รูป Before
รูป After
ส่วนวิธีการก็คือ......
รับนายแบบมาเลี้ยงสองตัวเลยค่ะ ฮี่ๆๆๆ
เนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปเดินงาน Pet Expo ตอนแรกก็ตั้งใจไปซื้อของให้บรรดาหมาๆ (8 ตัว) และแมวๆ (4 ตัว) ที่บ้าน (หมาและแมวอยู่คนละบ้านกันนะคะ) ไม่ได้ตั้งใจเล้ยยย....ว่าจะไปรับแมวเพิ่ม แต่พอเดินๆ ไป สามีก็ชี้ให้ดูว่า ดูสิ หมาแมวหาบ้านเยอะเลยนะ รับเพิ่มอีกมั้ย น่าสงสารนะ เราก็ว่าจะเข้าไปเมียงๆ มองๆ พอเป็นพิธี เลือกไปเลือกมาก็เลยได้เจ้าสองตัวนี้มาจากพี่ดาค่ะ
ตอนแรกพี่เค้าบอกว่า เป็นตัวเมียกับตัวผู้อย่างละตัว แต่พอเรากลับมาดูที่บ้าน เอาก้นสองตัวมาเทียบกัน ก็ เอ๊ะ! มีโป๋ยเหมือนกันสองตัวเลยนี่หว่า แต่ก็โอเค ตัวผู้สองตัว ทำหมันง่ายดี (ถูกกว่านิดนึงด้วย 5555 แม่มันงก)
ตอนแรกที่รับมาก็ได้ยินพี่เค้าพูดๆ กันว่า แมวผมหน้าม้า เราก็เอ๊ะ! มันหน้าม้าตรงไหนหว่า กว่าจะได้มีเวลาสังเกตจริงๆ จังๆ ก็ตอนกลับมาถึงบ้านแล้ว (บ้านอยู่ราชบุรีค่ะ) พอมาดูดีๆ ก็ เออ! มันหน้าม้าจริงๆ เป็นม้าเต่อด้วย ตลกดี ตั้งชื่อทั้งสองตัวว่า ทองหยิบ กับ ทองหยอด ค่ะ โดยดูจากลายที่หลัง เจ้าตัวผมหน้าม้าเป็นลายแบบแหลมๆ เลยชื่อ ทองหยอด ส่วนอีกตัว ลายกระจัดกระจายเป็นหย่อมๆ เลยชื่อ ทองหยิบ ค่ะ
ตอนนี้เข้าใจความรู้สึกคนเลี้ยงแมวที่เป็นโรคแมวงอกแล้วค่ะ เมื่อก่อนก็คิดว่า เค้าเลี้ยงกันเข้าไปได้ยังไงตั้งหลายตัว
แรกเริ่มเดิมทีเราก็กะจะเลี้ยงแค่ 2 ตัว ก็เลยรับแมวส้มพี่น้องมาเป็นแพ็คคู่จากพันทิพเมื่อปีที่แล้ว คือ เขียวหวาน กับ บางมด (ไอ้อ้วน)
หลังจากนั้นช่วงปลายปี ก็มีลูกแมวตัวจิ๋วๆ ตัวเมียตัวหนึ่งหลงเข้ามาในบ้าน ตามหาแม่มันก็ไม่เจอ จะปล่อยทิ้งไว้ข้างนอกก็กลัวจะถูกรถทับตาย (บ้านอยู่ริมถนนค่ะ) ก็เลยจำใจต้องรับเลี้ยงไว้ จริงๆ แล้วดีใจ เพราะเคยฝันไว้ว่าอยากเลี้ยงแมวที่จู่ๆ หลงเข้าบ้านมา555 ตั้งชื่อว่า บัวลอย (ย่อมาจากบัวลอยเผือก เพราะตอนแรกพ่อมันบอกว่าสีเหมือนเผือก แต่จะตั้งชื่อว่าไอ้เผือก ก็สงสารแมว) สรุปเจ้าตัวนี้เป็นตัวที่น่ารักและขี้อ้อนที่สุด
ช่วงจังหวะใกล้ๆ กันนั้น ก็มีเหตุให้ต้องตื่นนอนตอนตี 2-3 เพราะสัญญาณกันขโมยที่บ้านดัง (บ้านเป็นตึกแถว เป็นร้านค้าค่ะ เราอยู่สองชั้นบนสุดกับสามีและแมวๆ) พอมาลองดูกล้องก็เห็นเป็นแมวตัวหนึ่ง ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแมวของบ้านข้างๆ แอบเข้ามาในบ้านเรา แต่พอมันเริ่มบ่อยขึ้นๆ ก็คิดว่ามันน่าจะอยู่ในบ้านเราแล้วล่ะ ก็เริ่มตั้งชื่อให้มัน เรียกมันว่า "แม่บัวลอย" เพราะคิดว่าน่าจะเป็นตัวแม่ของเจ้าบัวลอยที่ยังวนเวียนอยู่แถวๆ นี้ ในที่สุด
ตอนแรกเจ้าแมวตัวนี้ก็ปรากฏตัวให้เห็นเฉพาะในกล้อง แต่ช่วงหลังๆ พอปิดร้านปุ๊บ แล้วเรายังนั่งทำงานอยู่ในร้าน ก็จะเห็นเจ้าแมวตัวนี้เดินลงบันไดมาทุกวัน รู้เวลาจริงๆ เพราะพอดึงบานม้วนประตูร้านปิดลงมาปุ๊บ รออีกสักสิบวินาที เจ้าแมวก็จะค่อยๆ เดินเยื้องย่างลงมาจากบันได และจากการที่ต้องนอนหลับๆ ตื่นๆ เพราะสัญญาณกันขโมยที่กลายเป็นสัญญาณกันแมวไปแล้วนั้น เราก็ตัดสินใจกันว่า ต้องปฏิบัติการ "จับแมว" เมื่อเดือนที่แล้วโดยการเอากรงมาตั้งไว้ ผูกเชือกที่ประตูกรง แล้วเอาอาหารเปียกกลิ่นเย้ายวนวางไว้ในกรง แล้วก็แอบอยู่ในห้องทำงานเพื่อที่พอเจ้าแมวเข้ามากินข้าวในกรง ก็จะดึงเชือกปิดประตูกรงทันที ตั้งกรงไว้อยู่ 2-3 วัน ให้เจ้าแมวเรียนรู้ว่าในกรงมีอาหารนะ (เพราะตอนแรกเจ้าแมวจะไม่ยอมกินถ้าเราไม่ออกจากร้านก่อน)
หลังจากผ่านไป 2 วัน ก็จับได้สำเร็จ พอจับมาก็ได้เจ้าตัวนี้ค่ะ
ปรากฏว่าเป็นแมวตัวเมีย ที่อายุน่าจะน้อยกว่าเจ้าบัวลอยสักเดือนนึง ก็เลยตี๊ต่างให้เป็นน้องสาวของบัวลอย ตั้งชื่อให้ว่า "ไข่หวาน" ตอนแรกผอมโกรกมาก หนังหุ้มกระดูก คงเพราะได้กินแต่เศษอาหารในถังขยะ และไม่ได้ออกไปไหนเลย พาไปหาหมอ หมอก็บอกว่าปลอดโรค แต่ต้องเพิ่มน้ำหนักหน่อยนะ หลังจากอยู่ได้สัก 2-3 วัน เราก็สังเกตเห็นว่า พุงมันใหญ่มากๆ ตอนนั้นกลัวว่าแมวจะท้องรึเปล่า เพราะเป็นตัวเมียด้วย เสิร์ชดูอาการแมวท้องในอินเตอร์เน็ต ก็เหมือนจะตรง เลยรีบพาไปหาหมอ หมอก็ตกใจนิดนึง เพราะยังดูเด็กๆ อยู่เลย แต่ก็จัดการพาไปเอ็กซเรย์ ปรากฏว่า.....แม่มันต้องหน้าหงายอับอายหมอ เพราะหมอชี้ให้ดูฟิล์มเอ็กซเรย์ว่า มีแต่อาหารเต็มพุงเลย สงสัยเพราะว่าอดอยากมานาน ก็เลยกินอย่างไม่บันยะบันยัง - -"
สรุปแล้วก็คือ ตอนนี้มีแมวทั้งหมด 6 ตัวค่ะ ทองหยิบกับทองหยอดยังต้องอยู่ในกรงไปก่อน เพราะรออยู่บ้านครบหนึ่งสัปดาห์แล้วจะพาไปฉีดวัคซีน+หยดยากำจัดตัวไรด้วย แต่ก็ปล่อยให้ออกมาเล่นกับพี่ๆ ตอนเช้ากับตอนเย็นค่ะ ทั้งสองตัวเป็นแมวที่น่ารักมากกกกก ไม่กลัวคนเลยสักนิดเดียว พอปล่อยออกจากกรงก็ซนเป็นลิงเลย (ถูกใจพี่บัวลอยเขาล่ะ เพราะแอบมาด้อมๆ มองๆ อยากเล่นกับน้องจะแย่แล้ว)
รูปนี้นอนกอดกันน่ารักเชียว ชอบแมวพี่น้องก็เพราะเค้ารักกันแบบนี้แหละค่ะ (ของประกอบฉาก: ตุ๊กตาหนูจาก IKEA เป็นของโปรดของแมวๆ เลยค่ะ)
How To ตัดผมหน้าม้าให้แมว (แมวหาบ้านจากโครงการรักษ์แมว งาน Pet Expo) + อวดบรรดาแมวๆ ที่บ้าน
รูป After
ส่วนวิธีการก็คือ......
รับนายแบบมาเลี้ยงสองตัวเลยค่ะ ฮี่ๆๆๆ
เนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปเดินงาน Pet Expo ตอนแรกก็ตั้งใจไปซื้อของให้บรรดาหมาๆ (8 ตัว) และแมวๆ (4 ตัว) ที่บ้าน (หมาและแมวอยู่คนละบ้านกันนะคะ) ไม่ได้ตั้งใจเล้ยยย....ว่าจะไปรับแมวเพิ่ม แต่พอเดินๆ ไป สามีก็ชี้ให้ดูว่า ดูสิ หมาแมวหาบ้านเยอะเลยนะ รับเพิ่มอีกมั้ย น่าสงสารนะ เราก็ว่าจะเข้าไปเมียงๆ มองๆ พอเป็นพิธี เลือกไปเลือกมาก็เลยได้เจ้าสองตัวนี้มาจากพี่ดาค่ะ
ตอนแรกพี่เค้าบอกว่า เป็นตัวเมียกับตัวผู้อย่างละตัว แต่พอเรากลับมาดูที่บ้าน เอาก้นสองตัวมาเทียบกัน ก็ เอ๊ะ! มีโป๋ยเหมือนกันสองตัวเลยนี่หว่า แต่ก็โอเค ตัวผู้สองตัว ทำหมันง่ายดี (ถูกกว่านิดนึงด้วย 5555 แม่มันงก)
ตอนแรกที่รับมาก็ได้ยินพี่เค้าพูดๆ กันว่า แมวผมหน้าม้า เราก็เอ๊ะ! มันหน้าม้าตรงไหนหว่า กว่าจะได้มีเวลาสังเกตจริงๆ จังๆ ก็ตอนกลับมาถึงบ้านแล้ว (บ้านอยู่ราชบุรีค่ะ) พอมาดูดีๆ ก็ เออ! มันหน้าม้าจริงๆ เป็นม้าเต่อด้วย ตลกดี ตั้งชื่อทั้งสองตัวว่า ทองหยิบ กับ ทองหยอด ค่ะ โดยดูจากลายที่หลัง เจ้าตัวผมหน้าม้าเป็นลายแบบแหลมๆ เลยชื่อ ทองหยอด ส่วนอีกตัว ลายกระจัดกระจายเป็นหย่อมๆ เลยชื่อ ทองหยิบ ค่ะ
ตอนนี้เข้าใจความรู้สึกคนเลี้ยงแมวที่เป็นโรคแมวงอกแล้วค่ะ เมื่อก่อนก็คิดว่า เค้าเลี้ยงกันเข้าไปได้ยังไงตั้งหลายตัว
แรกเริ่มเดิมทีเราก็กะจะเลี้ยงแค่ 2 ตัว ก็เลยรับแมวส้มพี่น้องมาเป็นแพ็คคู่จากพันทิพเมื่อปีที่แล้ว คือ เขียวหวาน กับ บางมด (ไอ้อ้วน)
หลังจากนั้นช่วงปลายปี ก็มีลูกแมวตัวจิ๋วๆ ตัวเมียตัวหนึ่งหลงเข้ามาในบ้าน ตามหาแม่มันก็ไม่เจอ จะปล่อยทิ้งไว้ข้างนอกก็กลัวจะถูกรถทับตาย (บ้านอยู่ริมถนนค่ะ) ก็เลยจำใจต้องรับเลี้ยงไว้ จริงๆ แล้วดีใจ เพราะเคยฝันไว้ว่าอยากเลี้ยงแมวที่จู่ๆ หลงเข้าบ้านมา555 ตั้งชื่อว่า บัวลอย (ย่อมาจากบัวลอยเผือก เพราะตอนแรกพ่อมันบอกว่าสีเหมือนเผือก แต่จะตั้งชื่อว่าไอ้เผือก ก็สงสารแมว) สรุปเจ้าตัวนี้เป็นตัวที่น่ารักและขี้อ้อนที่สุด
ช่วงจังหวะใกล้ๆ กันนั้น ก็มีเหตุให้ต้องตื่นนอนตอนตี 2-3 เพราะสัญญาณกันขโมยที่บ้านดัง (บ้านเป็นตึกแถว เป็นร้านค้าค่ะ เราอยู่สองชั้นบนสุดกับสามีและแมวๆ) พอมาลองดูกล้องก็เห็นเป็นแมวตัวหนึ่ง ตอนแรกก็คิดว่าเป็นแมวของบ้านข้างๆ แอบเข้ามาในบ้านเรา แต่พอมันเริ่มบ่อยขึ้นๆ ก็คิดว่ามันน่าจะอยู่ในบ้านเราแล้วล่ะ ก็เริ่มตั้งชื่อให้มัน เรียกมันว่า "แม่บัวลอย" เพราะคิดว่าน่าจะเป็นตัวแม่ของเจ้าบัวลอยที่ยังวนเวียนอยู่แถวๆ นี้ ในที่สุด
ตอนแรกเจ้าแมวตัวนี้ก็ปรากฏตัวให้เห็นเฉพาะในกล้อง แต่ช่วงหลังๆ พอปิดร้านปุ๊บ แล้วเรายังนั่งทำงานอยู่ในร้าน ก็จะเห็นเจ้าแมวตัวนี้เดินลงบันไดมาทุกวัน รู้เวลาจริงๆ เพราะพอดึงบานม้วนประตูร้านปิดลงมาปุ๊บ รออีกสักสิบวินาที เจ้าแมวก็จะค่อยๆ เดินเยื้องย่างลงมาจากบันได และจากการที่ต้องนอนหลับๆ ตื่นๆ เพราะสัญญาณกันขโมยที่กลายเป็นสัญญาณกันแมวไปแล้วนั้น เราก็ตัดสินใจกันว่า ต้องปฏิบัติการ "จับแมว" เมื่อเดือนที่แล้วโดยการเอากรงมาตั้งไว้ ผูกเชือกที่ประตูกรง แล้วเอาอาหารเปียกกลิ่นเย้ายวนวางไว้ในกรง แล้วก็แอบอยู่ในห้องทำงานเพื่อที่พอเจ้าแมวเข้ามากินข้าวในกรง ก็จะดึงเชือกปิดประตูกรงทันที ตั้งกรงไว้อยู่ 2-3 วัน ให้เจ้าแมวเรียนรู้ว่าในกรงมีอาหารนะ (เพราะตอนแรกเจ้าแมวจะไม่ยอมกินถ้าเราไม่ออกจากร้านก่อน)
หลังจากผ่านไป 2 วัน ก็จับได้สำเร็จ พอจับมาก็ได้เจ้าตัวนี้ค่ะ
ปรากฏว่าเป็นแมวตัวเมีย ที่อายุน่าจะน้อยกว่าเจ้าบัวลอยสักเดือนนึง ก็เลยตี๊ต่างให้เป็นน้องสาวของบัวลอย ตั้งชื่อให้ว่า "ไข่หวาน" ตอนแรกผอมโกรกมาก หนังหุ้มกระดูก คงเพราะได้กินแต่เศษอาหารในถังขยะ และไม่ได้ออกไปไหนเลย พาไปหาหมอ หมอก็บอกว่าปลอดโรค แต่ต้องเพิ่มน้ำหนักหน่อยนะ หลังจากอยู่ได้สัก 2-3 วัน เราก็สังเกตเห็นว่า พุงมันใหญ่มากๆ ตอนนั้นกลัวว่าแมวจะท้องรึเปล่า เพราะเป็นตัวเมียด้วย เสิร์ชดูอาการแมวท้องในอินเตอร์เน็ต ก็เหมือนจะตรง เลยรีบพาไปหาหมอ หมอก็ตกใจนิดนึง เพราะยังดูเด็กๆ อยู่เลย แต่ก็จัดการพาไปเอ็กซเรย์ ปรากฏว่า.....แม่มันต้องหน้าหงายอับอายหมอ เพราะหมอชี้ให้ดูฟิล์มเอ็กซเรย์ว่า มีแต่อาหารเต็มพุงเลย สงสัยเพราะว่าอดอยากมานาน ก็เลยกินอย่างไม่บันยะบันยัง - -"
สรุปแล้วก็คือ ตอนนี้มีแมวทั้งหมด 6 ตัวค่ะ ทองหยิบกับทองหยอดยังต้องอยู่ในกรงไปก่อน เพราะรออยู่บ้านครบหนึ่งสัปดาห์แล้วจะพาไปฉีดวัคซีน+หยดยากำจัดตัวไรด้วย แต่ก็ปล่อยให้ออกมาเล่นกับพี่ๆ ตอนเช้ากับตอนเย็นค่ะ ทั้งสองตัวเป็นแมวที่น่ารักมากกกกก ไม่กลัวคนเลยสักนิดเดียว พอปล่อยออกจากกรงก็ซนเป็นลิงเลย (ถูกใจพี่บัวลอยเขาล่ะ เพราะแอบมาด้อมๆ มองๆ อยากเล่นกับน้องจะแย่แล้ว)
รูปนี้นอนกอดกันน่ารักเชียว ชอบแมวพี่น้องก็เพราะเค้ารักกันแบบนี้แหละค่ะ (ของประกอบฉาก: ตุ๊กตาหนูจาก IKEA เป็นของโปรดของแมวๆ เลยค่ะ)