กรณีจำนำข้าว เจ๊งหรือไม่เจ๊ง น่ะ
ขอบอกตามตรงว่าผมก็ไม่รู้ว่ะ (ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ)
ก่อนที่จะได้ข้อเท็จจริง เราก็คุยกันไปพลางๆ ก่อนนะครับ
ว่าตอนนี้พวกเราได้ข้อมูลจากไหนยังไงและน่าเชื่อถือหรือไม่
หลักการคิดเรื่องข้าวที่รับมาจากชาวนา ราคาแพง เพื่อให้ชาวนามีความเป็นอยู่ดีขึ้น
มีอานิสงค์ที่ได้รับคือ วงรอบของการใช้จ่าย
เมื่อชาวนามีเงินก็เอาไปซื้อของกิน ของใช้
ทุกครั้งที่มีการซื้อของ รัฐก็เก็บภาษี vat ไป
ดูเศรษฐกิจในภาพรวม ก็ คิดว่าดีขึ้น
เจตนาของรัฐซื้อข้าวชาวนาแพง
ผมว่า ทุกคนคงรู้ว่า รัฐคงตั้งใจขาดทุน และยอมรับได้ในระดับนึง
แต่ที่เอามาเล่นกันหนักเพราะมีผู้เสียหายหนัก 2 กลุ่ม
คือ กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามและผู้สูญเสียประโยชช์ทางธุรกิจ
ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ทนไม่ได้แร๊ว ต้องล้มนโยบายนี้ โดยด่วน!!!
กรณีที่ยังมีข้าวในโกดัง น่ะจะเปรียบกับร้านทองที่รับจำนำทองได้ไม๊ ล่ะ
เมื่อ 3-4 เดือนมานี้ ราคาทองตกฮวบจาก 25000 ลงมาเหลือ 18000 บาท
ถามว่าโรงจำนำเจ๊งไม๊ ผมก็ไม่ได้ข่าวว่าโรงจำนำที่ไหนเจ๊งนะ ก็เห็นรับจำนำกันตามปกติ
อาจจะมีคนเถียงว่า ข้าว มันเน่าเสีย ได้เฟ้ย
ทองไม่เน่าไม่เสีย รอราคาขึ้นเดี๋ยวก็ขายได้..แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ
แต่อย่าลืมว่า ถ้าชาติไหนเขาเกิดภัยพิบัติหรือมีคำสั่งซื้อมามากๆ
ข้าวก็ขายหมดได้นะเฟ้ย…แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ เหมียนกัลลล์ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ
ไอ้คนที่บอกว่าข้าวจะขาดทุน เท่านั้นเท่านี้ น่ะ
พอดีเป็นพวกขาประจำ พวกฝ่ายตรงข้าม ความน่าเชื่อถือเลยไม่มี
อีกอย่างการคิดคำนวณมันก็ เว่อร์เกินไป
ความจริงการมองนโยบายต่างๆของรัฐ ในภาคกว้าง (macro)
อาจจะมองชั้นเดียวเชิงเดียวคงไม่ได้นะครับ
อาจจะยกตัวอย่าง การขายสินค้าในห้างก็คงจะได้นะครับ
เพราะการที่ห้างจะจัดรายการลดกระหน่ำ และบางสินค้าลดถึง 80 %
คุณคิดว่าพวกเขาจะขาดทุนหรือครับ
คงใช่บางทีอาจจะขาดทุนบางสินค้า แต่สินค้าอื่นขายได้
เช่นอาหารการกิน หรือเก็บค่าที่จอดรถได้มาก หรือซื้อของเสร็จก็ไปนวด ไปดูหนัง
นั่นคงจะเป็นการคิดแบบ คนมีสติปัญญาเป็นเจ้าของกิจการ
เพราะถ้าคิดแบบ ขายข้าวขาดทุน
มันก็จะบอก ขายข้าวขาดทุนๆๆๆๆ ชาติเจ๊งๆๆๆ
แต่ไม่ได้ดูว่าชีวิตชาวนาดีขึ้น
สินค้าที่เกี่ยวข้องขายได้มากขึ้น
ภาพรวมๆ ของ ทุกภาคส่วนก็ดีขึ้น
เถียงกันดีนัก เดี๋ยว งบประมาณ 57 ผ่าน
ผมบอก เจ๊ปู ยุบสภา ชวนเลือกตั้ง ตัดสินซะนี่
ข้าวในโกดัง-ทองที่โรงจำนำ-ห้างลดแหลก
ขอบอกตามตรงว่าผมก็ไม่รู้ว่ะ (ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ)
ก่อนที่จะได้ข้อเท็จจริง เราก็คุยกันไปพลางๆ ก่อนนะครับ
ว่าตอนนี้พวกเราได้ข้อมูลจากไหนยังไงและน่าเชื่อถือหรือไม่
หลักการคิดเรื่องข้าวที่รับมาจากชาวนา ราคาแพง เพื่อให้ชาวนามีความเป็นอยู่ดีขึ้น
มีอานิสงค์ที่ได้รับคือ วงรอบของการใช้จ่าย
เมื่อชาวนามีเงินก็เอาไปซื้อของกิน ของใช้
ทุกครั้งที่มีการซื้อของ รัฐก็เก็บภาษี vat ไป
ดูเศรษฐกิจในภาพรวม ก็ คิดว่าดีขึ้น
เจตนาของรัฐซื้อข้าวชาวนาแพง
ผมว่า ทุกคนคงรู้ว่า รัฐคงตั้งใจขาดทุน และยอมรับได้ในระดับนึง
แต่ที่เอามาเล่นกันหนักเพราะมีผู้เสียหายหนัก 2 กลุ่ม
คือ กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามและผู้สูญเสียประโยชช์ทางธุรกิจ
ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ทนไม่ได้แร๊ว ต้องล้มนโยบายนี้ โดยด่วน!!!
กรณีที่ยังมีข้าวในโกดัง น่ะจะเปรียบกับร้านทองที่รับจำนำทองได้ไม๊ ล่ะ
เมื่อ 3-4 เดือนมานี้ ราคาทองตกฮวบจาก 25000 ลงมาเหลือ 18000 บาท
ถามว่าโรงจำนำเจ๊งไม๊ ผมก็ไม่ได้ข่าวว่าโรงจำนำที่ไหนเจ๊งนะ ก็เห็นรับจำนำกันตามปกติ
อาจจะมีคนเถียงว่า ข้าว มันเน่าเสีย ได้เฟ้ย
ทองไม่เน่าไม่เสีย รอราคาขึ้นเดี๋ยวก็ขายได้..แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ
แต่อย่าลืมว่า ถ้าชาติไหนเขาเกิดภัยพิบัติหรือมีคำสั่งซื้อมามากๆ
ข้าวก็ขายหมดได้นะเฟ้ย…แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ เหมียนกัลลล์ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ
ไอ้คนที่บอกว่าข้าวจะขาดทุน เท่านั้นเท่านี้ น่ะ
พอดีเป็นพวกขาประจำ พวกฝ่ายตรงข้าม ความน่าเชื่อถือเลยไม่มี
อีกอย่างการคิดคำนวณมันก็ เว่อร์เกินไป
ความจริงการมองนโยบายต่างๆของรัฐ ในภาคกว้าง (macro)
อาจจะมองชั้นเดียวเชิงเดียวคงไม่ได้นะครับ
อาจจะยกตัวอย่าง การขายสินค้าในห้างก็คงจะได้นะครับ
เพราะการที่ห้างจะจัดรายการลดกระหน่ำ และบางสินค้าลดถึง 80 %
คุณคิดว่าพวกเขาจะขาดทุนหรือครับ
คงใช่บางทีอาจจะขาดทุนบางสินค้า แต่สินค้าอื่นขายได้
เช่นอาหารการกิน หรือเก็บค่าที่จอดรถได้มาก หรือซื้อของเสร็จก็ไปนวด ไปดูหนัง
นั่นคงจะเป็นการคิดแบบ คนมีสติปัญญาเป็นเจ้าของกิจการ
เพราะถ้าคิดแบบ ขายข้าวขาดทุน
มันก็จะบอก ขายข้าวขาดทุนๆๆๆๆ ชาติเจ๊งๆๆๆ
แต่ไม่ได้ดูว่าชีวิตชาวนาดีขึ้น
สินค้าที่เกี่ยวข้องขายได้มากขึ้น
ภาพรวมๆ ของ ทุกภาคส่วนก็ดีขึ้น
เถียงกันดีนัก เดี๋ยว งบประมาณ 57 ผ่าน
ผมบอก เจ๊ปู ยุบสภา ชวนเลือกตั้ง ตัดสินซะนี่