วันพระ

กระทู้สนทนา
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า  “ราชกุมาร  องค์ของภิกษุผู้มีความเพียร  ๕  ประการนี้
ก็อย่างนั้นเหมือนกัน

      องค์ของภิกษุผู้มีความเพียร  ๕  ประการ  อะไรบ้าง
      คือ  ภิกษุในธรรมวินัยนี้
            ๑.  เป็นผู้มีศรัทธา  เชื่อปัญญาเครื่องตรัสรู้ของตถาคตว่า  ‘แม้เพราะ
                 เหตุนี้  พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น  เป็นพระอรหันต์  ตรัสรู้ด้วย
                 พระองค์เองโดยชอบ  เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ  เสด็จไปดี
                 รู้แจ้งโลก  เป็นสารถีฝึกผู้ที่ควรฝึกได้อย่างยอดเยี่ยม  เป็นศาสดาของ
                 เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย  เป็นพระพุทธเจ้า  เป็นพระผู้มีพระภาค’
            ๒.  เป็นผู้มีสุขภาพ  มีโรคาพาธน้อย  ประกอบด้วยไฟธาตุสำหรับย่อย
                 อาหารสม่ำเสมอ  ไม่เย็นนัก  ไม่ร้อนนัก  ปานกลางพอเหมาะแก่การ
                 บำเพ็ญเพียร
            ๓.  เป็นผู้ไม่โอ้อวด  ไม่มีมารยา  เปิดเผยตนตามความเป็นจริงในศาสดา
                 หรือในเพื่อนพรหมจารีผู้รู้ทั้งหลาย
            ๔.  เป็นผู้ปรารภความเพียร  เพื่อละอกุศลธรรม  เพื่อยังกุศลธรรมให้ถึง
                 พร้อม  เป็นผู้มีกำลัง  มีความบากบั่นมั่นคง  ไม่ทอดทิ้งธุระในกุศล
                 ธรรมทั้งหลาย
            ๕.  เป็นผู้มีปัญญา  ประกอบด้วยปัญญาที่เป็นอริยะ  เห็นความเกิดและ
                 ความดับ  สามารถชำแรกกิเลสให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ
      ราชกุมาร  นี้แล  คือองค์ของภิกษุผู้มีความเพียร  ๕  ประการ

      [๓๔๕]  ราชกุมาร  ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งความเพียร  ๕  ประการนี้
เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ  จะพึงทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ยอดเยี่ยมอันเป็นที่สุดแห่ง
พรหมจรรย์  ที่เหล่ากุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ  ด้วย
ปัญญาอันยิ่งเองเข้าถึงอยู่ในปัจจุบันได้  ใช้เวลาเพียง  ๗  ปี
      ราชกุมาร  ไม่ต้องถึง  ๗  ปี  ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งความเพียร  ๕  ประการนี้
เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ  จะพึงทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ยอดเยี่ยมอันเป็นที่สุดแห่ง
พรหมจรรย์  ที่เหล่ากุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ  ด้วย
ปัญญาอันยิ่งเองเข้าถึงอยู่ในปัจจุบันได้  ใช้เวลาเพียง  ๖  ปี  ฯลฯ  ๕  ปีฯลฯ  ๔  ปี  ฯลฯ
๓  ปี  ฯลฯ  ๒  ปี  ฯลฯ  ๑  ปี
      ราชกุมาร  ไม่ต้องถึง  ๑  ปี  ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งความเพียร  ๕  ประการนี้
เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ  จะพึงทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ยอดเยี่ยมอันเป็นที่สุดแห่ง
พรหมจรรย์  ที่เหล่ากุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ  ด้วย
ปัญญาอันยิ่งเองเข้าถึงอยู่ในปัจจุบันได้  ใช้เวลาเพียง  ๗  เดือน
      ราชกุมาร  ไม่ต้องถึง  ๗  เดือน  ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งความเพียร  ๕  ประการนี้
เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ  จะพึงทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ยอดเยี่ยมอันเป็นที่สุดแห่ง
พรหมจรรย์  ที่เหล่ากุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ  ด้วย
ปัญญาอันยิ่งเองเข้าถึงอยู่ในปัจจุบันได้  ใช้เวลาเพียง  ๖  เดือน  ฯลฯ  ๕  เดือน  ฯลฯ
๔  เดือน  ฯลฯ  ๓  เดือน  ฯลฯ  ๒  เดือน  ฯลฯ  ๑  เดือน  ฯลฯ  กึ่งเดือน
    ราชกุมาร  ไม่ต้องถึงกึ่งเดือน  ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งความเพียร  ๕  ประการนี้
เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ  จะพึงทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ยอดเยี่ยมอันเป็นที่สุดแห่ง
พรหมจรรย์  ที่เหล่ากุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ  ด้วย
ปัญญาอันยิ่งเองเข้าถึงอยู่ในปัจจุบันได้  ใช้เวลาเพียง  ๗  คืน  ๗  วัน
    ราชกุมาร  ไม่ต้องถึง  ๗  คืน  ๗  วัน  ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งความเพียร
๕  ประการนี้  เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ  จะพึงทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ยอดเยี่ยม
อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์  ที่เหล่ากุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบ
ต้องการ  ด้วยปัญญาอันยิ่งเองเข้าถึงอยู่ในปัจจุบันได้  ใช้เวลาเพียง  ๖  คืน  ๖  วัน
ฯลฯ  ๕  คืน  ๕  วัน  ฯลฯ  ๔  คืน  ๔  วัน  ฯลฯ  ๓  คืน  ๓  วัน  ฯลฯ  ๒  คืน  ๒  วัน  ฯลฯ
๑  คืน  ๑  วัน
    ราชกุมาร  ไม่ต้องถึง  ๑  คืน  ๑  วัน  ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์แห่งความเพียร
๕  ประการนี้  เมื่อได้ตถาคตเป็นผู้แนะนำ  มีตถาคตสั่งสอนในเวลาเย็น  ก็จักบรรลุ
คุณวิเศษได้ในเวลาเช้า  มีตถาคตสั่งสอนในเวลาเช้า  ก็จักบรรลุคุณวิเศษได้ในเวลาเย็น”


พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ [๔. ราชวรรค] ๕. โพธิราชกุมารสูตร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่