@### ผมถามเพื่อนๆนิดนึงครับมีใครเคยเจออุปสรรคที่ว่ารักกันมาตั้งนานแต่มาเลิกกันเพราะเรื่องสินสอดแต่งงานบ้างครับ ###@

กระทู้คำถาม
ใครเคยเจอแบบนี้บ้างครับแบบว่าคบกันมาตั้งนานพอจะแต่งงานกันแต่สุดท้ายตกลงสินสอดกันไม่ได้เลยต้องเลิกลากันไป
พอดีผมพึ่งปลอบใจเพื่อนผมอ่ะครับ คบกับแฟนเค้ามานานหลายปีพอจะแต่งงานกัน ดันตกลงสินสอดกันไม่ได้ เลยต้องเลิกลากันไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
น้องชายเราเองค่ะ คบกับแฟนมาประมาณ 4-5 ปี ช่วยกันเก็บเงินแล้วด้วย แต่ไม่พอเท่ากับที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียก และบ้านเราก็ไม่ได้รวยมาก ขนาดมีเงินเก็บเยอะแยะ พ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียก เงินสด 500,000 บาท ทองอย่างน้อย 10  บาท ค่าจัดงานทางเราต้องออก ปัญหาคือ ที่บ้านเราไม่ได้มีเงินเกือบล้านขนาดนั้น แม่เราก็ไม่มี และไปคุยกับทางผู้หญิงเค้าก็บอกว่า ไม่ได้ ลูกสาวเค้ามีค่านะ (คนใต้ คนสงขลา) และเรียนมาสูง (น้องชายเราก็เรียนมาสูงเหมือนกันแหละ ทำงานก็ที่เดียวกัน เพียงแต่บ้านเราไม่ได้รวยขนาดนั้น) แม่เราก็อุตส่าห์ไปคุยประมาณว่าจะยกที่สวนยางพาราให้แทนเค้าก็ไม่เอา จะเอาเงินสด และเค้าบอกว่า เค้าไม่เอาหรอกและจะใส่คืนกลับมาให้ด้วย ซึ่งถ้าจะทำจริง ๆ ก็คือต้องไปกู้เงินเพื่อมาแต่งงาน (ตอนนั้นน้องเรามีเงินทั้งหมดประมาณ 300,000 บาท รถหนึ่งคัน บ้านหนึ่งคัน ตอนที่อายุ 25-26 ปี) ซึ่งเราก็มองว่าไม่ขี้เหร่นะ คือถ้าเทียบว่า ที่บ้านไม่ได้มีกองมรดกมาให้ น้องเราก็เป็นคนมีอนาคต (แต่งงานแล้วบริษัทจะส่งตัวไปทำงานที่ฝรั่งเศสด้วย) สุดท้ายพ่อฝ่ายหญิงไม่ยอมท่าเดียวค่ะ พวกเราก็เลยต้องกลับมาตั้งหลักก่อน (คือพวกเราไปสู่ขอ ไปทาบทามเค้าที่สงขลา)

ปรากฎผ่านไปสองอาทิตย์ ไม่รู้พ่อแม่ฝ่ายหญิงไปพูดยังไง (คือก่อนหน้านี้เค้าก็ดูท่าทางชอบน้องชายเรานะคะ) ก็ประมาณว่า ถ้าเงินแค่นี้หามาให้ไม่ได้ แล้วจะมีความสามารถเลี้ยงลูกได้มีความสุขเหรอ สุดท้ายผ่านไปซักเดือน ผู้หญิงมาขอเลิก บอกว่าพ่อแม่ไม่ให้แต่ง และไม่อยากมีปัญหา

น้องชายเราเสียสูญไปเลยค่ะ ร้องไห้ไม่เป็นอันทำอะไร คนรู้ทั้งโรงงาน (คือน้องเราค่อนข้างเป็นคน Popular ในโรงงานสำหรับคนทุกระดับชั้น ตั้งแต่แรงงานไปยันนายฝรั่งทั้งหลาย) ก็มีนายฝรั่งมาเสนอให้ยืมเงินนะคะ ไม่คิดดอกเบี้ยค่ะ แต่เราให้น้องเราไปนั่งชั่งใจ และไปคุยกับแฟนเค้าอีกที ว่าจะยังไง เพราะในมุมมองของเรา เรื่องสินสอดมันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก แต่การกระทำที่เกิดขึ้น มันเหมือนฝ่ายหญิงยังรักน้องเราไม่มากพอ ที่จะพูดคุย อธิบายให้พ่อแม่ตัวเองเข้าใจ (หรือลึก ๆ เค้าก็อาจจะมองว่า เค้าสามารถหาได้ดีกว่านี้ค่ะ) เราก็ให้น้องไปคุยและหาทางออกกับแฟนเค้าเอง เพราะเราบอกว่า เนี่ยขนาดยังไม่แต่ง ปัญหาแค่นี้ยังแก้ไม่ได้ แต่งกันไปก็ไม่รอดอยู่ดี เพราะพอแต่งแล้วมันเป็นการรวมกันสองครอบครัว

สุดท้าย ก็ไม่ได้แต่งกัน และเลิกกันไป อีกซักปี ผู้หญิงก็ไปแต่งงานกับฝรั่งอายุมากกว่า  20 ปีค่ะ ส่วนน้องชายเราก็มีแฟนใหม่ ซึ่งนิสัยและฐานะทางบ้านดีกว่าคนแรกมากกกกกกกกกกก (แม้ว่าอาจจะไม่สวยเท่า) เค้าก็คบกันมาอีก 4-5 ปี กำลังจะแต่งงาน (คราวนี้พ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่เรียกเลยค่ะ บอกว่าแค่จัดงานให้ก็พอ) แต่เค้าสองคนก็ยังไม่แต่่ง เพราะเค้าบอกว่าอยากให้เราแต่งก่อน ปรากฎว่าน้องชายเราอายุสั้นค่ะ เพิ่งเสียไปได้สองปี ตอนงานศพ พ่อแม่แฟนน้องชาย (คนใหม่) มาช่วยเราตลอดเลย มาอยู่เป็นกำลังใจให้แม่เราด้วยค่ะ แถมเค้ายังบอกว่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสดองกับบ้านเรา และได้น้องชายเราเป็นลูกเขย (น้องชายเราเป็นผู้จัดการที่อายุน้อยสุดในโรงงาน และเป็นคนโปรดของ MD ฝรั่ง และผู้บริหารจาก Head office)  ตอนงานศพน้องชายเราจัดที่กรุงเทพ MD ยังให้ปิดโรงงาน เพื่อนให้คนมาร่วมงานวันเผา แถมมีลดธงครึ่งนึง 3 วันด้วย

ตอนที่น้องชายเราเสียใจ นอกจากเราที่เป็นพี่สาวคอยให้คำปรึกษาน้อง ก็มีพี่ ๆ ที่แผนกบุคคล และพี่ฝ่ายโรงงาน ของบริษัทที่น้องชายเราทำงานอยู่ คอยให้คำแนะนำและดูแลค่ะ เหตุการณ์นี้มันทำให้น้องชายเราเข้มแข็งและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากเลยอะ มันเหมือนเป็นจุดหักเหเหมือนกัน จากคำบอกเล่า ของฝ่ายบุคคล (คือเราได้คุยกับคนที่บริษัทน้องชายเยอะมากช่วงน้องชายเสียใหม่ๆ) เค้าบอกเลยว่า น้องเราดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และนั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เค้าได้เป็นผู้จัดการฝ่ายช่าง ตั้งแต่อายุแค่ 28 ปีเอง) แต่เค้าก็อยู่ได้ไม่นาน อย่างน้อยเราก็ดีใจ ที่ใคร ๆ ก็จดจำแต่สิ่งดี ๆ เกี่ยวกับน้องชายเรา

ขอโทษนะคะ ที่อาจจะออกทะเลไปหน่อย เป็นกำลังใจให้เพื่อนคุณเถอะ คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน และถ้าเรื่องแบบนี้ ฝ่ายหญิง ฝ่ายชาย ร่วมมือช่วยกันแก้ไม่ได้นะคะ อย่าแต่งเลย เพราะแนวโน้มชีวิตคู่จะรอดคงยาก

ตอนเราแต่ง ตอนแรกแม่เราก็จะเรียกสินสอดค่ะ เพราะเห็นเราแต่งกับฝรั่ง (คนไทยส่วนใหญ่ชอบมีมุมมองว่าฝรั่งรวย) คือสามีเรา พ่อแม่เค้าก็รวยค่ะ แต่เค้าไม่รวย และฝรั่งไม่มีนโยบายขอเงินพ่อแม่มาแต่งงาน ดังนั้นกว่าจะลงตัวก็คุยกันพักใหญ่ แต่เราก็บอกแม่เราว่า ถ้าแม่จะเอาสินสอด พวกเราก็ไม่แต่ง เพราะจริง ๆ ไม่อยากแต่งอยู่แล้ว มันเปลือง แค่จดทะเบียนก็พอ สุดท้ายแม่ก็ต้องยอม เราก็เลยให้เงินที่มีแขกใส่ซองกับแม่เราไปแทน เพราะเจ้าบ่าวเค้าไม่เอา และเค้าเป็นคนออกค่าใช้จ่ายงานแต่งทั้งหมด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่