เกร็ดสามก๊ก ๖ มิ.ย.๕๖
ฤทธิ์เดชขันที
เจียวต้าย
ขันทีคือผู้ชายที่ถูกตัดอวัยวะเพศ จนไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ ในพงศาวดารจีนแทบทุกเรื่อง จะกล่าวถึงบุคคลพวกนี้ ซึ่งมีหน้าที่ราชการฝ่ายใน รับใช้ฮ่องเต้ ฮองเฮา และปกครองนางสนมกำนัลทั้งปวง เพราะเป็นที่เชื่อใจได้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรี ที่มีอยู่นับพันในพระราชวัง ขันทีซึ่งไม่มีความรู้สึกทางเพศนั้น จึงมักจะมีความคิดทะเยอทะยาน อยากเป็นใหญ่ และมีความอิจฉาริษยาอยู่เป็นประจำ ดังนั้นบทบาทของขันทีในเรื่องจีนทั้งหลาย จึงหาคนดีได้น้อยนัก ส่วนใหญ่จะเป็นตัวก่อเหตุให้บ้านเมืองวุ่นวายอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องสามก๊ก
ขันทีคนแรกที่ปรากฏขึ้นก็คือ เทาเจียด ในรัชสมัยของพระเจ้าเลนเต้ เป็นขันทีผู้ใหญ่กับลูกน้องอีกเก้าคน เห็นว่าฮ่องเต้รักใคร่ไว้วางพระทัย จึงคิดกันกระทำการหยาบช้าต่าง ๆ บรรดาราชกิจทั้งหลายนั้น ก็ว่ากล่าวเอาผิดเป็นชอบ ขุนนางแลอาณาประชาราษฎรได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมาก ขุนนางผู้ใดที่เป็นพรรคพวกก็ยกย่องแต่งตั้ง ให้มีตำแหน่งใหญ่ขึ้น ผู้ใดที่ไม่ยอมอ่อนน้อมด้วย ก็หาเหตุให้ถอดจากตำแหน่ง หรือไม่ก็ให้พรรคพวกเอาตัวไปฆ่าเสีย และพระเจ้าเลนเต้ก็เชื่อถือถ้อยคำของขันทีเหล่านี้ทุกประการ ราชการแผ่นดินแลกฎหมายบ้านเมืองก็ผันแปรไป จึงเกิดโจรผู้ร้ายขึ้นเป็นอันมาก กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดก็คือกลุ่มโจรโพกผ้าเหลือง
พระเจ้าเลนเต้ก็ให้นายทหารเอกสามนายคุมทหารออกไปปราบปราม และออกประกาศไปตามหัวเมือง รับอาสาสมัครผู้มีฝีมือเข้มแข็งกล้าหาญ ให้ช่วยกันจับโจรโพกผ้าเหลือง ได้แล้วจะปูนบำเหน็จรางวัลและตั้งให้เป็นขุนนางด้วย ก็มีผู้อาสาพาพรรคพวกมาช่วยทหารหลวงปราบปรามพวกโจรกันหลายกลุ่ม รวมทั้ง เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย โจโฉ ตั๋งโต๊ะ และซุนเกี๋ยน ด้วย
ในการนี้ เตียวเหยียง ขันทีคนหนึ่งในสิบคนนั้น ก็เป็นหัวหน้าหาประโยชน์จากพวกที่ไปปราบปรามโจรโพกผ้าเหลือง ถ้าผู้ใดมีทรัพย์เอาข้าวของเงินทองมาให้ ก็นำความกราบทูลฮ่องเต้ให้พระราชทานบำเหน็จตามความชอบ ถ้าผู้ใดไม่มีทรัพย์มาให้ ก็ไม่กราบทูลหรือยุยงให้ฮ่องเต้ถอดออกเสียจากตำแหน่งก็มี
ขุนนางเก่าแก่คนหนึ่งชื่อ เล่าโต๋ เคยเป็นพระพี่เลี้ยงได้ทำนุบำรุงสั่งสอนฮ่องเต้มาแต่ก่อน กราบทูลเรื่องที่ขันทีทั้งสิบคนประพฤติผิดคิดมิชอบ พวกขันทีก็หาว่าเล่าโต๋ริษยาพวกตน ฮ่องเต้จึงให้เอาเล่าโต๋ไปประหารเสีย ตันต๋ำขุนนางผู้ใหญ่จึงทูลว่า
“……..ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย ทั้งอาณาประชาราษฎรในเมืองแลหัวเมือง ได้ความเดือดร้อนเป็นอันมาก มีใจชังจะใคร่กินเนื้อขันทีสิบคนเสีย แลพระองค์มีพระทัยรักขันทีสิบคน ดุจหนึ่งพระราชวงศ์ผู้ใหญ่ แลจะได้มีความชอบสิ่งใดหามิได้ พระองค์ตั้งให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่นั้นไม่สมควร อนึ่งฮองสีขันทีก็คิดการขบถ เป็นไส้ศึกเข้าด้วยพวกโจรโพกผ้าเหลือง มีผู้มากราบทูลพระองค์ ก็มิได้ชำระให้เห็นเท็จจริง พระองค์แกล้งนิ่งเสีย จะให้ราชสมบัติเป็นอันตราย…..”
พระเจ้าเลนเต้ก็ไม่เชื่อฟัง ตันต๋ำน้อยใจจึงเอาศีรษะชนแท่นที่ประทับของฮ่องเต้ จนศีรษะแตกโลหิตไหล ฮ่องเต้เลยสั่งให้เอาตัวไปขังไว้ทั้งสองคน แต่ในตอนดึกคืนนั้นพวกขันทีก็ใช้ให้ลูกน้องแอบไปฆ่าเสียทั้งคู่
ต่อมาอีกไม่นานพระเจ้าเลนเต้ก็ประชวร และสิ้นพระชนม์ลงโดยไม่ได้แต่งตั้ง รัชทายาท โฮจิ๋นผู้สำเร็จราชการจึงยก หองจูเปียน ราชบุตรองค์โตที่เกิดจากนางโฮเฮา น้องสาวของตนขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่นางตังไทฮอมารดาเลี้ยงของพระเจ้าเลนเต้ จะให้ หองจูเหียบ ราชบุตรองค์รอง ที่เกิดจากนางอองบีหยินสนมเอกขึ้นเป็นบ้าง จึงเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกขึ้นในพระราชวัง ขันทีทั้งสิบคนก็เข้าข้างนางตังไทฮอ แต่พอโฮจิ๋นหาเหตุฆ่านางตังไทฮอเสีย ขันทีทั้งสิบคนก็เข้าไปเป็นพวกนางโฮเฮา โฮจิ๋นจึงไม่สามารถกำจัดขันทีพวกนี้ลงได้
โฮจิ๋นก็ปรึกษากับอ้วนเสี้ยวว่าจะทำประการใดดี อ้วนเสี้ยวก็แนะนำให้มีหนังสือไปถึงหัวเมืองให้ยกทัพเข้ามา ประกาศว่าจะจับตัวขันทีทั้งสิบคนมาฆ่าเสีย นางโฮเฮาคงจะยอมส่งตัวขันทีเหล่านั้นให้โดยดี โฮจิ๋นก็เห็นชอบด้วย แม้ว่าจะมีขุนนางคัดค้านมากมายหลายคน
เมื่อตั๋งโต๊ะยกกองทัพมาถึงลกเอี๋ยงเมืองหลวง และมีหนังสือกราบทูลฮ่องเต้ว่าจะเข้ามาจับตัวขันทีทั้งสิบ เตียวเหยียงจึงคบคิดกับพวก ไปหานางโฮเฮาทูลว่า
“…….โฮจิ๋นแอบรับสั่งให้หากองทัพหัวเมืองเข้ามา จะจับเอาข้าพเจ้าทั้งสิบไปฆ่าเสีย ข้าพเจ้าหาที่พึ่งมิได้ เห็นแต่พระองค์จะช่วยชีวิตข้าพเจ้าได้ …….”
นางโฮเฮาจึงบอกให้ออกไปอ้อนวอนงอนง้อโฮจิ๋นเอง โฮจิ๋นก็คงจะมีเมตตาไม่ทำอันตราย เตียวเหยียงก็บ่ายเบี่ยงว่า
เกร็ดสามก๊ก ๖ มิ.ย.๕๖
ฤทธิ์เดชขันที
เจียวต้าย
ขันทีคือผู้ชายที่ถูกตัดอวัยวะเพศ จนไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ ในพงศาวดารจีนแทบทุกเรื่อง จะกล่าวถึงบุคคลพวกนี้ ซึ่งมีหน้าที่ราชการฝ่ายใน รับใช้ฮ่องเต้ ฮองเฮา และปกครองนางสนมกำนัลทั้งปวง เพราะเป็นที่เชื่อใจได้ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรี ที่มีอยู่นับพันในพระราชวัง ขันทีซึ่งไม่มีความรู้สึกทางเพศนั้น จึงมักจะมีความคิดทะเยอทะยาน อยากเป็นใหญ่ และมีความอิจฉาริษยาอยู่เป็นประจำ ดังนั้นบทบาทของขันทีในเรื่องจีนทั้งหลาย จึงหาคนดีได้น้อยนัก ส่วนใหญ่จะเป็นตัวก่อเหตุให้บ้านเมืองวุ่นวายอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องสามก๊ก
ขันทีคนแรกที่ปรากฏขึ้นก็คือ เทาเจียด ในรัชสมัยของพระเจ้าเลนเต้ เป็นขันทีผู้ใหญ่กับลูกน้องอีกเก้าคน เห็นว่าฮ่องเต้รักใคร่ไว้วางพระทัย จึงคิดกันกระทำการหยาบช้าต่าง ๆ บรรดาราชกิจทั้งหลายนั้น ก็ว่ากล่าวเอาผิดเป็นชอบ ขุนนางแลอาณาประชาราษฎรได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมาก ขุนนางผู้ใดที่เป็นพรรคพวกก็ยกย่องแต่งตั้ง ให้มีตำแหน่งใหญ่ขึ้น ผู้ใดที่ไม่ยอมอ่อนน้อมด้วย ก็หาเหตุให้ถอดจากตำแหน่ง หรือไม่ก็ให้พรรคพวกเอาตัวไปฆ่าเสีย และพระเจ้าเลนเต้ก็เชื่อถือถ้อยคำของขันทีเหล่านี้ทุกประการ ราชการแผ่นดินแลกฎหมายบ้านเมืองก็ผันแปรไป จึงเกิดโจรผู้ร้ายขึ้นเป็นอันมาก กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดก็คือกลุ่มโจรโพกผ้าเหลือง
พระเจ้าเลนเต้ก็ให้นายทหารเอกสามนายคุมทหารออกไปปราบปราม และออกประกาศไปตามหัวเมือง รับอาสาสมัครผู้มีฝีมือเข้มแข็งกล้าหาญ ให้ช่วยกันจับโจรโพกผ้าเหลือง ได้แล้วจะปูนบำเหน็จรางวัลและตั้งให้เป็นขุนนางด้วย ก็มีผู้อาสาพาพรรคพวกมาช่วยทหารหลวงปราบปรามพวกโจรกันหลายกลุ่ม รวมทั้ง เล่าปี่ กวนอู เตียวหุย โจโฉ ตั๋งโต๊ะ และซุนเกี๋ยน ด้วย
ในการนี้ เตียวเหยียง ขันทีคนหนึ่งในสิบคนนั้น ก็เป็นหัวหน้าหาประโยชน์จากพวกที่ไปปราบปรามโจรโพกผ้าเหลือง ถ้าผู้ใดมีทรัพย์เอาข้าวของเงินทองมาให้ ก็นำความกราบทูลฮ่องเต้ให้พระราชทานบำเหน็จตามความชอบ ถ้าผู้ใดไม่มีทรัพย์มาให้ ก็ไม่กราบทูลหรือยุยงให้ฮ่องเต้ถอดออกเสียจากตำแหน่งก็มี
ขุนนางเก่าแก่คนหนึ่งชื่อ เล่าโต๋ เคยเป็นพระพี่เลี้ยงได้ทำนุบำรุงสั่งสอนฮ่องเต้มาแต่ก่อน กราบทูลเรื่องที่ขันทีทั้งสิบคนประพฤติผิดคิดมิชอบ พวกขันทีก็หาว่าเล่าโต๋ริษยาพวกตน ฮ่องเต้จึงให้เอาเล่าโต๋ไปประหารเสีย ตันต๋ำขุนนางผู้ใหญ่จึงทูลว่า
“……..ขุนนางผู้ใหญ่ผู้น้อย ทั้งอาณาประชาราษฎรในเมืองแลหัวเมือง ได้ความเดือดร้อนเป็นอันมาก มีใจชังจะใคร่กินเนื้อขันทีสิบคนเสีย แลพระองค์มีพระทัยรักขันทีสิบคน ดุจหนึ่งพระราชวงศ์ผู้ใหญ่ แลจะได้มีความชอบสิ่งใดหามิได้ พระองค์ตั้งให้เป็นขุนนางผู้ใหญ่นั้นไม่สมควร อนึ่งฮองสีขันทีก็คิดการขบถ เป็นไส้ศึกเข้าด้วยพวกโจรโพกผ้าเหลือง มีผู้มากราบทูลพระองค์ ก็มิได้ชำระให้เห็นเท็จจริง พระองค์แกล้งนิ่งเสีย จะให้ราชสมบัติเป็นอันตราย…..”
พระเจ้าเลนเต้ก็ไม่เชื่อฟัง ตันต๋ำน้อยใจจึงเอาศีรษะชนแท่นที่ประทับของฮ่องเต้ จนศีรษะแตกโลหิตไหล ฮ่องเต้เลยสั่งให้เอาตัวไปขังไว้ทั้งสองคน แต่ในตอนดึกคืนนั้นพวกขันทีก็ใช้ให้ลูกน้องแอบไปฆ่าเสียทั้งคู่
ต่อมาอีกไม่นานพระเจ้าเลนเต้ก็ประชวร และสิ้นพระชนม์ลงโดยไม่ได้แต่งตั้ง รัชทายาท โฮจิ๋นผู้สำเร็จราชการจึงยก หองจูเปียน ราชบุตรองค์โตที่เกิดจากนางโฮเฮา น้องสาวของตนขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่นางตังไทฮอมารดาเลี้ยงของพระเจ้าเลนเต้ จะให้ หองจูเหียบ ราชบุตรองค์รอง ที่เกิดจากนางอองบีหยินสนมเอกขึ้นเป็นบ้าง จึงเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกขึ้นในพระราชวัง ขันทีทั้งสิบคนก็เข้าข้างนางตังไทฮอ แต่พอโฮจิ๋นหาเหตุฆ่านางตังไทฮอเสีย ขันทีทั้งสิบคนก็เข้าไปเป็นพวกนางโฮเฮา โฮจิ๋นจึงไม่สามารถกำจัดขันทีพวกนี้ลงได้
โฮจิ๋นก็ปรึกษากับอ้วนเสี้ยวว่าจะทำประการใดดี อ้วนเสี้ยวก็แนะนำให้มีหนังสือไปถึงหัวเมืองให้ยกทัพเข้ามา ประกาศว่าจะจับตัวขันทีทั้งสิบคนมาฆ่าเสีย นางโฮเฮาคงจะยอมส่งตัวขันทีเหล่านั้นให้โดยดี โฮจิ๋นก็เห็นชอบด้วย แม้ว่าจะมีขุนนางคัดค้านมากมายหลายคน
เมื่อตั๋งโต๊ะยกกองทัพมาถึงลกเอี๋ยงเมืองหลวง และมีหนังสือกราบทูลฮ่องเต้ว่าจะเข้ามาจับตัวขันทีทั้งสิบ เตียวเหยียงจึงคบคิดกับพวก ไปหานางโฮเฮาทูลว่า
“…….โฮจิ๋นแอบรับสั่งให้หากองทัพหัวเมืองเข้ามา จะจับเอาข้าพเจ้าทั้งสิบไปฆ่าเสีย ข้าพเจ้าหาที่พึ่งมิได้ เห็นแต่พระองค์จะช่วยชีวิตข้าพเจ้าได้ …….”
นางโฮเฮาจึงบอกให้ออกไปอ้อนวอนงอนง้อโฮจิ๋นเอง โฮจิ๋นก็คงจะมีเมตตาไม่ทำอันตราย เตียวเหยียงก็บ่ายเบี่ยงว่า