บทนำ - ตอนล่าสุด
http://my.dek-d.com/thezircon/writer/view.php?id=893020
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
22
รัตนาถูกขอให้กลับมาช่วยงานก่อนครบวันลา เมื่อเจ้านายและเลขาฯ จำเป็นมีงานสำคัญอีกงานให้รับผิดชอบ โดยเธอสามารถนำลูกอ่อนมาเลี้ยงที่ทำงานได้ รัตนาจึงยินดีกลับมาทำงานก่อนกำหนด
งานสำคัญที่เอาเวลาครึ่งค่อนวันไปจากจิรายุและเกตน์สิรีมาแรมเดือนคือการตระเวนแจกบัตรเชิญแก่ผู้หลักผู้ใหญ่ แขกของบิดามารดาชายหนุ่มเป็นส่วนใหญ่ ไม่เว้นบ่ายแก่ของวันนี้เช่นกันที่ว่าที่เจ้าบ่าวเลี้ยวรถออกจากกระทรวง หลังกลับจากเรียนเชิญปลัดกระทรวงซึ่งรู้จักมักคุ้นกับพ่อของเขาเป็นอย่างดี
หากเขาก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแผนการพบผู้ใหญ่อีกท่านแล้วกลับไปโรงงาน เมื่อรัตนาโทรมารายงานว่ามีเอกสารสำคัญรอเขาตัดสินใจ
"เหนื่อยไหมน้องเกด" เขาหันไปถามคนรักด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
เหนื่อยกายไม่เท่าไร แต่เกตน์สิรีก็หายเหนื่อยใจแล้วทันทีที่ได้ยินคำถามอาทรจากคนรัก
"ไม่หรอกค่ะ แต่พี่แบงค์น่ะซี..."
จิรายุเหลือบมองสัญญาณไฟจราจรซึ่งเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนยกมือหญิงสาวมากดจูบ
"เฮ้อ หายเหนื่อยละ" เขาหลิ่วตาทะเล้น เรียกรอยยิ้มขันจากเจ้าหล่อน "เกดอยากไปแจกการ์ดใครเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ วันไหนมีเวลาจะได้ไปกัน"
เกตน์สิรีรับฟังอย่างยินดี "ก็มีบ้านพี่ปอกับลอ่ะค่ะ"
"อืม... คนกันเองทั้งนั้น คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง พี่บอกไอ้ปอไว้แล้ว น้องเกดบอกลอร่ายัง" ชายหนุ่มให้ความเห็น สายตาเขามุ่งมองทางข้างหน้า จึงไม่ทันเห็นสีหน้าผิดหวังของอีกฝ่าย
หญิงสาวลอบถอนหายใจ ถ้าเขาว่าอย่างนั้นเธอก็คร้านจะโต้แย้ง เสียดายที่บ้านซึ่งจิรายุให้คนมาซ่อมแซมและจัดสวนยังไม่แล้วเสร็จเสียที แม้จะล่วงเลยมากว่าสามเดือน มิเช่นนั้นเธอคงได้เจอพี่ปอหรือลุงหมอ โอกาสจะนัดเจอลอร่าก็คงสะขึ้น
แล้วเกตน์สิรีก็นึกได้เมื่อถนนหนทางขนาบข้างด้วยตึกรามสูงระฟ้า ตอนนี้เธออยู่ใจกลางเมืองนี่นา ป้ายบอกทางแต่ไกลเบื้องหน้าชี้เส้นทางเข้ามหาวิทยาลัยที่เพื่อนเรียน
"เกดขอลงแยกหน้านะคะพี่แบงค์" เธอบอกเขาเร็วพอกับการตัดสินใจ แล้วจึงเอ่ยสำทับกับชายหนุ่มซึ่งหันมาเลิกคิ้วมอง "ไหนๆ ก็มาในเมืองแล้ว เกดว่าเกดนัดเจอลอร่าก็ดีเหมือนกัน"
"แต่พี่ต้องเข้าโรงงาน แล้วเกดจะกลับยังไง” เขาค้านทันที
“เกดกลับได้ค่ะ” เธอตอบอย่างมั่นใจ
เป็นจังหวะดีเมื่อดวงไฟเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นแดง หญิงสาวปลดล็อคประตูรถรวดเร็ว ก่อนจะก้าวลงไปข้ามถนน
จิรายุคว้าแขนคนรักไม่ทัน เพียงพริบตาเดียวหากหัวใจเขาต้องพลิกคว่ำพลิกหงาย เมื่อรถจักรยานยนต์แล่นเฉียดเธอเพียงเส้นยาแดง แต่เจ้าหล่อนกลับยิ้มร่า ยืนโบกมือให้เขาจากทางเท้าโดยไม่สำนึก ชายหนุ่มทำได้เพียงชี้นิ้วคาดโทษระหว่างรถเริ่มเคลื่อนตัว
....................................
ทางเดินในรั้วมหาวิทยาลัยปูพื้นด้วยอิฐตัวหนอน มีไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นตลอดแนว เกตน์สิรีก้าวเอื่อยไปอย่างไม่เร่งร้อน อยากซึมซับบรรยากาศที่เธองเหินไปนาน
โชคดีเหลือเกินที่ลอร่ามีเรียนวันนี้พอดี ตอนตัดสินใจลงรถปุบปับนั้นเธอไม่ทันคิดเสียด้วย รู้แต่ใจกลางเมืองอย่างนี้ โอกาสจะเจอเพื่อนย่อมมีมากกว่า เกตน์สิรีมองชื่อตึกคณะที่เพื่อนเรียน อาคารสูงสี่ชั้นทรงหกเหลี่ยมทอดเงาบังโต๊ะไม้ปิคนิค ยังไม่ทันจะทรุดตัวนั่งรอ ร่างสูงเพรียวของเพื่อนก็วิ่งแทรกเหล่านักศึกษาที่ทยอยออกมาถึงตัว
"รอนานเปล่าเกด"
เกตน์สิรีส่งน้ำมะพร้าวในแก้วพลาสติกใสที่ซื้อติดมือมาจากข้างนอก แล้วคนเหนื่อยจากการเรียนก็รับไปดื่มอย่างไม่ถือสา
"เกดเดินมาเรื่อยๆ ะ เพิ่งมาถึงเอง"
ลอร่าหรี่ตาสำรวจเพื่อนสนิท อีกฝ่ายแต่งตัวภูมิฐานด้วยเสื้อสูทแขนสามส่วนสีฟ้าอมเขียว กับกระโปรงผ้าชีฟองสีขาวยาวคลุมเข่า เหมือนเพิ่งกลับจากสัมภาษณ์งานอย่างไรอย่างนั้น
"เกดไปไหนมาถึงมานี่ได้ ฉันดีใจมากนะที่เกดมาหา แต่ก็แปลกใจ" เธอบอกตรงๆ
เกตน์สิรีเลี่ยงสบตาด้วยการออกเดินไปตามทางที่มาเมื่อกี้ ก่อนจะตอบคำถามด้วยน้ำเสียงซึ่งพยายามให้สดใส ร่าเริง เป็นนัยให้อีกฝ่ายร่วมยินดี
"เกดมาพบผู้ใหญ่กับพี่แบงค์น่ะ แต่พี่แบงค์มีธุระต่อ เกดเลยแวะเอาการ์ดมาให้ลอร่าเอง"
"การ์ด...การ์ดอะไร" เอ่ยพลางรั้งแขนเพื่อนไว้
ร่างบางค้นหาซองในกระเป๋า แล้วจึงส่งซองกระดาษสีครีมให้คนที่จับตามองแน่แน่ว เป็นซองซึ่งยังไม่ได้จ่านามผู้ใด
ลอร่าเปิดดูด้วยสังหรณ์ไม่ดี เธอคอยมองสลับกับใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้น แต่คราวนี้ตนไม่ยั้สึกอยากยิ้มตอบ
กระดาษแข็งขนาดใหญ่กว่าโปสการ์ดเล็กน้อยล้อมด้วยกรอบเส้นสีทอง มีตราตัวอักษรภาษาอังกฤษ 'เจ' และ 'เค' ไขว้เกี่ยวกัน ล่างลงมาจึงปรากฏที่มาของอักษรย่อนั้น ด้วยชื่อของชายหญิงซึ่งคั่นด้วยหัวใจ
"เธอต้องบ้า เธอต้องบ้าแน่ๆ ล่ะเกด" เสียงโวยดังเรียกสายตานักศึกษาผ่านไปมาให้เหลือบมอง ลอร่าจ้องตอบขุ่นเขียว ก่อนสงบใจลดเสียงลง “ขอโทษเถอะ แต่ฉันตกใจ นี่มันไม่เร็วไปเหรอ เธอรู้จักหมอนั่นกี่วันกัน”
“ใครๆ ก็ตกใจอย่างนี้” ว่าที่เจ้าสาวเอ่ยกลั้วหัวเราะจืดเจื่อน “แต่พี่แบงค์ดีกับเรา...กับบ้านเรามากนะ ลอร่าก็รู้”
“โธ่เอ๊ยเกด นายนั่นเขาดีกับผู้หญิงทุกคนนั่นะ” น้ำเสียงลากยาวนั้นราวสมเพชเวทนาเพื่อนเต็มที
กิตติศัพท์เรื่องความเจ้าชู้ของชายหนุ่มรุ่นพี่ เกตน์สิรีรับรู้มาตั้งแต่เธอเรียนร่วมโรงเรียนกับเขา แต่ตลอดเวลาที่ได้รู้จักกับจิรายุมากขึ้น กลับไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะให้ความสำคัญกับใครนอกจากเธอ คำเตือนของลอร่าจึงไร้น้ำหนัก เป็นเพียงอคติของคนไม่ถูกชะตากัน
“ฉันน่าจะเจอเกดก่อนนายคนนั้น เผื่อพูดอะไรเกดจะฟัง” ที่สุดจึงตัดพ้อ
นักศึกษาสาวเชิดหน้าขึ้นอวดลำคอระหง ก่อนความคิดหนึ่งแวบเข้ามา มือเรียวรีบเก็บการ์ดใส่กระเป๋าสะพายสั้น ก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาหมายเลขใครบางคน
“ถ้าให้เดา เกดยังไม่ได้แจกการ์ดบ้านพี่ปอใช่ไหม” ลอร่าทายขณะรอสาย
คำตอบของเพื่อนไม่ได้สร้างความประหลาดใจ เธอนึ้เท่าทันความคิดของรุ่นพี่คนนั้น จิรายุกำลังดึงเกตน์สิรีออกจากคนแวดล้อมเดิมๆ ซึ่งเธอเชื่อว่าเป็นการกระทำอันไม่บริสุทธิ์ใจ
เส้นขนานสองหัวใจ บทที่ ๒๒
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
22
รัตนาถูกขอให้กลับมาช่วยงานก่อนครบวันลา เมื่อเจ้านายและเลขาฯ จำเป็นมีงานสำคัญอีกงานให้รับผิดชอบ โดยเธอสามารถนำลูกอ่อนมาเลี้ยงที่ทำงานได้ รัตนาจึงยินดีกลับมาทำงานก่อนกำหนด
งานสำคัญที่เอาเวลาครึ่งค่อนวันไปจากจิรายุและเกตน์สิรีมาแรมเดือนคือการตระเวนแจกบัตรเชิญแก่ผู้หลักผู้ใหญ่ แขกของบิดามารดาชายหนุ่มเป็นส่วนใหญ่ ไม่เว้นบ่ายแก่ของวันนี้เช่นกันที่ว่าที่เจ้าบ่าวเลี้ยวรถออกจากกระทรวง หลังกลับจากเรียนเชิญปลัดกระทรวงซึ่งรู้จักมักคุ้นกับพ่อของเขาเป็นอย่างดี
หากเขาก็จำเป็นต้องเปลี่ยนแผนการพบผู้ใหญ่อีกท่านแล้วกลับไปโรงงาน เมื่อรัตนาโทรมารายงานว่ามีเอกสารสำคัญรอเขาตัดสินใจ
"เหนื่อยไหมน้องเกด" เขาหันไปถามคนรักด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
เหนื่อยกายไม่เท่าไร แต่เกตน์สิรีก็หายเหนื่อยใจแล้วทันทีที่ได้ยินคำถามอาทรจากคนรัก
"ไม่หรอกค่ะ แต่พี่แบงค์น่ะซี..."
จิรายุเหลือบมองสัญญาณไฟจราจรซึ่งเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนยกมือหญิงสาวมากดจูบ
"เฮ้อ หายเหนื่อยละ" เขาหลิ่วตาทะเล้น เรียกรอยยิ้มขันจากเจ้าหล่อน "เกดอยากไปแจกการ์ดใครเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ วันไหนมีเวลาจะได้ไปกัน"
เกตน์สิรีรับฟังอย่างยินดี "ก็มีบ้านพี่ปอกับลอ่ะค่ะ"
"อืม... คนกันเองทั้งนั้น คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง พี่บอกไอ้ปอไว้แล้ว น้องเกดบอกลอร่ายัง" ชายหนุ่มให้ความเห็น สายตาเขามุ่งมองทางข้างหน้า จึงไม่ทันเห็นสีหน้าผิดหวังของอีกฝ่าย
หญิงสาวลอบถอนหายใจ ถ้าเขาว่าอย่างนั้นเธอก็คร้านจะโต้แย้ง เสียดายที่บ้านซึ่งจิรายุให้คนมาซ่อมแซมและจัดสวนยังไม่แล้วเสร็จเสียที แม้จะล่วงเลยมากว่าสามเดือน มิเช่นนั้นเธอคงได้เจอพี่ปอหรือลุงหมอ โอกาสจะนัดเจอลอร่าก็คงสะขึ้น
แล้วเกตน์สิรีก็นึกได้เมื่อถนนหนทางขนาบข้างด้วยตึกรามสูงระฟ้า ตอนนี้เธออยู่ใจกลางเมืองนี่นา ป้ายบอกทางแต่ไกลเบื้องหน้าชี้เส้นทางเข้ามหาวิทยาลัยที่เพื่อนเรียน
"เกดขอลงแยกหน้านะคะพี่แบงค์" เธอบอกเขาเร็วพอกับการตัดสินใจ แล้วจึงเอ่ยสำทับกับชายหนุ่มซึ่งหันมาเลิกคิ้วมอง "ไหนๆ ก็มาในเมืองแล้ว เกดว่าเกดนัดเจอลอร่าก็ดีเหมือนกัน"
"แต่พี่ต้องเข้าโรงงาน แล้วเกดจะกลับยังไง” เขาค้านทันที
“เกดกลับได้ค่ะ” เธอตอบอย่างมั่นใจ
เป็นจังหวะดีเมื่อดวงไฟเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นแดง หญิงสาวปลดล็อคประตูรถรวดเร็ว ก่อนจะก้าวลงไปข้ามถนน
จิรายุคว้าแขนคนรักไม่ทัน เพียงพริบตาเดียวหากหัวใจเขาต้องพลิกคว่ำพลิกหงาย เมื่อรถจักรยานยนต์แล่นเฉียดเธอเพียงเส้นยาแดง แต่เจ้าหล่อนกลับยิ้มร่า ยืนโบกมือให้เขาจากทางเท้าโดยไม่สำนึก ชายหนุ่มทำได้เพียงชี้นิ้วคาดโทษระหว่างรถเริ่มเคลื่อนตัว
....................................
ทางเดินในรั้วมหาวิทยาลัยปูพื้นด้วยอิฐตัวหนอน มีไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นตลอดแนว เกตน์สิรีก้าวเอื่อยไปอย่างไม่เร่งร้อน อยากซึมซับบรรยากาศที่เธองเหินไปนาน
โชคดีเหลือเกินที่ลอร่ามีเรียนวันนี้พอดี ตอนตัดสินใจลงรถปุบปับนั้นเธอไม่ทันคิดเสียด้วย รู้แต่ใจกลางเมืองอย่างนี้ โอกาสจะเจอเพื่อนย่อมมีมากกว่า เกตน์สิรีมองชื่อตึกคณะที่เพื่อนเรียน อาคารสูงสี่ชั้นทรงหกเหลี่ยมทอดเงาบังโต๊ะไม้ปิคนิค ยังไม่ทันจะทรุดตัวนั่งรอ ร่างสูงเพรียวของเพื่อนก็วิ่งแทรกเหล่านักศึกษาที่ทยอยออกมาถึงตัว
"รอนานเปล่าเกด"
เกตน์สิรีส่งน้ำมะพร้าวในแก้วพลาสติกใสที่ซื้อติดมือมาจากข้างนอก แล้วคนเหนื่อยจากการเรียนก็รับไปดื่มอย่างไม่ถือสา
"เกดเดินมาเรื่อยๆ ะ เพิ่งมาถึงเอง"
ลอร่าหรี่ตาสำรวจเพื่อนสนิท อีกฝ่ายแต่งตัวภูมิฐานด้วยเสื้อสูทแขนสามส่วนสีฟ้าอมเขียว กับกระโปรงผ้าชีฟองสีขาวยาวคลุมเข่า เหมือนเพิ่งกลับจากสัมภาษณ์งานอย่างไรอย่างนั้น
"เกดไปไหนมาถึงมานี่ได้ ฉันดีใจมากนะที่เกดมาหา แต่ก็แปลกใจ" เธอบอกตรงๆ
เกตน์สิรีเลี่ยงสบตาด้วยการออกเดินไปตามทางที่มาเมื่อกี้ ก่อนจะตอบคำถามด้วยน้ำเสียงซึ่งพยายามให้สดใส ร่าเริง เป็นนัยให้อีกฝ่ายร่วมยินดี
"เกดมาพบผู้ใหญ่กับพี่แบงค์น่ะ แต่พี่แบงค์มีธุระต่อ เกดเลยแวะเอาการ์ดมาให้ลอร่าเอง"
"การ์ด...การ์ดอะไร" เอ่ยพลางรั้งแขนเพื่อนไว้
ร่างบางค้นหาซองในกระเป๋า แล้วจึงส่งซองกระดาษสีครีมให้คนที่จับตามองแน่แน่ว เป็นซองซึ่งยังไม่ได้จ่านามผู้ใด
ลอร่าเปิดดูด้วยสังหรณ์ไม่ดี เธอคอยมองสลับกับใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้น แต่คราวนี้ตนไม่ยั้สึกอยากยิ้มตอบ
กระดาษแข็งขนาดใหญ่กว่าโปสการ์ดเล็กน้อยล้อมด้วยกรอบเส้นสีทอง มีตราตัวอักษรภาษาอังกฤษ 'เจ' และ 'เค' ไขว้เกี่ยวกัน ล่างลงมาจึงปรากฏที่มาของอักษรย่อนั้น ด้วยชื่อของชายหญิงซึ่งคั่นด้วยหัวใจ
"เธอต้องบ้า เธอต้องบ้าแน่ๆ ล่ะเกด" เสียงโวยดังเรียกสายตานักศึกษาผ่านไปมาให้เหลือบมอง ลอร่าจ้องตอบขุ่นเขียว ก่อนสงบใจลดเสียงลง “ขอโทษเถอะ แต่ฉันตกใจ นี่มันไม่เร็วไปเหรอ เธอรู้จักหมอนั่นกี่วันกัน”
“ใครๆ ก็ตกใจอย่างนี้” ว่าที่เจ้าสาวเอ่ยกลั้วหัวเราะจืดเจื่อน “แต่พี่แบงค์ดีกับเรา...กับบ้านเรามากนะ ลอร่าก็รู้”
“โธ่เอ๊ยเกด นายนั่นเขาดีกับผู้หญิงทุกคนนั่นะ” น้ำเสียงลากยาวนั้นราวสมเพชเวทนาเพื่อนเต็มที
กิตติศัพท์เรื่องความเจ้าชู้ของชายหนุ่มรุ่นพี่ เกตน์สิรีรับรู้มาตั้งแต่เธอเรียนร่วมโรงเรียนกับเขา แต่ตลอดเวลาที่ได้รู้จักกับจิรายุมากขึ้น กลับไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะให้ความสำคัญกับใครนอกจากเธอ คำเตือนของลอร่าจึงไร้น้ำหนัก เป็นเพียงอคติของคนไม่ถูกชะตากัน
“ฉันน่าจะเจอเกดก่อนนายคนนั้น เผื่อพูดอะไรเกดจะฟัง” ที่สุดจึงตัดพ้อ
นักศึกษาสาวเชิดหน้าขึ้นอวดลำคอระหง ก่อนความคิดหนึ่งแวบเข้ามา มือเรียวรีบเก็บการ์ดใส่กระเป๋าสะพายสั้น ก่อนหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาหมายเลขใครบางคน
“ถ้าให้เดา เกดยังไม่ได้แจกการ์ดบ้านพี่ปอใช่ไหม” ลอร่าทายขณะรอสาย
คำตอบของเพื่อนไม่ได้สร้างความประหลาดใจ เธอนึ้เท่าทันความคิดของรุ่นพี่คนนั้น จิรายุกำลังดึงเกตน์สิรีออกจากคนแวดล้อมเดิมๆ ซึ่งเธอเชื่อว่าเป็นการกระทำอันไม่บริสุทธิ์ใจ