เราว่าเรื่องของคุณจา พนม นี่มันแหม่งๆน่ะค่ะ

กระทู้คำถาม
''พ่อ จา พนม'' ตรอมใจทรุดหนัก วอนอยากเห็นหน้าลูก หลังไม่ได้รับการติดต่อนานกว่า 5 เดือน
ที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 6 บ้านสายตรี 4 ต.คงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบ นายทองดี ยีรัมย์ อายุ 64 ปี บิดาของ จา พนม ยีรัมย์ อยู่ในชุดขาวถือศีลภาวนา บนหัวนอนมีเครื่องบูชาตามความเชื่อของชาวส่วย นอนซมด้วยอาการแน่นหน้าอก ทานอาหารได้น้อย โดยมี นางรินทร์ ยีรัมย์ อายุ 62 ปี มารดาของพระเอกนักบู๊ พร้อมด้วย นางหัทยา ยีรัมย์และ นายทวีศักดิ์ ยีรัมย์ พี่สาวและพี่ชายของ จา พนม และญาติ คอยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง เนื่องจากมีอาการตรอมใจมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2556 ที่ผ่านมา หลังมีข่าวแพร่ออกมาว่า จา พนม ลูกชายสุดที่รัก ได้ติดต่อและมาเยี่ยมเยียนพ่อ-แม่แต่ลูกชายไม่เคยติดต่อหรือมาหาพ่อกับแม่อย่างที่เป็นข่าวออกไป ทำให้ นายทองดี ต้องคิดมากและตรอมใจมาตลอด ประกอบกับทางครอบครัวเชื่อว่าอาการป่วยดังกล่าวเกิดจากการกระทำผิดปะกำช้าง และเกิดจากที่ จา พนม นั้นไม่มากราบไหว้บรรพบุรุษ จึงทำให้มีอันเป็นไปต่างๆ นาๆ  มื่อมีอาการกำเริบ นายทองดี จะมีอาการแน่นหน้าอก และในบางครั้งก็จะไม่รู้สึกตัว

ด้าน นางรินทร์ ยีรัมย์ มารดาของ จา พนม กล่าวทั้งน้ำตาว่า แม่คิดถึงลูก ทุกวันนี้พ่อป่วยหนัก ตรอมใจคิดถึงแต่ลูก พาไปหาหมอที่โรงพยาบาล ก็ได้ยามาทานอย่างต่อเนื่อง แต่อาการไม่ดีขึ้น จะนอนซม และนั่งเหม่อลอย บ่นแต่คิดถึงลูก

---- มีต่อ----
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
ขอวิเคราะห์ตามที่ติดตามข่าวมาตั้งแค่ครั้งแรก.. ตอนไม่มีเมีย จาพนมยกเงินให้ที่บ้านมาตลอด และที่บ้านก็ได้เงินส่วนใหญ่มาจาก จาพนมเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงเพราะแม้กระทั่ง น้องเขย น้องสาว หรือแมัแต่หลานๆจาพนมก็ต้องเป็นคนแบกภาระนี้เอาไว้ ด้วยความเต็มใจตามประสาคนไม่ค่อยใช้จ่ายอะไร  พอผ่านไปเรื่อยๆทุกคนก็เหมือนเคยชินในการใช้ชึวิตแบบนี้ จนวันหนึ่งที่จา พนม มีเมีย มีลูก มันคือการสร้างครอบครัวหนึ่งที่ต้องเริ่มมาจากเงิน จาเริ่มให้ที่บ้านน้อยลง และหันมาดูแลครอบครัวมากขึ้นรวมทั้งจำกัดการใช้เงินของพ่อแม่ โดยเริ่มจากให้น้องสาวตัวเอง เขัามาช่วยพ่อแม่ด้วยและจ่ายค่ารับผิดชอบลูกเอง ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปและทุกคนก็มองว่า เมียจาแน่ๆคือผู้อยู่เบื้องหลังทำให้จาเปลี่ยนไป และเริ่มพากันเรียกร้องสิทธิที่ตัวเองเคยได้รับ  จาเตือนพ่อแม่ให้เก็บเงินหยุดช่วยเหลือครอบครัวน้องสาวน้องเขยได้แล้ว อต่พ่อแม่ก็ยังให้เงินให้ทองกับน้องสาว น้องเขยอยู่ดี จนเป็นที่มาของการทะเลาะเบาะแว้งและไม่ไปเจอพ่อแม่อีก.. มองอีกแง่ จาพนมเหนื่อยมามากแลัวเพื่อครอบครัว มาถึงตอนนี้จา พนมมีครอบครัวที่ต้องดูแล คนเป็นพ่อแม่น่าจะดึใจที่ลูกกำลังจะสร้างรัง  มองอีกแง่คนไทยยังไงก็นับถือพ่อแม่เป็นที่ตั้งเรื่องนี้สามารถดราม่าได้อีกหลายวัน  และแน่นอนสังคมมองคนเป็นลูก ผิดเสมอ แม้จะมีเหตุผลมาแย้งแค่ไหนก็ผิดวันยังค่ำ
ความคิดเห็นที่ 19
เสียดาย ดาราไทยคนเดียวที่มีโอกาสไประดับโลก

ถ้า สิบปีที่แล้วเลือกถูกทาง คงไปถึงไหน้ว


เมืองไทย บุญคุณมันท่วมหัวจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 42
เราสงสารจานะ บอกตรงๆว่าอ่านข่าวกันแล้วต้องพิจารณาความทั้งสองฝ่าย อย่าเชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด โดยเฉพาะฝ่ายที่พูดมากๆพูดเยอะๆ
ลองคิดดูเล่นๆ คนอะไรตามจิกอีกฝ่ายไม่เลิกไม่รา เอาดีใส่ตัวตลอด ตัวไม่เคยผิดเลย

ที่เรากล้าพูดว่าสงสารจาเพราะ เรารู้ เราเห็น เราเคยอยู่ใกล้พวกเค้ามาก่อน ใกล้มากๆด้วย
และคนที่เคยอยู่ใกล้ๆเค้าแบบเรา เค้ารู้เค้าเห็นกันทั้งนั้น ว่าน้องเขยกะน้องสาวจาน่ะ ไม่ธรรมดาค่ะ โดยเฉพาะอีตาน้องเขย ขอบอก อุอุ

เรื่องเงิน บอกได้แค่ว่ามีคนช่วยผลาญค่ะ มือเติบซะด้วย สารพัดจะลงทุน หึหึหึหึ
ความคิดเห็นที่ 15
ถ้าย่อมาเดี๋ยวมันบิดเบือน มันจะกลายเป็นสรุปข่าวตามความคิดเห็นเรา ไม่ดีๆๆๆ
ความคิดเห็นที่ 6
สรุปให้เหลือ 3 บรรทัดให้หน่อยนะ คห ต่อไป เดี๋ยวแวะมาอ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่