ผมติดตามกระทู้เกี่ยวกับจำนำข้าวและประกันรายได้มาหลายกระทู้ แต่จะไม่ค่อยมีการพูดถึงจำนวนคนที่ได้รับประโยชน์จากทั้งสองโครงการวันนี้เลยอยากนำเสนอดูบ้างครับ
วิธีคิด หรือ คำนวณผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ
โครงการประกันรายได้ ปี 52 ขาดทุน 41,405 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ 3,000,000 คน
- รับประกันสูงสุดไม่เกิน 25 ตัน ต่อ คน (ประมาณ 25 ไร่) ทำให้รัฐขาดทุนเฉลี่ยคนละ 13,666 บาท
- หากเกิดภัยพิบัติ เพลี้ยกระโดดลงแปลงข้าว เกษตรกรยังมีโอกาสได้รับเงินชดเชยส่วนต่างเพื่อเป็นทุนในการทำนาครั้งต่อไป
- เงินโอนตรงเข้าบัญชีเกษตรกร
- ปลูกข้าวเอาไว้กินก็สามารถขึ้นทะเบียนได้ คนที่มีที่นาแต่ไม่ทำก็ได้ (อันนี้ไม่ดี)
โครงการจำนำข้าว ปี 54/55 ขาดทุน 32,301 ล้านบาท (รวมค่าเช่า ค่าดำเนินการทุกอย่าง ค่าเสื่อมสภาพ) มีผู้เข้าร่วมโครงการ 1.29 ล้านราย ทำให้รัฐขาดทุนเฉลี่ยคนละ 25,039 บาท
- รับจำนำทุกเมล็ด และจำนำในราคาที่สูงกว่าตลาด
- ไม่มีข้าวไปขายไม่ได้เงิน โดนภัยธรรมชาติ เพลี้ยลงก็ไม่ได้เงิน
- ต้องเสียค่าเช่าโรงสี ค่าดำเนินงาน ค่าเสื่อมสภาพ
- ต้องการยกระดับราคาในตลาดโลก อันนี้ไม่ทราบว่าราคาดีขึ้นหรือยัง
จากการสรุปคร่าว ๆ ของทั้งสองโครงการพอที่จะทำให้เห็นข้อดีข้อเสียของทั้งสองโครงการ แต่หากเปรียบเทียบสองโครงการนี้แล้วจะเห็นได้ว่า
- ประกันรายได้จะมีคนได้รับผลประโยชน์เกือบ "2 เท่า" ของโครงการจำนำข้าว ขณะที่เงินที่ทำให้รัฐขาดทุนต่างกันเพียง "เท่าตัว"
- โครงการจำนำข้าวหากเปรียบเทียบเรื่องคนที่ได้รับผลประโยชน์ว่ากลุ่มไหนได้รับมากกว่ากัน จะพบว่า กลุ่มนายทุนได้รับมากกว่าเพราะเขามีข้าวในมือมากกว่าและยังเปิดโอกาสให้มีการสวมสิทธิ์เอาข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาขายได้ ซึ่งแตกต่างกับโครงการประกันรายได้ที่กำหนดให้ไม่เกิน 25 ตัน
หากคิดบนฐานประชากรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้จะพบว่า
- หากโครงการรับจำนำมีผู้เข้าร่วมโครงการ 3 ล้านคน อาจจะทำให้โครงการขาดทุน 75,000 ล้านบาท โดยคนที่มีข้าวมากก็จะได้เงินส่วนนี้ไปมากเช่นกัน
ผมคิดว่าจะจำนำที่ 15000 บาท/ตัน หรือ 20000 บาท/ตัน หากชาวนาที่มีที่นาน้อยอย่างเดียวที่ได้รับประโยชน์จากตรงนี้ก็ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก
ข้อเสนอ
- ควรกำหนดให้รับจำนำได้ไม่เกินกี่ตัน โดยมุ่งเน้นช่วยชาวนาที่มีที่ดินน้อยจริง ๆ
- ควรหันมาพัฒนาคุณภาพข้าวและระบบชลประทาน
- อื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยกันคิดครับ
โครงการประกันรายได้กับโครงการจำนำข้าว จุดใหญ่ ๆ ที่หลายคนละเลยที่จะพูดถึง
วิธีคิด หรือ คำนวณผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ
โครงการประกันรายได้ ปี 52 ขาดทุน 41,405 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ 3,000,000 คน
- รับประกันสูงสุดไม่เกิน 25 ตัน ต่อ คน (ประมาณ 25 ไร่) ทำให้รัฐขาดทุนเฉลี่ยคนละ 13,666 บาท
- หากเกิดภัยพิบัติ เพลี้ยกระโดดลงแปลงข้าว เกษตรกรยังมีโอกาสได้รับเงินชดเชยส่วนต่างเพื่อเป็นทุนในการทำนาครั้งต่อไป
- เงินโอนตรงเข้าบัญชีเกษตรกร
- ปลูกข้าวเอาไว้กินก็สามารถขึ้นทะเบียนได้ คนที่มีที่นาแต่ไม่ทำก็ได้ (อันนี้ไม่ดี)
โครงการจำนำข้าว ปี 54/55 ขาดทุน 32,301 ล้านบาท (รวมค่าเช่า ค่าดำเนินการทุกอย่าง ค่าเสื่อมสภาพ) มีผู้เข้าร่วมโครงการ 1.29 ล้านราย ทำให้รัฐขาดทุนเฉลี่ยคนละ 25,039 บาท
- รับจำนำทุกเมล็ด และจำนำในราคาที่สูงกว่าตลาด
- ไม่มีข้าวไปขายไม่ได้เงิน โดนภัยธรรมชาติ เพลี้ยลงก็ไม่ได้เงิน
- ต้องเสียค่าเช่าโรงสี ค่าดำเนินงาน ค่าเสื่อมสภาพ
- ต้องการยกระดับราคาในตลาดโลก อันนี้ไม่ทราบว่าราคาดีขึ้นหรือยัง
จากการสรุปคร่าว ๆ ของทั้งสองโครงการพอที่จะทำให้เห็นข้อดีข้อเสียของทั้งสองโครงการ แต่หากเปรียบเทียบสองโครงการนี้แล้วจะเห็นได้ว่า
- ประกันรายได้จะมีคนได้รับผลประโยชน์เกือบ "2 เท่า" ของโครงการจำนำข้าว ขณะที่เงินที่ทำให้รัฐขาดทุนต่างกันเพียง "เท่าตัว"
- โครงการจำนำข้าวหากเปรียบเทียบเรื่องคนที่ได้รับผลประโยชน์ว่ากลุ่มไหนได้รับมากกว่ากัน จะพบว่า กลุ่มนายทุนได้รับมากกว่าเพราะเขามีข้าวในมือมากกว่าและยังเปิดโอกาสให้มีการสวมสิทธิ์เอาข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาขายได้ ซึ่งแตกต่างกับโครงการประกันรายได้ที่กำหนดให้ไม่เกิน 25 ตัน
หากคิดบนฐานประชากรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้จะพบว่า
- หากโครงการรับจำนำมีผู้เข้าร่วมโครงการ 3 ล้านคน อาจจะทำให้โครงการขาดทุน 75,000 ล้านบาท โดยคนที่มีข้าวมากก็จะได้เงินส่วนนี้ไปมากเช่นกัน
ผมคิดว่าจะจำนำที่ 15000 บาท/ตัน หรือ 20000 บาท/ตัน หากชาวนาที่มีที่นาน้อยอย่างเดียวที่ได้รับประโยชน์จากตรงนี้ก็ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมาก
ข้อเสนอ
- ควรกำหนดให้รับจำนำได้ไม่เกินกี่ตัน โดยมุ่งเน้นช่วยชาวนาที่มีที่ดินน้อยจริง ๆ
- ควรหันมาพัฒนาคุณภาพข้าวและระบบชลประทาน
- อื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยกันคิดครับ