ดิฉันมีชื่อเล่นว่า ข้าวนาง เมื่อชื่อของดิฉันมันเกี่ยวกับข้าว ดิฉันจึงต้องออกมาปกป้องข้าวเพื่อชาติ (มันเกี่ยวตรงไหนฟ๊ะ ?) อิอิ
ย้อเย้นนนนน .....
ขณะนี้นโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลปู ถูกกระหน่ำโจมตีอย่างหนักจากพรรคฝ่ายเกียจคร้าน อุ๊ย พรรคฝ่ายค้าน อันเนื่องมาจาก
ได้ข้อมูลมาว่า โครงการนี้ทำให้ชาติขาดทุนไปถึง 2.6 (อ่านว่า สอง จุด หก ไม่ใช่ สอง จุด หนึ่ง ศูนย์ นะจ๊ะ แหะๆ ) แสนล้านบาท
ร่ำๆมาว่าฝ่ายรัฐบาลเองก็ยังอึมครึมที่จะชี้แจงที่มาที่ไปของตัวเลขที่ทางฝ่ายคร้านจี้ด้วยหน้ากากขาว v 8 ไอ้มดเหลืองตราคางคกแก้มปูด
ให้ออกมาชี้แจง เล่นเอากระเทือนไปทั้งสภา...เขาว่างั้น
สาวข้าวนาง ในฐานะที่เอาหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงของตัวเองที่มี ไปเลือกตั้งจนได้รัฐบาลปูมาบริหารประเทศ ก็ลองมานั่งคิดเล่นๆ เพื่อช่วย
รัฐบาลปูหาทางออกในเรื่องนี้ จนได้ข้อสรุปดังนี้
เอ้า ... พ่อออกแม่ออกทั้งหลาย หยับเข่าม๊าฟังมัคทายกประกาศลายสื่อ ผู้บริจาคสร่างศาลาวัดบ้านโนนเงิบของเฮาเด้อ
.... อ้าวๆป้า ..เลี้ยวขวาสระบุรีแล้วนั่น !!
1.ห้ามรัฐบาลยกเลิกนโยบายรับจำนำข้าวนี้กลางคันโดยเด็ดขาด เพราะมันเป็นนโยบายที่ดีได้ช่วยเหลือชาวนาส่วนใหญ่ที่ยังคงลำบาก
ยากเข็ญ และ ขาดทุนกับการทำนามาตลอดชั่วนาตาวัน ตาเดือน ตาปี ได้ เพียงแต่รัฐบาลปูต้องคิดต่อไปให้ลึกกว่านี้ว่า จะบริหารจัดการ
ข้าวที่รับจำนำมายังไง ให้ขาดทุนน้อยที่สุด หรือโชว์ฝีมือบริหารจัดการให้ได้กำไร ตบหน้าฝ่ายคร้านไปเลย
“น้องข้าวนาง จะแนะนำรัฐบาลให้บริหารจัดการยังไงจึงจะตบหน้าพรรคฝ่ายเกียจคร้านได้ ไหนว่ามาซิ” คุณชายศักดิ์ระพี คิดอยากทดลอง
ภูมิของ จขกท. ขึ้นมาซะงั้น (ขออนุญาตเอาชื่อแฟนคลับที่น่ารักมาเป็นชื่อพระเอกนะคะ แหะๆ)
“เอ๋า ..คั่นนางเก่งป๋านนั้น นางกะได๊เป๋นนายกฯแล้วตี๊ ...แต่หว่า คั่นนางตอบได๊คุณซายศักดิ์ระพีสิให้กิ๊ฟต์ถูกใจ๋นางบ่อล่ะ ...
เอาหลงฮักกะได๊ ...อิอิ ” (เสียงภาษาอีสาน)
1.1 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดหนึ่ง) รัฐบาลปูต้องชัดเจนในการกำหนดคุณสมบัติของข้าวที่จะรับจำนำ เช่น กำหนดพันธุ์ข้าว กำหนดคุณภาพ
ของข้าว กำหนดเปอร์เซ็นต์ความชื้น กำหนดจำนวนครั้งที่สามารถจำนำได้ของชาวนาแต่ละราย เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนแล้วมาทะเลาะ
กันทีหลังว่า แบบไหนรับจำนำหรือแบบไหนไม่เข้าข่ายรับจำนำ
1.2 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดสอง) รัฐบาลปูควรกำหนดมาตรฐานสถานที่รับจำนำและจัดเก็บข้าวให้ดีและชัดเจนเพื่อป้องกันข้าวจากความชื้น
และการลักลอบทุจริต
1.3 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดสาม) รัฐบาลปูควร “Put the right man on the right job” รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องเป็นผู้ที่มีความรู้
ความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆพอสมควร เช่นกระทรวงพาณิชย์ ต้องเป็นผู้ที่ค้าขายเก่ง คิดแผนการตลาดเก่ง
“อย่างรัฐมนตรีช่วยณัฐวุฒิเพิ่นเว้าเก่ง ภาษาไทยคล่อง กะให้เพิ่นไปอยู๊กะทรวงศึกษาฯ สิบ่อดีกว่าบ่อล่ะอ้ายคุณชายศักดิ์ระพี ?
นางว่าหน่าสิดีกว่าได๊อ้าย” (เสียงภาษาอีสาน)
1.10 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดสิบนะจ๊ะ) เวลาที่รัฐบาลหรือนายกฯปูได้รับเชิญให้ไปเยือนต่างประเทศ ก็ให้เอากระทรวงพาณิช์ไปด้วย เราไป
เชิญเขามาลงทุนที่บ้านเราแล้วก็เอาสินค้าเราไปเสนอขายด้วย จะเป็นซื้อขายล่วงหน้า เงินสด เงินผ่อน ลดแลกแจกแถม ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง
อะไรก็เอามาเหอะ
“คั่นนายกฯปูเพิ่นไป๋อเมริกา กะให้เอ๋าเข่าเฮาไปแลกอาวุธ แลกระเบิดประรัมนู สิได๊บ่อล่ะ?” (เสียงภาษาอีสาน)
“เขาเขียนว่า ปรมณู นั่นมันประรัมพิธีแห่นางแมวแล้วน้องข้าวนาง ... เฮ้อ! คิดถูกคิดผิดฟะที่ยอมให้มันเอาชื่อมาเล่นเนี่ย ? "
“รึ ถ้านายกฯเพิ่นไปสแกนดิเนเวีย กะเอาเข่าเฮาไปแลกปุ๋ยมาตี๊ล่ะ ... ทางน่ะเขาปลูกเข่าบ่อได๊ แต่ผลิตปุ๋ยได๊ ... เขากิ๋นปุ๋ย
แทนเข่าบ่อได้ดอกเนาะอ้าย ... รึคั่นไปซาอุฯกะเอาเข่าไปแลกน้ำมันมา คั่นเขาบ่อเอาเข่าเฮา เขาอยากได้เพชรกะเอาเพชรน้ำนิลไปแลก
กะได๊ โอ๊ะ ..บ่แม่น เอาทับทิมเมืองจันทน์ รึเอาไพลินเมืองกาญจน์ไปแลก กะได๊ตี๊ล่ะ ?" (เสียงภาษาอีสาน)
1.11 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดสิบเอ็ด) ส่งกระทรวงเกษตรไปดูงานที่เวียดนามหรืออินเดีย ที่เป็นคู่แข่งสำคัญของเรา เพื่อนำเอาข้อดีข้อด้อย
ของข้าวเขามาพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ให้ข้าวของเรามีคุณภาพดีที่สุดในโลก หรือไปดูงานการเกษตรที่ประเทศพัฒนา เพื่อนำเทคโนโลยี่
ที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ที่ประเทศของเรา เพื่อลดต้นทุนการผลิต
“คั่นนางได้เข้าไปอยู่ในวังของอ้ายคุณชายศักดิ์ระพี นางกะสิตั้งใจเฮียนหนังสือ นางอยากเอาความฮู้มาพัฒนาบ้านโนนเงิบของนาง
... อ้ายคุณชายถ่าเบิ่งโลด นางสิคิดค้นพัฒนาสายพันธุ์เข่าพันธุ์ใหม่ ให้ได๊เข่าเม็ดหย่ายๆเข่าเม็ดหนึ่งให้มันส่ำหมากแตงโมหน่วยหนึ่งโลด
บ่อต้องให้มันเป๋นเม็ดน้อยๆคือเก่า ... หุงเข่าหม้อหนึ่งกะใส่เข่าเม็ดหนึ่งพอแล้ว ...อ้ายคุณชายว่าดีบ่อ ?” (เสียงภาษาอีสาน)
“ เฮ้อ ยัยคนนี้มันเต็มเต็งอ๊ะป่าวเนี่ย .... ไม่ยุ่งกะมันแระ ไปดีกว่า”
“คุณชายสิหนีนางไปไสล่ะ ... ยังบ่ได๊พานางเข้าวังไปกราบหม่อมย่าเลย นางงามปานนิอ้ายคุณชายหยังสิหนีนางไปยู่ติ กลับมาก่อน ๆ ”
(เสียงภาษาอีสาน)
The End

+ + + [กระทู้วันหยุด] .... เรื่องจำนำข้าว ... อิงกระแสละคร คุณชายรัชชานนท์ + + +
ย้อเย้นนนนน .....
ขณะนี้นโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลปู ถูกกระหน่ำโจมตีอย่างหนักจากพรรคฝ่ายเกียจคร้าน อุ๊ย พรรคฝ่ายค้าน อันเนื่องมาจาก
ได้ข้อมูลมาว่า โครงการนี้ทำให้ชาติขาดทุนไปถึง 2.6 (อ่านว่า สอง จุด หก ไม่ใช่ สอง จุด หนึ่ง ศูนย์ นะจ๊ะ แหะๆ ) แสนล้านบาท
ร่ำๆมาว่าฝ่ายรัฐบาลเองก็ยังอึมครึมที่จะชี้แจงที่มาที่ไปของตัวเลขที่ทางฝ่ายคร้านจี้ด้วยหน้ากากขาว v 8 ไอ้มดเหลืองตราคางคกแก้มปูด
ให้ออกมาชี้แจง เล่นเอากระเทือนไปทั้งสภา...เขาว่างั้น
สาวข้าวนาง ในฐานะที่เอาหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงของตัวเองที่มี ไปเลือกตั้งจนได้รัฐบาลปูมาบริหารประเทศ ก็ลองมานั่งคิดเล่นๆ เพื่อช่วย
รัฐบาลปูหาทางออกในเรื่องนี้ จนได้ข้อสรุปดังนี้
เอ้า ... พ่อออกแม่ออกทั้งหลาย หยับเข่าม๊าฟังมัคทายกประกาศลายสื่อ ผู้บริจาคสร่างศาลาวัดบ้านโนนเงิบของเฮาเด้อ
.... อ้าวๆป้า ..เลี้ยวขวาสระบุรีแล้วนั่น !!
1.ห้ามรัฐบาลยกเลิกนโยบายรับจำนำข้าวนี้กลางคันโดยเด็ดขาด เพราะมันเป็นนโยบายที่ดีได้ช่วยเหลือชาวนาส่วนใหญ่ที่ยังคงลำบาก
ยากเข็ญ และ ขาดทุนกับการทำนามาตลอดชั่วนาตาวัน ตาเดือน ตาปี ได้ เพียงแต่รัฐบาลปูต้องคิดต่อไปให้ลึกกว่านี้ว่า จะบริหารจัดการ
ข้าวที่รับจำนำมายังไง ให้ขาดทุนน้อยที่สุด หรือโชว์ฝีมือบริหารจัดการให้ได้กำไร ตบหน้าฝ่ายคร้านไปเลย
“น้องข้าวนาง จะแนะนำรัฐบาลให้บริหารจัดการยังไงจึงจะตบหน้าพรรคฝ่ายเกียจคร้านได้ ไหนว่ามาซิ” คุณชายศักดิ์ระพี คิดอยากทดลอง
ภูมิของ จขกท. ขึ้นมาซะงั้น (ขออนุญาตเอาชื่อแฟนคลับที่น่ารักมาเป็นชื่อพระเอกนะคะ แหะๆ)
“เอ๋า ..คั่นนางเก่งป๋านนั้น นางกะได๊เป๋นนายกฯแล้วตี๊ ...แต่หว่า คั่นนางตอบได๊คุณซายศักดิ์ระพีสิให้กิ๊ฟต์ถูกใจ๋นางบ่อล่ะ ...
เอาหลงฮักกะได๊ ...อิอิ ” (เสียงภาษาอีสาน)
1.1 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดหนึ่ง) รัฐบาลปูต้องชัดเจนในการกำหนดคุณสมบัติของข้าวที่จะรับจำนำ เช่น กำหนดพันธุ์ข้าว กำหนดคุณภาพ
ของข้าว กำหนดเปอร์เซ็นต์ความชื้น กำหนดจำนวนครั้งที่สามารถจำนำได้ของชาวนาแต่ละราย เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนแล้วมาทะเลาะ
กันทีหลังว่า แบบไหนรับจำนำหรือแบบไหนไม่เข้าข่ายรับจำนำ
1.2 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดสอง) รัฐบาลปูควรกำหนดมาตรฐานสถานที่รับจำนำและจัดเก็บข้าวให้ดีและชัดเจนเพื่อป้องกันข้าวจากความชื้น
และการลักลอบทุจริต
1.3 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดสาม) รัฐบาลปูควร “Put the right man on the right job” รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องเป็นผู้ที่มีความรู้
ความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆพอสมควร เช่นกระทรวงพาณิชย์ ต้องเป็นผู้ที่ค้าขายเก่ง คิดแผนการตลาดเก่ง
“อย่างรัฐมนตรีช่วยณัฐวุฒิเพิ่นเว้าเก่ง ภาษาไทยคล่อง กะให้เพิ่นไปอยู๊กะทรวงศึกษาฯ สิบ่อดีกว่าบ่อล่ะอ้ายคุณชายศักดิ์ระพี ?
นางว่าหน่าสิดีกว่าได๊อ้าย” (เสียงภาษาอีสาน)
1.10 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดสิบนะจ๊ะ) เวลาที่รัฐบาลหรือนายกฯปูได้รับเชิญให้ไปเยือนต่างประเทศ ก็ให้เอากระทรวงพาณิช์ไปด้วย เราไป
เชิญเขามาลงทุนที่บ้านเราแล้วก็เอาสินค้าเราไปเสนอขายด้วย จะเป็นซื้อขายล่วงหน้า เงินสด เงินผ่อน ลดแลกแจกแถม ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง
อะไรก็เอามาเหอะ
“คั่นนายกฯปูเพิ่นไป๋อเมริกา กะให้เอ๋าเข่าเฮาไปแลกอาวุธ แลกระเบิดประรัมนู สิได๊บ่อล่ะ?” (เสียงภาษาอีสาน)
“เขาเขียนว่า ปรมณู นั่นมันประรัมพิธีแห่นางแมวแล้วน้องข้าวนาง ... เฮ้อ! คิดถูกคิดผิดฟะที่ยอมให้มันเอาชื่อมาเล่นเนี่ย ? "
“รึ ถ้านายกฯเพิ่นไปสแกนดิเนเวีย กะเอาเข่าเฮาไปแลกปุ๋ยมาตี๊ล่ะ ... ทางน่ะเขาปลูกเข่าบ่อได๊ แต่ผลิตปุ๋ยได๊ ... เขากิ๋นปุ๋ย
แทนเข่าบ่อได้ดอกเนาะอ้าย ... รึคั่นไปซาอุฯกะเอาเข่าไปแลกน้ำมันมา คั่นเขาบ่อเอาเข่าเฮา เขาอยากได้เพชรกะเอาเพชรน้ำนิลไปแลก
กะได๊ โอ๊ะ ..บ่แม่น เอาทับทิมเมืองจันทน์ รึเอาไพลินเมืองกาญจน์ไปแลก กะได๊ตี๊ล่ะ ?" (เสียงภาษาอีสาน)
1.11 (อ่านว่าข้อ หนึ่งจุดสิบเอ็ด) ส่งกระทรวงเกษตรไปดูงานที่เวียดนามหรืออินเดีย ที่เป็นคู่แข่งสำคัญของเรา เพื่อนำเอาข้อดีข้อด้อย
ของข้าวเขามาพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ให้ข้าวของเรามีคุณภาพดีที่สุดในโลก หรือไปดูงานการเกษตรที่ประเทศพัฒนา เพื่อนำเทคโนโลยี่
ที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ที่ประเทศของเรา เพื่อลดต้นทุนการผลิต
“คั่นนางได้เข้าไปอยู่ในวังของอ้ายคุณชายศักดิ์ระพี นางกะสิตั้งใจเฮียนหนังสือ นางอยากเอาความฮู้มาพัฒนาบ้านโนนเงิบของนาง
... อ้ายคุณชายถ่าเบิ่งโลด นางสิคิดค้นพัฒนาสายพันธุ์เข่าพันธุ์ใหม่ ให้ได๊เข่าเม็ดหย่ายๆเข่าเม็ดหนึ่งให้มันส่ำหมากแตงโมหน่วยหนึ่งโลด
บ่อต้องให้มันเป๋นเม็ดน้อยๆคือเก่า ... หุงเข่าหม้อหนึ่งกะใส่เข่าเม็ดหนึ่งพอแล้ว ...อ้ายคุณชายว่าดีบ่อ ?” (เสียงภาษาอีสาน)
“ เฮ้อ ยัยคนนี้มันเต็มเต็งอ๊ะป่าวเนี่ย .... ไม่ยุ่งกะมันแระ ไปดีกว่า”
“คุณชายสิหนีนางไปไสล่ะ ... ยังบ่ได๊พานางเข้าวังไปกราบหม่อมย่าเลย นางงามปานนิอ้ายคุณชายหยังสิหนีนางไปยู่ติ กลับมาก่อน ๆ ”
(เสียงภาษาอีสาน)
The End