถออกกำลังกายได้เลย แป๊บเดียวหอบตลอด
มาในวันนี้ผมสามารถวิ่งได้วันละ 10 กิโลเมตรโดยไม่พักได้ภายใน 1 ชั่วโมงด้วยล่ะครับ
ปากผมไม่เหม็นโดยที่จะต้องพกหมากฝรั่งตลอดเวลาอีกแล้ว
อีกทั้งตอนคุยกับสาวในผับหรือตอนอยู่ใกล้กัน ตัวผมหอมตลอดเวลาเพราะโลชั่น/น้ำหอม กลิ่นบุหรี่ไม่มากลบกลิ่นหอมจากตัวผมอีกแล้ว

ขนาดคนที่ดื้ออย่างผมยังทำได้ พวกคุณก็ทำได้เหมือนกันครับ
ขอให้คุณมีความตั้งใจที่จะเลิกจริงๆและมีจิตใจที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าอะไรก็มาหยุดคุณไม่ได้ครับ



แนะนำสำหรับผู้คิดที่จะเลิก
- คุณต้องหาเหตุผลให้ตัวเองนอกจากสุขภาพครับ อาจจะเช่นว่าเลิกให้แฟน เลิกเพราะไม่อยากโทรม เลิกเพราะจะเก็บเงิน
เพราะว่าคุณจะได้มีเหตุผลมารองรับตอนคุณอยากสูบครับ เช่นตอนกำลังเลิกแล้วคุณอยากสูบ คุณอาจคิดช่างแ-ม่*งสุขภาพ แต่ก็ยังมีอีกเหตุผลนึงมาคอยค้านอยู่
- เลิกด้วยการหักดิบเท่านั้น ถ้าอ้างว่าสูบน้อยลง ไม่มีทางทำได้ คุณกำลังโกหกตัวเองอยู่
- โหลด app มาใช้เพื่อคอยดูความก้าวหน้า ทุกๆครั้งที่ผมอยากสูบผมจะเอามาดูทุกครั้ง ว่าเรามาไกลได้ขนาดนี้แล้วนะ เราอยากจะกลับไปเริ่มใหม่ไปดูดวันละซองเหมือนเดิมอีกเหรอ คิดถึงความทรมาณตอนแรกกว่าที่จะเลิกมาได้ มันไม่คุ้มกันหรอก

คุณทำได้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ชีวิตวัยรุ่น ปัญหาชีวิต สุขภาพกาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่