เนื่องจากเราเพิ่งตั้งสัจจะว่าจะเป็นผู้รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด ทั้งการดำเนินชีวิต และเรื่องการงาน...
แต่ตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่ติดขัดในใจมากเลยค่ะเกี่ยวกับงานโปรเจ็คหนึ่ง ที่ทางบริษัทเราจะให้เราเข้าไปดูแลต่อหลังจากที่ทางผู้ใหญ่ไปดำเนินการพูดคุย เจรจา ขายงาน จนได้งานนี้มา
คือ...โดยตัวเนื้องานแล้ว เป็นงานที่จะสามารถให้ข้อคิด กระตุ้นจิตสำนึกด้านดี ให้กับผู้คนในสังคมได้...แต่วิธีการได้มาซึ่งงานนั้นทางบริษัทเราก็ต้องมีการจ่ายใต้โต๊ะให้กับผู้ดูแลโครงการฯ
ตัวเราเองนั้น...ตั้งแต่มีปัญหาขัดแย้งเรื่องการเมืองมาปีกว่าๆ ทำให้รู้สึกแย่กับสังคมไทยมากที่เต็มไปด้วยการโกงกินและคอรัปชั่น...และก็หันมาดูตัวเราเองว่า..เราเองก็เป็นกลไกหนึ่งเช่นกันที่ทำตัวเช่นนั้น...เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวอย่าง ยัดเงินตำรวจเวลาทำผิดกฏจราจร....เรารู้ซึ้งเลยว่า ตัวเองที่ผ่านมาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โรคโกงกินคอรัปชั่นมันกลายเป็นเรื่องปกติ....
นับแต่เรารู้สึกตัว...เราก็หยุดการยัดเงินตำรวจ ยอมที่จะจ่ายใบสั่งถ้าเราทำผิดจริง...มาตลอด..รวมทั้งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ ก็พยายามจะไม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของการโกงกิน...
ตอนนี้จึงเกิดภาวะขัดแย้งขึ้นในใจว่า...การที่เราจะรับทำงาน (แม้จะเป็นงานที่มีเนื้อหาสาระดีกับผู้คน) แต่เราเองก็รู้ดีอยู่ว่าเป็นงานที่ได้มาแบบไม่ซื่อตรงเท่าไหร่นัก...มันสมควรหรือไม่?
อยากได้มุมมองจากหลายๆ ท่านในกรณีนี้ค่ะ...
ปล. จริงๆ เราเองอยู่ในฐานะพนักงานรับจ้างของบริษัทเท่าน้ัน ไม่มีสิทธิ์ที่จะรับทำงานหรือปฏิเสธงานเราเข้าใจดีค่ะ...ในกรณีนี้ ตอนแรกเราคิดว่าเราอาจจะลองคุยกับเจ้านายว่าเรารู้สึกขัดแย้งในจิตใจจริงๆ ขออนุญาติไม่ทำ..และถ้าจะไม่ให้เรารับเงินเดือนในเดือนนี้เราก็โอเค แต่พอมาคิดถึงเนื้อหาสาระที่ดีของงานก็รู้สึกว่าอาจจะดูใจแคบไปไหมที่ละทิ้งการได้มีโอกาสทำเรื่องดีๆให้สังคม...เลยค่อนข้างสับสนค่ะ...
"คุณธรรม" กับการเป็นพนักงานประจำ....อยากได้ความคิดเห็นค่ะ
แต่ตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่ติดขัดในใจมากเลยค่ะเกี่ยวกับงานโปรเจ็คหนึ่ง ที่ทางบริษัทเราจะให้เราเข้าไปดูแลต่อหลังจากที่ทางผู้ใหญ่ไปดำเนินการพูดคุย เจรจา ขายงาน จนได้งานนี้มา
คือ...โดยตัวเนื้องานแล้ว เป็นงานที่จะสามารถให้ข้อคิด กระตุ้นจิตสำนึกด้านดี ให้กับผู้คนในสังคมได้...แต่วิธีการได้มาซึ่งงานนั้นทางบริษัทเราก็ต้องมีการจ่ายใต้โต๊ะให้กับผู้ดูแลโครงการฯ
ตัวเราเองนั้น...ตั้งแต่มีปัญหาขัดแย้งเรื่องการเมืองมาปีกว่าๆ ทำให้รู้สึกแย่กับสังคมไทยมากที่เต็มไปด้วยการโกงกินและคอรัปชั่น...และก็หันมาดูตัวเราเองว่า..เราเองก็เป็นกลไกหนึ่งเช่นกันที่ทำตัวเช่นนั้น...เริ่มจากเรื่องใกล้ตัวอย่าง ยัดเงินตำรวจเวลาทำผิดกฏจราจร....เรารู้ซึ้งเลยว่า ตัวเองที่ผ่านมาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โรคโกงกินคอรัปชั่นมันกลายเป็นเรื่องปกติ....
นับแต่เรารู้สึกตัว...เราก็หยุดการยัดเงินตำรวจ ยอมที่จะจ่ายใบสั่งถ้าเราทำผิดจริง...มาตลอด..รวมทั้งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ ก็พยายามจะไม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของการโกงกิน...
ตอนนี้จึงเกิดภาวะขัดแย้งขึ้นในใจว่า...การที่เราจะรับทำงาน (แม้จะเป็นงานที่มีเนื้อหาสาระดีกับผู้คน) แต่เราเองก็รู้ดีอยู่ว่าเป็นงานที่ได้มาแบบไม่ซื่อตรงเท่าไหร่นัก...มันสมควรหรือไม่?
อยากได้มุมมองจากหลายๆ ท่านในกรณีนี้ค่ะ...
ปล. จริงๆ เราเองอยู่ในฐานะพนักงานรับจ้างของบริษัทเท่าน้ัน ไม่มีสิทธิ์ที่จะรับทำงานหรือปฏิเสธงานเราเข้าใจดีค่ะ...ในกรณีนี้ ตอนแรกเราคิดว่าเราอาจจะลองคุยกับเจ้านายว่าเรารู้สึกขัดแย้งในจิตใจจริงๆ ขออนุญาติไม่ทำ..และถ้าจะไม่ให้เรารับเงินเดือนในเดือนนี้เราก็โอเค แต่พอมาคิดถึงเนื้อหาสาระที่ดีของงานก็รู้สึกว่าอาจจะดูใจแคบไปไหมที่ละทิ้งการได้มีโอกาสทำเรื่องดีๆให้สังคม...เลยค่อนข้างสับสนค่ะ...