dying young (1991) เป็นหนังรักโรแมนติด ดราม่า ที่สร้างชื่ออีกเรื่องให้กับ จูเลีย โรเบิร์ตส์ ในปี 1991
หลังจากที่เจ๊จูแจ้งเกิดกับบทโสเภณีที่หลงรักกับมหาเศรษฐีหนุ่มในเรื่อง "ผู้หญิงบานช่ำ" ปี 1990
หนังเรื่องนี้เราเคยดูแล้ว 1 ครั้งตอนยังเป็นเด็ก จำได้ลางๆ นานมาก ไม่ต่ำกว่า 15 ปี มาแล้ว
วันนี้โอกาสดี อีกแล้วได้กลับมาดูอีกครั้งโดยความบังเอิญจริงๆ
จูเลีย รับบทเป็น ฮิลลารี่ โอนีลส์ ที่กำลังตกงานและเฮิร์ทหนักที่ถูกแฟนนอกใจ เธอไปได้งานเป็นผู้ดูแล
ผู้ป่วยที่เป็นลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลืดขาว) ซึ่งก็คือ วิคเตอร์ พระเอกของเรื่องนั่นเอง
วิคเตอร์ เป็นลูกมหาเศรษฐี ที่ป่วยเป็นลูคิเมียตั้งแต่วัยรุ่น วันเวลาที่เธอช่วยดูแลวิคเตอร์
นั้นทำให้เธอรู้สึกสงสารวิคเตอร์จับใจ ทั้งผลข้างเคียงจากการทำคีโมในแต่ละครั้ง
จากความสงสาร บวกกับวันเวลาได้ทำให้ ทั้ง 2 เริ่มชอบพอกัน จนกลายเป็นความรัก
หากแต่วิคเตอร์เจ็บปวด ทุกข์ทรมาณจากผลข้างเคียงของคีโมอย่างมาก
เข้าเลยตัดสินใจหนีการทำคีโม และโกหกฮิลล์ ว่าอยากไปพักร้อนเพื่อฉลองการจบการทำคีโม
ทั้ง 2 ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนกระทั่งอาการมะเร็งของวิคเตอร์กำเริบ เพราะห่างหายจากการทำคีโมไปนาน
ฮิลล์จับได้ว่าวิคเตอร์โกหกว่าตัวเองหายแล้ว และกำลังจากจะจากเค้าไป
ตอนจบ ถึงกับน้ำตาไหลพราก ทั้ง 2 กลับมาคืนดีกัน และพระเอกต้องกลับบ้านไปเริ่มทำคีโมใหม่
เพราะนางเอกขอร้องพระเอกให้กลับไปรักษาตัวต่อ และบอกพระเอกว่า ..
"คุณต้องสู้เพื่อตัวคุณ เพื่อฉัน สู้เพื่อเรา และฉันจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป เพราะว่าฉันรักคุณ
ไม่ว่ามันจะหนักหนาแค่ไหนฉันจะอยูเคียงข้างคุณ หากคุณตายฉันจะกุมมือคุณไว้จนนาทีสุดท้ายเพราะฉันรักคุณ"
ดูฉากจบ จนขึ้นเครดิต กระทิชชู่หมดไปครึ่งม้วน

เราชอบหนังแนวที่ใช้พลังความสามารถทางการแสดงของนักแสดงแบบนี้ ฉากสุดท้าย
ทั้งพระเอกและนางเอก งัดเอาความสามารถทางดราม่าแอคติ้งมาใช้ทุกกระบวนท่า คนดูก็น้ำบ่อน้ำตาแตกเลย
เรื่องนี้นางเอกผมสวย พระเอกตาสวยเว่อร์ (เค้าคือคนที่เล่นเป็นพ่อของ พีเตอร์ พาร์คเกอร์ ใน อเมซซิ่ง สไปเดอร์แมน)

อันนี้ฉากขี่ม้า ในหนังไม่ยักกะมี อิอิ โดนตัดฉึบฉับ
เทรลเล่อร์
และอีกอันที่พลาดไม่ได้คือ เพลงสกอร์ประกอบหนังเรื่องที่จำได้จนวันนี้ สมัยก่อนละครไทยชอบฉวยเอาไปใช้หลายเรื่องเลย
กระทู้ดูหนังเก่า... dying young (1991) มีสปอยต์เนื้อหา
dying young (1991) เป็นหนังรักโรแมนติด ดราม่า ที่สร้างชื่ออีกเรื่องให้กับ จูเลีย โรเบิร์ตส์ ในปี 1991
หลังจากที่เจ๊จูแจ้งเกิดกับบทโสเภณีที่หลงรักกับมหาเศรษฐีหนุ่มในเรื่อง "ผู้หญิงบานช่ำ" ปี 1990
หนังเรื่องนี้เราเคยดูแล้ว 1 ครั้งตอนยังเป็นเด็ก จำได้ลางๆ นานมาก ไม่ต่ำกว่า 15 ปี มาแล้ว
วันนี้โอกาสดี อีกแล้วได้กลับมาดูอีกครั้งโดยความบังเอิญจริงๆ
จูเลีย รับบทเป็น ฮิลลารี่ โอนีลส์ ที่กำลังตกงานและเฮิร์ทหนักที่ถูกแฟนนอกใจ เธอไปได้งานเป็นผู้ดูแล
ผู้ป่วยที่เป็นลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลืดขาว) ซึ่งก็คือ วิคเตอร์ พระเอกของเรื่องนั่นเอง
วิคเตอร์ เป็นลูกมหาเศรษฐี ที่ป่วยเป็นลูคิเมียตั้งแต่วัยรุ่น วันเวลาที่เธอช่วยดูแลวิคเตอร์
นั้นทำให้เธอรู้สึกสงสารวิคเตอร์จับใจ ทั้งผลข้างเคียงจากการทำคีโมในแต่ละครั้ง
จากความสงสาร บวกกับวันเวลาได้ทำให้ ทั้ง 2 เริ่มชอบพอกัน จนกลายเป็นความรัก
หากแต่วิคเตอร์เจ็บปวด ทุกข์ทรมาณจากผลข้างเคียงของคีโมอย่างมาก
เข้าเลยตัดสินใจหนีการทำคีโม และโกหกฮิลล์ ว่าอยากไปพักร้อนเพื่อฉลองการจบการทำคีโม
ทั้ง 2 ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจนกระทั่งอาการมะเร็งของวิคเตอร์กำเริบ เพราะห่างหายจากการทำคีโมไปนาน
ฮิลล์จับได้ว่าวิคเตอร์โกหกว่าตัวเองหายแล้ว และกำลังจากจะจากเค้าไป
ตอนจบ ถึงกับน้ำตาไหลพราก ทั้ง 2 กลับมาคืนดีกัน และพระเอกต้องกลับบ้านไปเริ่มทำคีโมใหม่
เพราะนางเอกขอร้องพระเอกให้กลับไปรักษาตัวต่อ และบอกพระเอกว่า ..
"คุณต้องสู้เพื่อตัวคุณ เพื่อฉัน สู้เพื่อเรา และฉันจะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป เพราะว่าฉันรักคุณ
ไม่ว่ามันจะหนักหนาแค่ไหนฉันจะอยูเคียงข้างคุณ หากคุณตายฉันจะกุมมือคุณไว้จนนาทีสุดท้ายเพราะฉันรักคุณ"
ดูฉากจบ จนขึ้นเครดิต กระทิชชู่หมดไปครึ่งม้วน
เราชอบหนังแนวที่ใช้พลังความสามารถทางการแสดงของนักแสดงแบบนี้ ฉากสุดท้าย
ทั้งพระเอกและนางเอก งัดเอาความสามารถทางดราม่าแอคติ้งมาใช้ทุกกระบวนท่า คนดูก็น้ำบ่อน้ำตาแตกเลย
เรื่องนี้นางเอกผมสวย พระเอกตาสวยเว่อร์ (เค้าคือคนที่เล่นเป็นพ่อของ พีเตอร์ พาร์คเกอร์ ใน อเมซซิ่ง สไปเดอร์แมน)
อันนี้ฉากขี่ม้า ในหนังไม่ยักกะมี อิอิ โดนตัดฉึบฉับ
เทรลเล่อร์
และอีกอันที่พลาดไม่ได้คือ เพลงสกอร์ประกอบหนังเรื่องที่จำได้จนวันนี้ สมัยก่อนละครไทยชอบฉวยเอาไปใช้หลายเรื่องเลย