จขกท เจอมาจาก facebook ค่ะ..คาดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน
และเพื่อเตือนใจสำหรับผู้ที่ชอบดื่มสุราจนขาดสติ
หากมีผู้นำมาแชร์ก่อนแล้วแจ้งลบได้นะคะ
เครดิต http://yuthbk.blogspot.co.uk/2013/05/27.html?m=1

น.ช.อำไพ ใสโพธิ์ อายุ 26 ปี หมายเลขประจำตัว 139/42 คดีพรากผู้เยาว์ ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายและเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(5)(7), 277 วรรค 2, 317 วรรค 3, 91(3) หมายเลขคดีดำที่ 3856/41 หมายเลขคดีแดงที่ 6219/41 ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เหตุเกิดพื้นที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์
วันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2541 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.ละหานทราย ได้รับแจ้งจากนายทวีและนางวิรัช นันทวงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 7 บ้านหนองด่าน ตำบลสำโรงใหม่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ว่าหลานสาวชื่อด.ญ.ลธิดา ใจกล้า อายุ 2 ขวบ 3 เดือน ซึ่งพ่อและแม่ทำงานเย็บผ้าอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้หายออกจากบ้านไปเมื่อตอนสายๆของวันนี้ โดยมีคนเห็นว่าหลานสาวได้ไปซื้อขนมที่ร้านค้า กับชายหนุ่มที่อยู่ในอาการมึนเมา แล้วนั่งรถจักรยานยนต์หายไปทางท้ายหมู่บ้าน เกรงว่าจะถูกล่อลวงไปทำมิดี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหาตัวด้วย
ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แบ่งสายกระจายกำลังกันออกหาตัวด.ญ.ลธิดาทันที จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน ทุกคนต้องตกตลึงเบือนหน้าหนีภาพดังกล่าวทันที เมื่อพบว่าบริเวณข้างจอมปลวก มีร่างของด.ญ.ลธิดานอนเปลือยกายเสียชีวิตอยู่ สภาพศพถูกตีด้วยของแข็งจนกะโหลกยุบ เลือดและเศษมันสมองกระจายเกลื่อนส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง บริเวณอวัยวะเพศมีร่องรอยถูกข่มขืนจนฉีกขาด เลือดไหลนองปนกับน้ำอสุจิซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด นายทวีและนางวิรัชเมื่อมาเห็นสภาพหลานเป็นเช่นนั้น ต่างก็ปล่อยโฮและเป็นลมล้มฟุบไปทั้งคู่ทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าด.ญ.ลธิดาน่าจะเสียชีวิตไม่เกิน 1 ชั่วโมง และคนร้ายน่าจะยังหนีไปได้ไม่ไกล จึงได้วิทยุแจ้งให้ช่วยกันออกติดตามจับมโดยด่วน
เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งได้ไปซุ่มอยู่บริเวณท่ารถในตลาด และพบว่ามีชายหนุ่มท่าทางน่าสงสัยอยู่ในสภาพมึนเมา เดินถือกระเป๋าพะรุงพะรังกำลังจะขึ้นรถประจำทาง คล้ายหนีใครมาอย่างมีพิรุธ จึงเข้าทำการตรวจค้น ชายคนดังกล่าวเมื่อรู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ ก็มีอาการหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด จากการตรวจสอบพบว่าที่ขากางเกงและชายเสื้อมีรอยเปื้อนเลือด จึงนำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายอำไพ ใสโพธิ์ อยู่บ้านน้อย หนองหว้า หมู่ 8 ตำบลสำโรงใหม่ อำเภอละหานทราย เบื้องต้นให้การปฏิเสธและให้การวกวน
หลังจากพยายามเค้นหาความจริงอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายนายอำไพก็เปิดปากยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือข่มขืนและฆ่าด.ญ.ลธิดาจริง โดยบอกว่าตนเพิ่งแต่งงานมาได้ 2 วัน แต่เนื่องจากตนเป็นคนมีความต้องการสูงมาก เป็นเหตุให้เมียทนรับไม่ไหว หอบเสื้อผ้าหลบหนีไป ตนกลุ้มใจมากจึงไปนั่งดื่มเหล้าที่ตลาด พอเมาได้ที่แล้วเกิดอารมย์กลัดมันขึ้นมา เห็นด.ญ.ลธิดาเดินเตาะแตะมาพอดี จึงเข้าไปหลอกล่อพาไปซื้อขนม จากนั้นพาขึ้นรถจักรยานยนต์ไปยังป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน แล้วพยายามลงมือข่มขืน แต่เด็กร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ตนกลัวชาวบ้านจะได้ยินเสียงแล้วเข้ามาเห็น จึงจับขาเด็กเหวี่ยงฟาดไปที่จอมปลวกจนสลบ แล้วจึงลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ เสร็จแล้วเด็กได้ฟื้นขึ้นมาและส่งเสียงร้องไห้อีก ตนเห็นที่อวัยวะเพศเด็กมีเลือดไหลออกมามาก กลัวจะมีคนมาเห็นความผิดที่ตนก่อขึ้น จึงจับขาเด็กเหวี่ยงฟาดไปที่จอมปลวกอีกครั้งจนเด็กแน่นิ่งไป แล้วหยิบท่อนไม้ที่ตกอยู่ในบริเวณนั้น ตีซ้ำเข้าที่ศรีษะจนขาดใจตาย แล้วรีบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ กลับเข้าบ้านเก็บเสื้อผ้าแล้วมาเตรียมขึ้นรถที่ตลาดเพื่อหลบหนีความผิด แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับมได้เสียก่อน จึงหมดโอกาสที่จะไปก่อกรรมชั่วกับใครได้อีก
คำสารภาพสุดท้ายของนักโทษประหาร
จขกท เจอมาจาก facebook ค่ะ..คาดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน
และเพื่อเตือนใจสำหรับผู้ที่ชอบดื่มสุราจนขาดสติ
หากมีผู้นำมาแชร์ก่อนแล้วแจ้งลบได้นะคะ
เครดิต http://yuthbk.blogspot.co.uk/2013/05/27.html?m=1
น.ช.อำไพ ใสโพธิ์ อายุ 26 ปี หมายเลขประจำตัว 139/42 คดีพรากผู้เยาว์ ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายและเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(5)(7), 277 วรรค 2, 317 วรรค 3, 91(3) หมายเลขคดีดำที่ 3856/41 หมายเลขคดีแดงที่ 6219/41 ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เหตุเกิดพื้นที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์
วันที่ 20 เมษายน พ.ศ.2541 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.ละหานทราย ได้รับแจ้งจากนายทวีและนางวิรัช นันทวงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ที่ 7 บ้านหนองด่าน ตำบลสำโรงใหม่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ว่าหลานสาวชื่อด.ญ.ลธิดา ใจกล้า อายุ 2 ขวบ 3 เดือน ซึ่งพ่อและแม่ทำงานเย็บผ้าอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้หายออกจากบ้านไปเมื่อตอนสายๆของวันนี้ โดยมีคนเห็นว่าหลานสาวได้ไปซื้อขนมที่ร้านค้า กับชายหนุ่มที่อยู่ในอาการมึนเมา แล้วนั่งรถจักรยานยนต์หายไปทางท้ายหมู่บ้าน เกรงว่าจะถูกล่อลวงไปทำมิดี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามหาตัวด้วย
ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แบ่งสายกระจายกำลังกันออกหาตัวด.ญ.ลธิดาทันที จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน ทุกคนต้องตกตลึงเบือนหน้าหนีภาพดังกล่าวทันที เมื่อพบว่าบริเวณข้างจอมปลวก มีร่างของด.ญ.ลธิดานอนเปลือยกายเสียชีวิตอยู่ สภาพศพถูกตีด้วยของแข็งจนกะโหลกยุบ เลือดและเศษมันสมองกระจายเกลื่อนส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง บริเวณอวัยวะเพศมีร่องรอยถูกข่มขืนจนฉีกขาด เลือดไหลนองปนกับน้ำอสุจิซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด นายทวีและนางวิรัชเมื่อมาเห็นสภาพหลานเป็นเช่นนั้น ต่างก็ปล่อยโฮและเป็นลมล้มฟุบไปทั้งคู่ทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าด.ญ.ลธิดาน่าจะเสียชีวิตไม่เกิน 1 ชั่วโมง และคนร้ายน่าจะยังหนีไปได้ไม่ไกล จึงได้วิทยุแจ้งให้ช่วยกันออกติดตามจับมโดยด่วน
เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนหนึ่งได้ไปซุ่มอยู่บริเวณท่ารถในตลาด และพบว่ามีชายหนุ่มท่าทางน่าสงสัยอยู่ในสภาพมึนเมา เดินถือกระเป๋าพะรุงพะรังกำลังจะขึ้นรถประจำทาง คล้ายหนีใครมาอย่างมีพิรุธ จึงเข้าทำการตรวจค้น ชายคนดังกล่าวเมื่อรู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ ก็มีอาการหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด จากการตรวจสอบพบว่าที่ขากางเกงและชายเสื้อมีรอยเปื้อนเลือด จึงนำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายอำไพ ใสโพธิ์ อยู่บ้านน้อย หนองหว้า หมู่ 8 ตำบลสำโรงใหม่ อำเภอละหานทราย เบื้องต้นให้การปฏิเสธและให้การวกวน
หลังจากพยายามเค้นหาความจริงอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายนายอำไพก็เปิดปากยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือข่มขืนและฆ่าด.ญ.ลธิดาจริง โดยบอกว่าตนเพิ่งแต่งงานมาได้ 2 วัน แต่เนื่องจากตนเป็นคนมีความต้องการสูงมาก เป็นเหตุให้เมียทนรับไม่ไหว หอบเสื้อผ้าหลบหนีไป ตนกลุ้มใจมากจึงไปนั่งดื่มเหล้าที่ตลาด พอเมาได้ที่แล้วเกิดอารมย์กลัดมันขึ้นมา เห็นด.ญ.ลธิดาเดินเตาะแตะมาพอดี จึงเข้าไปหลอกล่อพาไปซื้อขนม จากนั้นพาขึ้นรถจักรยานยนต์ไปยังป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน แล้วพยายามลงมือข่มขืน แต่เด็กร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ตนกลัวชาวบ้านจะได้ยินเสียงแล้วเข้ามาเห็น จึงจับขาเด็กเหวี่ยงฟาดไปที่จอมปลวกจนสลบ แล้วจึงลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ เสร็จแล้วเด็กได้ฟื้นขึ้นมาและส่งเสียงร้องไห้อีก ตนเห็นที่อวัยวะเพศเด็กมีเลือดไหลออกมามาก กลัวจะมีคนมาเห็นความผิดที่ตนก่อขึ้น จึงจับขาเด็กเหวี่ยงฟาดไปที่จอมปลวกอีกครั้งจนเด็กแน่นิ่งไป แล้วหยิบท่อนไม้ที่ตกอยู่ในบริเวณนั้น ตีซ้ำเข้าที่ศรีษะจนขาดใจตาย แล้วรีบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ กลับเข้าบ้านเก็บเสื้อผ้าแล้วมาเตรียมขึ้นรถที่ตลาดเพื่อหลบหนีความผิด แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับมได้เสียก่อน จึงหมดโอกาสที่จะไปก่อกรรมชั่วกับใครได้อีก