ผมว่าในที่สุดเอสเอ็มอีแบงก์อาจต้องไปพึ่งที่อื่นละครับ

กระทู้สนทนา
http://money.th.msn.com/stock/stock.aspx?cp-documentid=252664515

"กำลังดูแหล่งเงิน เราจะหาแหล่งทุนที่มีอายุยาวประมาณ 3-7 ปี เพื่อนำมาปล่อยกู้ดอกเบี้ยคงที่ และนำเงินทุนระยะสั้นมาปล่อยดอกเบี้ยแบบลอยตัว โดยฐานะเราสามารถกู้ได้ เพราะเราเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งรัฐถือหุ้นเกือบ 100% กฎหมายก็คุ้มครองอยู่แล้ว ถ้าคลังช่วยถือว่าค้ำประกันกลายๆ"

"ขณะนี้ ฝ่ายวางแผนกำลังทำแผนการระดมเงินทุน เพื่อเตรียมเสนอเข้าโครงสร้างการบริหาร และเสนอผู้ถือหุ้นใหญ่ คาดว่า กระบวนการระดมเงินทุนทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายใน แต่จะเป็นไปในลักษณะทยอยดำเนินการ"

"ใน 4 เดือน เราปล่อยกู้รายย่อยไปจำนวนมาก หรือกว่า 7,000 ล้านบาท ทั้งปีนี้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ และเก็บหนี้คืน โดยผลของการเติบโตสินเชื่อปล่อยใหม่จะต้องมากกว่าเก็บหนี้คืน 5% คิดว่า สินเชื่อยอดสินเชื่อคงค้างปีหน้าจะอยู่ 1.02-1.03 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 90,000 ล้านบาท ส่วนระยะยาว 5 ปี ตั้งเป้าโต 50% ผมอยากเห็นยอดสินเชื่อคงค้างโต 150,000 ล้านบาท"

"คนภายนอกมองการเมืองแทรก ถามว่า มีวิธีทำให้ไม่ใกล้ชิดได้หรือไม่ เพราะรัฐบาลเป็นเจ้าของ ดูแลโดยนักการเมือง ผมคิดว่า ที่ไหนก็เหมือนกัน แต่เราต้องเปลี่ยนวิธีปฏิบัติให้ชัดเจน ใครมาก็ทำตามนี้ ถ้าไม่เขียน ซ้ายก็ได้ ขวาก็ได้ อยู่ที่ตัวเองมากกว่า แต่ถ้าเราไม่แก้ไขระเบียบ ก็จะเกิดการเลือกปฏิบัติได้"

http://www.nationmultimedia.com/business/Chairman-of-troubled-SME-Bank-plans-to-raise-Bt100-30207431.html

"We aim to cut down NPLs as much as possible by debt restructuring, then we will employ the last resort of selling bad debt to asset-management companies."

"The bottom line is that there is no sense of ownership, so nobody cares much about the financial health of state enterprises,"
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่