สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ผมไปเส้นทางเดียวกับคุณทุกกระเบียดนิ้ว
เมื่อต้นสิงหาปีที่แล้ว กลับกันแค่ผมเริ่มที่ Leh จบที่ Srinagar
1. > อากาศช่วงกลางวันที่ระดับพื้นดิน ไม่ร้อน ไม่หนาว สำหรับคนไทยผมถือว่าสบายๆครับ
> แต่แสงแดดจัดมากๆ ถ้ากลัวดำ เตรียมเครื่องป้องกันไปเยอะๆ
> ยอดเขา หรือ pass ต่างๆ เช่น Chang La หรือ Khardung La อากาศหนาว-หนาวจัด ผมไปเจอหิมะทั้งสองที่
> ถ้าแพ้ฝุ่น เตรียมเครื่องป้องกันไปด้วย เพราะฝุ่น เยอะ-เยอะมาก+รถที่นั่นไม่มีแอร์ เปิดกระจกวิ่ง
> กลางคืน อากาศเย็นถึงหนาว ถ้าจะเดินไปไหนมาไหน ผมต้องใส่แบบค่อนข้างจัดเต็ม
> ผมไป 13 วัน เจอฝนไป 2-3 วัน ฝนที่นี่ตกไม่หนัก แต่ตกยืดเยื้อ
2. ไม่มี comment เรื่องวีซ่า เพราะไม่ได้ตามอัพเดตเลยครับ ว่าเข้มแค่ไหนแล้ว
3. เส้น Kargil - Zanskar ช่วงดังกล่าว สำหรับผมถือว่า OK ครับ ดอกไม่ใบหญ้าขึ้นสดชื่นเขียวขจี
ระยะทาง 200 กว่ากิโล วิ่งสิบสองชั่วโมง แต่ไม่น่าเบื่อเลย วิวสองข้างทางสวยงามมากๆๆครับ
คนขับบอกว่าจะใช้เส้นดังกล่าวได้ไม่กี่เดือน เพราะถ้าเป็นหน้าหนาวจะเข้าไม่ได้
4. Taxi ช่วง Kargil-Zanskar ถ้าจะเข้าแบบถูกต้อง ต้องเป็น Taxi ของเขต Kargil หรือ Zanskar เท่านั้น
ซึ่งในที่นี้คุณเริ่มที่ Kargil เพราะฉะนั้นก็ไปหาเอาที่ Kargil ได้เลย จะไปติดต่อกับ Taxi โดยตรงหรือจะให้โรงแรมติดต่อให้ก็ได้
ราคาจะ Fixed ไว้แล้ว ไป-กลับเส้นทางดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 13,000 - 14,000 รูปีต่อคัน (ราคาเมื่อปีที่แล้ว เป็นรถ Toyota Innova นั่งได้ 5 คน ไม่รวมคนขับ)
เมื่อคุณไปถึง Padum แล้วคุณจะเดินทางท่องเที่ยววัดในละแวกนั้น เช้น วัด Karsha หรือ วัด Stongdey คุณต้องใช้บริการ Taxi ของเขต Zanskar
ส่วนรถ Taxi ที่ตุณนั่งมาจาก Kargil จะทำได้เพียงจอดรอรับคุณกลับไป Kargil เท่านั้นครับ ซึ่งเป็นกฎระเบียบของละแวกนี้ ที่ไม่ให้ Taxi หากินทับเส้นทางกัน
5. > ยอดเขา Nun-Kun เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในแถบ Ladakh ภาวนาให้ฟ้าเปิดครับ ที่ผมไปฟ้าปิด อดดู
> เมือง Rangdum เป็นเมืองที่อยู่กึ่งกลางของเส้นทางเส้นนี้ วิ่งประมาณ 5-6 ชม. จาก Kargil นักท่องเที่ยวมักแวะทานข้าวเที่ยงกันที่นี่
> วัด Rangdum อยู่เลยเมือง Rangdum ออกมาหน่อยนึง ผมแค่ขับผ่าน ไม่ได้เข้าไปเที่ยว เป็นวัดที่ Location เท่ห์มาก เพราะตั้งอยู่โดดๆ กลางหุบเขา
> Penzi La เป็น Pass ที่สูงประมาณสี่พันเมตร สูงสุดของเส้นทางนี้
> Drang Drung Glacier ธารน้ำแข็งที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ผมได้เห็นธารน้ำแข็งครั้งแรกในชีวิตที่นี่แหละครับ
> วิวระหว่างทางที่สวยงาม ถือเป็นการเที่ยวไปในตัวแล้ว
6. จากประสบการณ์ของผมจองก่อนไม่จำเป็นว่าจะถูกกว่า
พี่ที่ไปกับผมเมื่อทริปที่แล้ว จองทีหลังผมแต่ได้ราคาถูกกว่า
แต่... ถ้ามัวจองช้าอาจเสี่ยงกับการไม่มีตั๋ว
ผมใช้ Indigo สำหรับ BKK-DEL-BKK
และ Go Air สำหรับ DEL-IXL, SXR-DEL
แถม 1 : ดูจากโปรแกรมแล้ว ผมเดาว่าคุณไม่เน้นที่ Srinagar
เรื่องที่พักที่ Srinagar ที่ผมไป ผมเลือกที่จะไม่นอนบ้านเรือครับ
เพราะผมรู้สึกว่า
1.) เข้า-ออก ลำบาก เพราะต้องนั่งเรือจากฝั่งเข้าไปยังตัวที่พัก นึกจะออกมาเดินเล่นก็ทำไม่ได้อย่างใจ
2.) ผมว่ามันดูสกปรก มากกว่าน่านอน
3.) ตื่นเช้ามาก็ออกเดินทางแล้ว
ด้วยเหตุผล 3 ข้อข้างบน ผมจึงตัดสินใจนอนโรงแรมบนฝั่งครับ
เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ
แถม 2 : ที่พักที่ Padum ผมแนะนำ Hotel Rigyal ครับ
คุณลุงที่เป็นเจ้าของน้ำใจดีมากๆๆ
โลเคขั่นก็ดี เดิน 5 นาทีก็ถึงตลาด
e-mail : rigyal@yahoo.com
มีปัญหาอะไรหลังไมค์มาถามได้เลย ยินดีตอบครับ
เมื่อต้นสิงหาปีที่แล้ว กลับกันแค่ผมเริ่มที่ Leh จบที่ Srinagar
1. > อากาศช่วงกลางวันที่ระดับพื้นดิน ไม่ร้อน ไม่หนาว สำหรับคนไทยผมถือว่าสบายๆครับ
> แต่แสงแดดจัดมากๆ ถ้ากลัวดำ เตรียมเครื่องป้องกันไปเยอะๆ
> ยอดเขา หรือ pass ต่างๆ เช่น Chang La หรือ Khardung La อากาศหนาว-หนาวจัด ผมไปเจอหิมะทั้งสองที่
> ถ้าแพ้ฝุ่น เตรียมเครื่องป้องกันไปด้วย เพราะฝุ่น เยอะ-เยอะมาก+รถที่นั่นไม่มีแอร์ เปิดกระจกวิ่ง
> กลางคืน อากาศเย็นถึงหนาว ถ้าจะเดินไปไหนมาไหน ผมต้องใส่แบบค่อนข้างจัดเต็ม
> ผมไป 13 วัน เจอฝนไป 2-3 วัน ฝนที่นี่ตกไม่หนัก แต่ตกยืดเยื้อ
2. ไม่มี comment เรื่องวีซ่า เพราะไม่ได้ตามอัพเดตเลยครับ ว่าเข้มแค่ไหนแล้ว
3. เส้น Kargil - Zanskar ช่วงดังกล่าว สำหรับผมถือว่า OK ครับ ดอกไม่ใบหญ้าขึ้นสดชื่นเขียวขจี
ระยะทาง 200 กว่ากิโล วิ่งสิบสองชั่วโมง แต่ไม่น่าเบื่อเลย วิวสองข้างทางสวยงามมากๆๆครับ
คนขับบอกว่าจะใช้เส้นดังกล่าวได้ไม่กี่เดือน เพราะถ้าเป็นหน้าหนาวจะเข้าไม่ได้
4. Taxi ช่วง Kargil-Zanskar ถ้าจะเข้าแบบถูกต้อง ต้องเป็น Taxi ของเขต Kargil หรือ Zanskar เท่านั้น
ซึ่งในที่นี้คุณเริ่มที่ Kargil เพราะฉะนั้นก็ไปหาเอาที่ Kargil ได้เลย จะไปติดต่อกับ Taxi โดยตรงหรือจะให้โรงแรมติดต่อให้ก็ได้
ราคาจะ Fixed ไว้แล้ว ไป-กลับเส้นทางดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 13,000 - 14,000 รูปีต่อคัน (ราคาเมื่อปีที่แล้ว เป็นรถ Toyota Innova นั่งได้ 5 คน ไม่รวมคนขับ)
เมื่อคุณไปถึง Padum แล้วคุณจะเดินทางท่องเที่ยววัดในละแวกนั้น เช้น วัด Karsha หรือ วัด Stongdey คุณต้องใช้บริการ Taxi ของเขต Zanskar
ส่วนรถ Taxi ที่ตุณนั่งมาจาก Kargil จะทำได้เพียงจอดรอรับคุณกลับไป Kargil เท่านั้นครับ ซึ่งเป็นกฎระเบียบของละแวกนี้ ที่ไม่ให้ Taxi หากินทับเส้นทางกัน
5. > ยอดเขา Nun-Kun เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในแถบ Ladakh ภาวนาให้ฟ้าเปิดครับ ที่ผมไปฟ้าปิด อดดู
> เมือง Rangdum เป็นเมืองที่อยู่กึ่งกลางของเส้นทางเส้นนี้ วิ่งประมาณ 5-6 ชม. จาก Kargil นักท่องเที่ยวมักแวะทานข้าวเที่ยงกันที่นี่
> วัด Rangdum อยู่เลยเมือง Rangdum ออกมาหน่อยนึง ผมแค่ขับผ่าน ไม่ได้เข้าไปเที่ยว เป็นวัดที่ Location เท่ห์มาก เพราะตั้งอยู่โดดๆ กลางหุบเขา
> Penzi La เป็น Pass ที่สูงประมาณสี่พันเมตร สูงสุดของเส้นทางนี้
> Drang Drung Glacier ธารน้ำแข็งที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ผมได้เห็นธารน้ำแข็งครั้งแรกในชีวิตที่นี่แหละครับ
> วิวระหว่างทางที่สวยงาม ถือเป็นการเที่ยวไปในตัวแล้ว
6. จากประสบการณ์ของผมจองก่อนไม่จำเป็นว่าจะถูกกว่า
พี่ที่ไปกับผมเมื่อทริปที่แล้ว จองทีหลังผมแต่ได้ราคาถูกกว่า
แต่... ถ้ามัวจองช้าอาจเสี่ยงกับการไม่มีตั๋ว
ผมใช้ Indigo สำหรับ BKK-DEL-BKK
และ Go Air สำหรับ DEL-IXL, SXR-DEL
แถม 1 : ดูจากโปรแกรมแล้ว ผมเดาว่าคุณไม่เน้นที่ Srinagar
เรื่องที่พักที่ Srinagar ที่ผมไป ผมเลือกที่จะไม่นอนบ้านเรือครับ
เพราะผมรู้สึกว่า
1.) เข้า-ออก ลำบาก เพราะต้องนั่งเรือจากฝั่งเข้าไปยังตัวที่พัก นึกจะออกมาเดินเล่นก็ทำไม่ได้อย่างใจ
2.) ผมว่ามันดูสกปรก มากกว่าน่านอน
3.) ตื่นเช้ามาก็ออกเดินทางแล้ว
ด้วยเหตุผล 3 ข้อข้างบน ผมจึงตัดสินใจนอนโรงแรมบนฝั่งครับ
เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ
แถม 2 : ที่พักที่ Padum ผมแนะนำ Hotel Rigyal ครับ
คุณลุงที่เป็นเจ้าของน้ำใจดีมากๆๆ
โลเคขั่นก็ดี เดิน 5 นาทีก็ถึงตลาด
e-mail : rigyal@yahoo.com
มีปัญหาอะไรหลังไมค์มาถามได้เลย ยินดีตอบครับ
แสดงความคิดเห็น
สอบถาม และ วานช่วยตรวจทริปเลห์ ลาดัก ครับ
ทริปนี้วางแผนจะไป แคชเมียร์ ซันสการ์ เลห์ ครับ เรียกได้ว่าครบเลย
ช่วงเวลาที่ไปคือ ปลายสิงหา ถึง ต้นกันยา (13 วัน) โดยวางแผนไว้ดังนี้ครับ
Day 1: Bkk - Delhi
Day 2: Delhi - Srinagar
Day 3: Seinagar - Sonamarg - Kargil
Day 4: Kargil - Rangdum - Padum
Day 5: Padum
Day 6: Padum - Kargil
Day 7: Kargil - Leh
Day 8: Leh เที่ยววัด และ สถานที่สำคัญ
Day 9: Leh - Pahgong - LeH
Day 10: Leh - Nubra valley
Day 11: Nubra valeey - Leh
Day 12: Leh เที่ยวเก็บตก
Day 13: Leh - Delhi - Bkk
ไม่ทราบว่า...จากทริปข้างต้น อยากทราบว่าควรปรับอะไรบ้างไหมครับ มีที่ไหนไม่น่าไปในช่วงฤดูดังกล่าวไหม
และมีคำถามเพิ่มเติม
1.) อากาศช่วงนั้น เวลากลางวันจะร้อนมากมั๊ย และ มีฝนมั๊ย แล้วกลางคืน สภาพอากศหนาวแค่ไหนครับ
2.) ในการขอวีซ่า ถ้าเรายังไม่จองที่พัก(กะว่าไปตายเอาดาบหน้า) จะมีปัญหาอะไรไหม เพราะได้ข่าวว่าช่วงปีที่ผ่าน เขาตรวจเคร่งมาก
3.) เส้น Zanskar ถ้าไปช่วงเดือนนั้น จะโอเคมั๊ยครับ เพราะถ้าไม่โอเคผมจะลองปรับไปเส้นอื่น (หารีวิวซันสการ์ช่วงสิงหายากมากกก)
4.) การจองรถแทกซี่เที่ยวเส้น Zanskar เราควรจองผ่านเอเจนซี่ หรือ ไปติดต่อโดยตรงกับคนขับเองดีครับ และราคาจะต่างกันขนาดไหน
5.) เส้นทางจาก Kargil ไป Zanskar และ Padum มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้างครับ
สุดท้าย
6.) ตั๋วเครื่องบิน ผมว่าจะจอง jet airways เลือกแบบ multicity แต่ปัญหาคือ เช็คราคาแต่ละวัน มีแต่จะสูงขึ้นๆ ถ้าเราเว้นช่วงไป แล้วกลับมาเช็คใหม่ ราคาจะลงมาต่ำเหมือนเดิมมั๊ยครับ
ขอบคุณครับ