วันอาทิตย์บ่ายๆกับเรื่องเบาๆ นำมาเล่าสู่กันฟังอีกเช่นเคยครับคุณผู้ชม
เย็นวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง จขกท.ได้แวะไปทานมื้อค่ำที่ร้านอาหารใกล้ๆบ้าน
ร้านนี้เป็นร้านอาหารอีสาน มีที่นั่งเป็นซุ้มไม้ไผ่ บรรยากาศใช้ได้ จิบเบียร์แกล้มเนื้อย่างดูเข้าที ทีเดียวเชียวแหละ
จริงๆร้านนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่ถึงเดือน เจ้าของร้านเองก็ชวนให้ไปอุดหนุนหลายครั้งแล้วล่ะ แต่เพิ่งจะมีโอกาสได้ไป
เข้าไปถึง เจ้าของร้านก็รีบเข้ามาคุยด้วยทันที เนื่องเพราะเราสองเคยมีความหลังกันมาเล็กน้อยนั่นเอง
ย้อนกลับไปสักสามปี เจ้าของร้านอาหารอีสานร้านนี้ เคยเป็นแม่ค้าขายปลาดุกย่างที่ตลาดใกล้ๆบ้านมาก่อน
ด้วย จขกท.ชอบกินปลาดุกย่าง ก็เลยอุดหนุนบ่อยๆ เราก็เลยรู้จักมักคุ้นกันดี
มีวันนึง สังเกตุเห็นแม่ค้าคนนี้ดูโรยๆ เหมือนคนไม่สบายก็เลยไถ่ถามดู ปรากฏว่าเธอป่วยจริงๆ
แต่จำเป็นต้องมาขายของ เพราะต้องส่งเงินกู้รายวัน วันละ 240 ( ถ้าจำไม่ผิดนะ )
วันนั้นดูอาการเธอแล้วก็รู้สึกเห็นใจ เลยบอกให้เธอกลับไปพักผ่อน จะออกเงินให้ก่อน 480 บาทเผื่อไว้จ่ายอีกวันนึงด้วย
แต่ไม่ได้ให้เปล่าหรือให้ยืมนะ ถือเป็นการซื้อปลาดุกย่างล่วงหน้าแล้วกัน แม่ค้าก็ขอบอก ขอบใจเป็นการใหญ่ทีเดียว
รับปากว่าขายปลาดุกที่ย่างไว้หมดเมื่อไหร่ จะกลับไปนอนทันที ( เรื่องนี้เคยตั้งกระทู้ไปแล้วครั้งนึง นานแล้วล่ะ )
หลังจากนั้น จขกท.ก็มารับปลาดุกย่างไปจนครบจำนวนเงิน แล้วก็กลับไปทำสวนอยู่อีกที่นึง
ผ่านไปหลายเดือนกลับมาบ้าน ไปที่ตลาด ปรากฏว่าเธอเลิกขายไปแล้ว แต่ก็มีเจ้าอื่นมาขายแทน ก็เลยลืมๆเรื่องนี้ไปแล้ว
จนเมื่อต้นเดือน ก็มาเจอแม่ค้าคนนี้อีกครั้ง เธอบอกว่าตอนนี้มาเปิดร้านอาหารอีสานอยู่แถวนี้ อยากให้ลองไปทานดู
จนเมื่อเย็นวันศุกร์ จึงมีโอกาสแวะไปอุดหนุนเธอ เธอบอกว่าไม่เคยลืมบุญคุณครั้งนั้นเลย
เป็นสิ่งดีๆในชีวิตครั้งนึงที่เธอไม่เคยลืมเลือน
เธอยังจำได้ดี วันนั้นสภาพของเธอย่ำแย่มาก ซื้อของมาขายแล้วก็ไม่เหลือเงินติดตัวเลย เงินกู้รายวันก็ต้องจ่าย
ป่วยยังไงก็ต้องลุกมาขายของ แต่เงิน 480 กลับทำให้เธอหายใจหายคอคล่องขึ้นมากมายเหลือเกิน
เพราะยามอับจนมันก็อับจนจริงๆ เธอบอกว่าหลังจากชดใช้เงินที่กู้มาจนหมด ก็ไม่เคยกู้เงินรายวันอีกเลย เข็ดแล้วจริงๆ
หลังจากนั้น เธอก็ไปขายของตามตลาดนัด จนพอมีเงินทุนมาเปิดร้านอาหารอีสานนี่แหละ
จขกท.ฟังแล้วก็อดปลาบปลื้มใจไม่ได้ ทั้งที่ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว และจริงๆเราก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเค้ามากมายนัก
ไม่ได้ให้เปล่า ไม่ได้ให้ยืม เพียงแต่แค่จ่ายค่าปลาดุกย่างล่วงหน้าเอง
จขกท.เอง ถึงจะยังจนอยู่ แต่เงินที่ออกให้ก่อน 480บาท ก็ไม่ถึงกับต้องเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีอยู่ ออกไปเมื่อไหร่ล่ะ
จริงอยู่ เธอมีวันนี้ได้ ก็เป็นเพราะความขยัน อดทนของเธอเองต่างหาก และอาจจะไม่เกี่ยวกับเงิน 480 นั้นเลยก็ได้
แต่จขกท.ก็เชื่อนะ ว่าน้ำใจเพียงเล็กๆน้อยที่มีให้กันนี่แหละ ที่ทำให้สังคมของเราน่าอยู่ขึ้นมากมายทีเดียว
เล่าสู่กันฟัง...ความหลังกับแม่ค้าปลาดุกย่าง
เย็นวันศุกร์ที่ผ่านมานี่เอง จขกท.ได้แวะไปทานมื้อค่ำที่ร้านอาหารใกล้ๆบ้าน
ร้านนี้เป็นร้านอาหารอีสาน มีที่นั่งเป็นซุ้มไม้ไผ่ บรรยากาศใช้ได้ จิบเบียร์แกล้มเนื้อย่างดูเข้าที ทีเดียวเชียวแหละ
จริงๆร้านนี้เพิ่งเปิดมาได้ไม่ถึงเดือน เจ้าของร้านเองก็ชวนให้ไปอุดหนุนหลายครั้งแล้วล่ะ แต่เพิ่งจะมีโอกาสได้ไป
เข้าไปถึง เจ้าของร้านก็รีบเข้ามาคุยด้วยทันที เนื่องเพราะเราสองเคยมีความหลังกันมาเล็กน้อยนั่นเอง
ย้อนกลับไปสักสามปี เจ้าของร้านอาหารอีสานร้านนี้ เคยเป็นแม่ค้าขายปลาดุกย่างที่ตลาดใกล้ๆบ้านมาก่อน
ด้วย จขกท.ชอบกินปลาดุกย่าง ก็เลยอุดหนุนบ่อยๆ เราก็เลยรู้จักมักคุ้นกันดี
มีวันนึง สังเกตุเห็นแม่ค้าคนนี้ดูโรยๆ เหมือนคนไม่สบายก็เลยไถ่ถามดู ปรากฏว่าเธอป่วยจริงๆ
แต่จำเป็นต้องมาขายของ เพราะต้องส่งเงินกู้รายวัน วันละ 240 ( ถ้าจำไม่ผิดนะ )
วันนั้นดูอาการเธอแล้วก็รู้สึกเห็นใจ เลยบอกให้เธอกลับไปพักผ่อน จะออกเงินให้ก่อน 480 บาทเผื่อไว้จ่ายอีกวันนึงด้วย
แต่ไม่ได้ให้เปล่าหรือให้ยืมนะ ถือเป็นการซื้อปลาดุกย่างล่วงหน้าแล้วกัน แม่ค้าก็ขอบอก ขอบใจเป็นการใหญ่ทีเดียว
รับปากว่าขายปลาดุกที่ย่างไว้หมดเมื่อไหร่ จะกลับไปนอนทันที ( เรื่องนี้เคยตั้งกระทู้ไปแล้วครั้งนึง นานแล้วล่ะ )
หลังจากนั้น จขกท.ก็มารับปลาดุกย่างไปจนครบจำนวนเงิน แล้วก็กลับไปทำสวนอยู่อีกที่นึง
ผ่านไปหลายเดือนกลับมาบ้าน ไปที่ตลาด ปรากฏว่าเธอเลิกขายไปแล้ว แต่ก็มีเจ้าอื่นมาขายแทน ก็เลยลืมๆเรื่องนี้ไปแล้ว
จนเมื่อต้นเดือน ก็มาเจอแม่ค้าคนนี้อีกครั้ง เธอบอกว่าตอนนี้มาเปิดร้านอาหารอีสานอยู่แถวนี้ อยากให้ลองไปทานดู
จนเมื่อเย็นวันศุกร์ จึงมีโอกาสแวะไปอุดหนุนเธอ เธอบอกว่าไม่เคยลืมบุญคุณครั้งนั้นเลย
เป็นสิ่งดีๆในชีวิตครั้งนึงที่เธอไม่เคยลืมเลือน
เธอยังจำได้ดี วันนั้นสภาพของเธอย่ำแย่มาก ซื้อของมาขายแล้วก็ไม่เหลือเงินติดตัวเลย เงินกู้รายวันก็ต้องจ่าย
ป่วยยังไงก็ต้องลุกมาขายของ แต่เงิน 480 กลับทำให้เธอหายใจหายคอคล่องขึ้นมากมายเหลือเกิน
เพราะยามอับจนมันก็อับจนจริงๆ เธอบอกว่าหลังจากชดใช้เงินที่กู้มาจนหมด ก็ไม่เคยกู้เงินรายวันอีกเลย เข็ดแล้วจริงๆ
หลังจากนั้น เธอก็ไปขายของตามตลาดนัด จนพอมีเงินทุนมาเปิดร้านอาหารอีสานนี่แหละ
จขกท.ฟังแล้วก็อดปลาบปลื้มใจไม่ได้ ทั้งที่ลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว และจริงๆเราก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเค้ามากมายนัก
ไม่ได้ให้เปล่า ไม่ได้ให้ยืม เพียงแต่แค่จ่ายค่าปลาดุกย่างล่วงหน้าเอง
จขกท.เอง ถึงจะยังจนอยู่ แต่เงินที่ออกให้ก่อน 480บาท ก็ไม่ถึงกับต้องเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีอยู่ ออกไปเมื่อไหร่ล่ะ
จริงอยู่ เธอมีวันนี้ได้ ก็เป็นเพราะความขยัน อดทนของเธอเองต่างหาก และอาจจะไม่เกี่ยวกับเงิน 480 นั้นเลยก็ได้
แต่จขกท.ก็เชื่อนะ ว่าน้ำใจเพียงเล็กๆน้อยที่มีให้กันนี่แหละ ที่ทำให้สังคมของเราน่าอยู่ขึ้นมากมายทีเดียว