ขอเกริ่นก่อนนะครับ
ก่อนนี้ผม ออกจากงานมาตั้งแต่ปีใหม่ 56 ด้วยปัญหาของบริษัท ที่ขาดทุน
ผมออกมาด้วยเงินชดเชย 1 เดือนแล้วก็ไปแจ้งว่างงานได้ ชดเชยจาก ประกันสังคมมาอีก 50% 6 เดือน(เดือนละ 7500 บาท)
ซึ่งระหว่างนั้นผมต้องเลี้ยงลูก 2 คน และ ภรรยา 1 คน (ภรรยา ลาออกมาเลี้ยงลูกคนโต 5 ปีแล้ว ตลอดนั้นไม่มีปัญหาใดๆ ผมคนเดียวดูแลได้หมด ภรรยาผมเคยเป็นเนื้อร้ายที่รังไข่ในขณะท้องลูกคนเล็ก ต้องผ่าออกในตอนนั้นค่าใช้จ่ายเงินเก็บก็หายไปหลายหมื่นบาทเกือบแสน แต่ก็ต้องทำเพราะมันจำเป็น )
ซึ่งก่อนนี้ ภรรยาก็ได้ทำงานและได้จ้างคนแถวบ้านเลี้ยงลูกคนเล็ก(อายุ ไม่ถึงขวบตอนนั้น) ผลก็คือ คนที่จ้างเลี้ยง มีการแอบทำร้ายน้อง เวลาน้อง งอแง ง่วงนอน(เค้าจะชอบร้อนกวน เป็นธรรมดาของเด็กเล็กที่ยังพูดไม่ได้)
ก็เลยให้ภรรยา มาเลี้ยงลูกอีกรอบ
ก็ยังไม่มีปัญหาใดๆ จนกระทั่งงานผมมีปัญหาต้องออกจากงานมา ต้นปี 56
หลังจากนั้นผมก็หางานมาตลอด และ ได้งานใหม่ที่คิดว่าดี และ ดีมาก รายได้ก็น่าจะดี (ช่วง เมย 56 ที่ผ่านมา)
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น ทำให้ผมต้องออกจากงานอีกรอบ (หลายท่านคิดว่าทำไม ไม่อยู่ต่อ แล้วค่อยออก ซึ่งในกระทู้นั้นผมไม่ได้พูดต่อจนหมดว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป)
ซึ่ง ตอนนี้ เงินในบ้านไม่มี ค่ากินค่าอยู่ไม่มี ค่าเช่าบ้านเดือนละ 3200 บาท ก็หามาได้จากการวิ่งหากู้ยืมเงินคนรู้จัก และ ทำงานรายวันที่ผมหาได้ใกล้ๆบ้าน พวก เฝ้าร้านเน็ต คาร์แคร์ เสริฟอาหาร ที่สามารถเบิกเงินกินรายวันได้ทุกวัน ส่วนใหญ่จะได้ค่าแรงวันนึง 200- 250 บาทไม่เกินนี้
ซึ่งเงิน 250 บาท กับการใช้กิน 4 ชีวิต/วัน มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ บางคนกินข้าวมื้อนึง ยังมากกว่าผมกินกัน 2 วันด้วยซ้ำไป
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น คือ ลูกชายที่เรียน รร.ใกล้บ้านที่สุด ค่าเทอม+ค่าอาหารกลางวัน+ค่ารถส่งตอนเย็น กลับไม่มีให้ ทาง รร.เค้า
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ก็อยู่ไม่เกิน 7 พันบาท/เทอม (เพิ่งขึ้นชั้น อนุบาล 2 )
ซึ่งก่อนนี้ ผมก็จ่ายได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ที่ผ่านมา
ในสภาวะนี้ ที่เงินไม่มี งานไม่มี ค่าเทอมลูกไม่มี
ของในบ้าน ก็เอาไปขายหรือจำนำเพื่อนำมาใช้จ่ายจนหมด แม้กระทั่ง คอมฯของผมก็ต้องถอดอะไหล่ขายกินจนหมด
ทรัพย์สิน ที่เหลืออยู่สิ่งสุดท้ายก็คือ รถยนต์เก่าๆ อายุ 20 ปี ที่ไม่มีไฟแนนซ์ไหนรับ หรือ จำนำจอดรถ ก็ไม่มีที่ไหนรับ เพราะมันเก่าเกินไป
ตอนที่ลำบากนั้น หันไปหาเพื่อน ญาติพี่น้อง ก็ได้แต่มีคนส่ายหัว ปิดมือถือ บล๊อคเบอร์ ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นจากครอบครัวผม
ขนาดน้าชายแท้ๆ ผมแค่ขอยืมเงิน 500 บาท มาตั้งแต่ กพ. จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับ ผมไม่ได้ขอเค้า 5 หมื่นนะครับ ?
คนที่พอจะพึ่งพาได้ มีแต่เพื่อนเก่าๆ สมัยเรียน มัธยม ที่เป็นเพื่อนสนิท เท่านั้นที่ยังช่วยส่งเงินมาช่วยให้หลานมีข้าวมีนมกินบ้าง แต่ เพื่อนที่ยินดีช่วย ก็ไม่ได้มีเงิน หรือ รวยอะไร ทำงานเงินเดือนก็น้อย แต่เค้าพยายามช่วยเราเต็มที่
พอเข้า FB เพื่อนที่เราไปขอความช่วยเหลือ แล้วเค้าบอกไม่มี ลำบาก แต่กลับซื้อรถเบนซ์ราคาสองล้าน , กินอาหารญี่ปุ่น มื้อละ สามพันมาโชว์กันเต็มไปหมด ดูแล้วก็น้ำตาไหล เสียใจ
ความเป็นเพื่อน มันหมดไปกับงานที่ผมต้องเสียไปด้วยหรือนี่ ? ไม่มีเงินก็ไม่มีคนคบ นี่คือความเป็นจริงของโลกนี้ใชไหม ?
ยิ่ง ผมมาหางานในเน็ต เปิด FB มันยิ่งทำให้ผมท้อใจ เสียใจ และ โกรธตัวเอง
บางคน พาลูกๆ ไปเที่ยวเล่น กินอาหาร ซื้อของเล่นให้ลูกตัวเองเล่น แต่ลูกผมไม่มีสิทธิ์นั้นเลย
บางคน กินอาหารดีๆแพงๆ แต่กลับไม่มีเงินจะช่วยเพื่อนเวลาลำบากที่สุดแบบนี้
ที่รู้สึกแย่มากก็คือ บางคน ออกตัวระดมทุนช่วยเหลือหมาจรจัด สัตว์ป่วย แถวบ้าน ได้หลายพันบาท ถึง เป็นหมื่นบาท เจ้าตัวออกเงินเปิดกองทุนให้เห็น 3-5 พันบาท แต่กลับเพื่อนบอกว่าไม่มีเงินกำลังแย่ กำลังลำบาก
ชีวิตความลำบากของผม มันมีค่าน้อยว่าหมาจรจัดอีกหรือนี่ ?
แต่ก็มันก็คือเงินของเค้า เค้าจะช่วยเรา 1 บาท ช่วยหมาจรจัด 1 หมื่น มันก็เรื่องของเค้านี่ เราจะไปแคร์ทำไม ?
พยายามจะไม่คิด ไม่เครียด แต่ปัญหาก็รุมเร้าเข้ามาทุกวันๆ
ตอนนี้ ทาง รร. เค้าก็เตือนมาแล้วเรื่องค่าเทอม ต้องชำระ ไม่เช่นนั้นก็ต้องให้หยุดเรียนไปก่อน หรือ ให้สมัครใหม่เทอมสอง หรือ ซ้ำ อ.สองใหม่อีกรอบในปีหน้า
พอมีปัญหา ทางผม กับ ภรรยา ก็ทะเลาะกัน เครียด กดดัน ทำให้ลูกต้องพลอยเครียดไปด้วย
จนภรรยา เ่อ่ยปากจะหนีไปอยู่กับแม่เธอ ที่ ตจว. จะหอบลูกไป ทิ้งผมไว้กับความไม่เอาไหนของผม
(ทาง พ่อตา แม่ยายก็ไม่ใช่ว่าฐานะดี เป็นชาวนา หนี้สินก็มี ก่อนนี้ผมก็ช่วยส่งหนี้ปิดไปเป็นแสนบาทแล้ว แต่พอเป็นแบบนี้ กลับบอกว่าไม่มีเค้าก็ลำบากเหมือนกัน)
ผมได้เห็นกระทู้ ที่มีคนมาขอกู้เงิน เพื่อครอบครัวเค้า
ก็รู้สึกถึงว่า เค้าก็คงเป็นแบบผมในตอนนี้แหละ
แต่เค้าคงดีกว่าผม เพราะเสื้อผ้าดีๆที่เค้าใส่ ผมก็เอาไปแลกไข่ไก่กินจนหมดแล้ว ตอนนี้มีแต่เสื้อผ้าเก่าๆเท่านั้นที่เหลืออยู่
กรณีแบบนี้ คุณๆจะทำอย่างไร ? จะแก้ไขปัญหาอย่างไง ให้รอดไปให้ได้
อ้อ...ผมเพิ่งได้รับการติดต่องานแห่งหนึ่ง ให้ไปคุยกับเค้าวัน จันทร์ อังคาร นี้ หวังว่าจะได้งานทำซะที
มันทำให้ผมคิดว่า บางคน เลือกจะปล้นร้านทอง ปล้นธนาคาร ค้ายาบ้า หรือ ส่งยา เค้าเหล่านั้นเหมือนผมหรือเปล่า ?
มีคนแนะนำให้ทำแบบนั้น ส่งยาได้ครั้งละ 5 พัน นะ
ทำสองสามครั้ง ก็รอดแล้ว มีเงินให้ลูกกิน จ่ายค่าที่ค้างไว้ทั้งหมด แล้ว ก้เลิกสิ...
แล้วถ้าผมทำ ผมโดนจับ ติดคุก ลูกผมจะเป็นยังไง ? ผมก็เลิกความคิดนั้นไปหมดแล้ว มันคงไม่คุ้มที่จะทำแบบนั้นแน่ๆ
เป็นคุณจะทำยังไงกับปัญหาชีวิตที่ต้องประสบเจอ อย่างผมตอนนี้
ก่อนนี้ผม ออกจากงานมาตั้งแต่ปีใหม่ 56 ด้วยปัญหาของบริษัท ที่ขาดทุน
ผมออกมาด้วยเงินชดเชย 1 เดือนแล้วก็ไปแจ้งว่างงานได้ ชดเชยจาก ประกันสังคมมาอีก 50% 6 เดือน(เดือนละ 7500 บาท)
ซึ่งระหว่างนั้นผมต้องเลี้ยงลูก 2 คน และ ภรรยา 1 คน (ภรรยา ลาออกมาเลี้ยงลูกคนโต 5 ปีแล้ว ตลอดนั้นไม่มีปัญหาใดๆ ผมคนเดียวดูแลได้หมด ภรรยาผมเคยเป็นเนื้อร้ายที่รังไข่ในขณะท้องลูกคนเล็ก ต้องผ่าออกในตอนนั้นค่าใช้จ่ายเงินเก็บก็หายไปหลายหมื่นบาทเกือบแสน แต่ก็ต้องทำเพราะมันจำเป็น )
ซึ่งก่อนนี้ ภรรยาก็ได้ทำงานและได้จ้างคนแถวบ้านเลี้ยงลูกคนเล็ก(อายุ ไม่ถึงขวบตอนนั้น) ผลก็คือ คนที่จ้างเลี้ยง มีการแอบทำร้ายน้อง เวลาน้อง งอแง ง่วงนอน(เค้าจะชอบร้อนกวน เป็นธรรมดาของเด็กเล็กที่ยังพูดไม่ได้)
ก็เลยให้ภรรยา มาเลี้ยงลูกอีกรอบ
ก็ยังไม่มีปัญหาใดๆ จนกระทั่งงานผมมีปัญหาต้องออกจากงานมา ต้นปี 56
หลังจากนั้นผมก็หางานมาตลอด และ ได้งานใหม่ที่คิดว่าดี และ ดีมาก รายได้ก็น่าจะดี (ช่วง เมย 56 ที่ผ่านมา)
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น ทำให้ผมต้องออกจากงานอีกรอบ (หลายท่านคิดว่าทำไม ไม่อยู่ต่อ แล้วค่อยออก ซึ่งในกระทู้นั้นผมไม่ได้พูดต่อจนหมดว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป)
ซึ่ง ตอนนี้ เงินในบ้านไม่มี ค่ากินค่าอยู่ไม่มี ค่าเช่าบ้านเดือนละ 3200 บาท ก็หามาได้จากการวิ่งหากู้ยืมเงินคนรู้จัก และ ทำงานรายวันที่ผมหาได้ใกล้ๆบ้าน พวก เฝ้าร้านเน็ต คาร์แคร์ เสริฟอาหาร ที่สามารถเบิกเงินกินรายวันได้ทุกวัน ส่วนใหญ่จะได้ค่าแรงวันนึง 200- 250 บาทไม่เกินนี้
ซึ่งเงิน 250 บาท กับการใช้กิน 4 ชีวิต/วัน มันเป็นอะไรที่แย่มากๆ บางคนกินข้าวมื้อนึง ยังมากกว่าผมกินกัน 2 วันด้วยซ้ำไป
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น คือ ลูกชายที่เรียน รร.ใกล้บ้านที่สุด ค่าเทอม+ค่าอาหารกลางวัน+ค่ารถส่งตอนเย็น กลับไม่มีให้ ทาง รร.เค้า
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ก็อยู่ไม่เกิน 7 พันบาท/เทอม (เพิ่งขึ้นชั้น อนุบาล 2 )
ซึ่งก่อนนี้ ผมก็จ่ายได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ที่ผ่านมา
ในสภาวะนี้ ที่เงินไม่มี งานไม่มี ค่าเทอมลูกไม่มี
ของในบ้าน ก็เอาไปขายหรือจำนำเพื่อนำมาใช้จ่ายจนหมด แม้กระทั่ง คอมฯของผมก็ต้องถอดอะไหล่ขายกินจนหมด
ทรัพย์สิน ที่เหลืออยู่สิ่งสุดท้ายก็คือ รถยนต์เก่าๆ อายุ 20 ปี ที่ไม่มีไฟแนนซ์ไหนรับ หรือ จำนำจอดรถ ก็ไม่มีที่ไหนรับ เพราะมันเก่าเกินไป
ตอนที่ลำบากนั้น หันไปหาเพื่อน ญาติพี่น้อง ก็ได้แต่มีคนส่ายหัว ปิดมือถือ บล๊อคเบอร์ ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นจากครอบครัวผม
ขนาดน้าชายแท้ๆ ผมแค่ขอยืมเงิน 500 บาท มาตั้งแต่ กพ. จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับ ผมไม่ได้ขอเค้า 5 หมื่นนะครับ ?
คนที่พอจะพึ่งพาได้ มีแต่เพื่อนเก่าๆ สมัยเรียน มัธยม ที่เป็นเพื่อนสนิท เท่านั้นที่ยังช่วยส่งเงินมาช่วยให้หลานมีข้าวมีนมกินบ้าง แต่ เพื่อนที่ยินดีช่วย ก็ไม่ได้มีเงิน หรือ รวยอะไร ทำงานเงินเดือนก็น้อย แต่เค้าพยายามช่วยเราเต็มที่
พอเข้า FB เพื่อนที่เราไปขอความช่วยเหลือ แล้วเค้าบอกไม่มี ลำบาก แต่กลับซื้อรถเบนซ์ราคาสองล้าน , กินอาหารญี่ปุ่น มื้อละ สามพันมาโชว์กันเต็มไปหมด ดูแล้วก็น้ำตาไหล เสียใจ
ความเป็นเพื่อน มันหมดไปกับงานที่ผมต้องเสียไปด้วยหรือนี่ ? ไม่มีเงินก็ไม่มีคนคบ นี่คือความเป็นจริงของโลกนี้ใชไหม ?
ยิ่ง ผมมาหางานในเน็ต เปิด FB มันยิ่งทำให้ผมท้อใจ เสียใจ และ โกรธตัวเอง
บางคน พาลูกๆ ไปเที่ยวเล่น กินอาหาร ซื้อของเล่นให้ลูกตัวเองเล่น แต่ลูกผมไม่มีสิทธิ์นั้นเลย
บางคน กินอาหารดีๆแพงๆ แต่กลับไม่มีเงินจะช่วยเพื่อนเวลาลำบากที่สุดแบบนี้
ที่รู้สึกแย่มากก็คือ บางคน ออกตัวระดมทุนช่วยเหลือหมาจรจัด สัตว์ป่วย แถวบ้าน ได้หลายพันบาท ถึง เป็นหมื่นบาท เจ้าตัวออกเงินเปิดกองทุนให้เห็น 3-5 พันบาท แต่กลับเพื่อนบอกว่าไม่มีเงินกำลังแย่ กำลังลำบาก
ชีวิตความลำบากของผม มันมีค่าน้อยว่าหมาจรจัดอีกหรือนี่ ?
แต่ก็มันก็คือเงินของเค้า เค้าจะช่วยเรา 1 บาท ช่วยหมาจรจัด 1 หมื่น มันก็เรื่องของเค้านี่ เราจะไปแคร์ทำไม ?
พยายามจะไม่คิด ไม่เครียด แต่ปัญหาก็รุมเร้าเข้ามาทุกวันๆ
ตอนนี้ ทาง รร. เค้าก็เตือนมาแล้วเรื่องค่าเทอม ต้องชำระ ไม่เช่นนั้นก็ต้องให้หยุดเรียนไปก่อน หรือ ให้สมัครใหม่เทอมสอง หรือ ซ้ำ อ.สองใหม่อีกรอบในปีหน้า
พอมีปัญหา ทางผม กับ ภรรยา ก็ทะเลาะกัน เครียด กดดัน ทำให้ลูกต้องพลอยเครียดไปด้วย
จนภรรยา เ่อ่ยปากจะหนีไปอยู่กับแม่เธอ ที่ ตจว. จะหอบลูกไป ทิ้งผมไว้กับความไม่เอาไหนของผม
(ทาง พ่อตา แม่ยายก็ไม่ใช่ว่าฐานะดี เป็นชาวนา หนี้สินก็มี ก่อนนี้ผมก็ช่วยส่งหนี้ปิดไปเป็นแสนบาทแล้ว แต่พอเป็นแบบนี้ กลับบอกว่าไม่มีเค้าก็ลำบากเหมือนกัน)
ผมได้เห็นกระทู้ ที่มีคนมาขอกู้เงิน เพื่อครอบครัวเค้า
ก็รู้สึกถึงว่า เค้าก็คงเป็นแบบผมในตอนนี้แหละ
แต่เค้าคงดีกว่าผม เพราะเสื้อผ้าดีๆที่เค้าใส่ ผมก็เอาไปแลกไข่ไก่กินจนหมดแล้ว ตอนนี้มีแต่เสื้อผ้าเก่าๆเท่านั้นที่เหลืออยู่
กรณีแบบนี้ คุณๆจะทำอย่างไร ? จะแก้ไขปัญหาอย่างไง ให้รอดไปให้ได้
อ้อ...ผมเพิ่งได้รับการติดต่องานแห่งหนึ่ง ให้ไปคุยกับเค้าวัน จันทร์ อังคาร นี้ หวังว่าจะได้งานทำซะที
มันทำให้ผมคิดว่า บางคน เลือกจะปล้นร้านทอง ปล้นธนาคาร ค้ายาบ้า หรือ ส่งยา เค้าเหล่านั้นเหมือนผมหรือเปล่า ?
มีคนแนะนำให้ทำแบบนั้น ส่งยาได้ครั้งละ 5 พัน นะ
ทำสองสามครั้ง ก็รอดแล้ว มีเงินให้ลูกกิน จ่ายค่าที่ค้างไว้ทั้งหมด แล้ว ก้เลิกสิ...
แล้วถ้าผมทำ ผมโดนจับ ติดคุก ลูกผมจะเป็นยังไง ? ผมก็เลิกความคิดนั้นไปหมดแล้ว มันคงไม่คุ้มที่จะทำแบบนั้นแน่ๆ