คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
1.พวกท่านมีหลักการซื้อ-ขายหุ้นอย่างไร (vi)
หลักการ :
1. ต้องเป็นบริษัทที่พื้นฐานดี เน้นย่้ำนะครับว่า พื้นฐานดี แปลว่าอะไร แปลว่า ไม่เซจนจะล้มนะครับ หรือเป็นผู้นำตลาดได้จะดีมากครับ
2. ควรเลือกหุ้นที่เรารู้จักและเรามีความรู้เกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นครับ เช่น ผมจบเภสัชมาครับ = หุ้นส่วนใหญ่ที่ผมลงจะเป็นพวกโรงพยาบาล กับเวชภัณฑ์เป็นหลักครับ
3. ธุรกิจที่คุณลง คุณต้องหาข้อดี+ข้อด้อย กับมันก่อนครับ และเปรียบเทียบกัน เช่น หุ้นกลุ่มโรงแรม แน่นอนว่า ไตรมาส 1 กับ 4 ผลประกอบการจะดี ไตรมาส 2 กับ 3 ราคาจะไม่วิ่งเท่าไร บางคนเห็นราคาไม่วิ่งหน่อย ขายแล้ว / หุ้นกลุ่มส่งออก เงินบาทแข็ง แน่นอนว่า ราคามันมีแต่ร่วงแน่ๆ อันนี้ก็ต้องวิเคราะห์เศรษฐกิจให้เป็นครับ
4. ดูว่ามันเกินมูลค่าหรือยัง บางคนฟังชาวบ้านพูดจังตัวนั้น VI ตัวนี้ VI แต่ VI สมัยที่เขาพูด อาจจะ 10-20 บาท ตอนนี้มันอาจจะขึ้นไป 150 บาทแล้วตอนนี้ก็เป็นไปได้ อันนี้เข้าตาม ซื้อตอนนี้ก็ตายครับ
5. ควรเลือกบริษัทที่ยืนได้ด้วยขาของตัวเอง แปลว่าอะไร แปลว่า บริษัทนั้นผลิตสิ่งที่คนต้องใช้ครับ ไม่ใช่ว่าต้องรอสัมปทานจากรํฐบาล หรือ เงินก้อนโตจากการอนุมัติของรัฐบาล งานถึงจะมี เปลี่ยนรัฐบาลงานหมด อันนี้ก็จบ (อันนี้ไม่ได้ยืนได้ด้วยขาของตัวเอง ยืนด้วยขาของการเมืองแล้ว)
5. บริษัทที่เลือกเจ้าของต้องมีธรรมภิบาล หมายความว่า เจ้าของไม่ลากหุ้น ปั่นหุ้นให้ราคาสูง หรือว่า ขาย big lot แบบไม่มีการบอกให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้า
2.ถ้าเราอยากเข้าใจในบริษัทหาอ่านได้จากไหน
google เลยครับ มีทุกอย่างให้เจาะได้หมดว่า บริษัทนี้ทำอะไร ผมว่ารู้แค่ product เขาก็พอมั๊งว่าทำเกี่ยวกับอะไรครับ
3.ถ้าผมอ่าน 56-1 ผมควรอ่านหัวข้อไรบ้าง
ไม่เข้าใจครับ
4.ถ้าเกิดวิกฤตมีวิธีจัดการ port ของตัวเองอย่างไร
ดูว่าแนวโน้มพื้นฐานของหุ้นเปลี่ยนแปลงมั๊ย ยกตัวอย่างเช่น หุ้น IT city ช่วงนี้ราคาลง เพราะว่า บริษัทเขาขาย computer แต่เดี๋ยวนี้คนหันมาเล่น tablet แทน ทำให้พื้นฐานของหุ้นเปลี่ยน ควรขายครับ แต่ถ้าเกิดอาการตลาดตกใจ (panic) แต่หุ้นพื้นฐานไม่เปลี่ยน ควรใจร่มๆๆ อยู่เฉยๆๆ หรือว่าอาจจะซื้อเพิ่มซักไม้ก็ได้ครับ ไม่ต้องกลัวแดงครับ ของดี ราคากลับมาที่เดิมแน่นอน (แต่คุณต้องมั่นใจหุ้นตัวนั้นของหุ้นนะครับ และมั่นใจว่าพื้นฐานของหุ้นตัวที่คุณซื้อ มันไม่ได้เปลี่ยน)
5.แล้วอะไรที่ทำให้รู้ว่ามันจะเกิดวิกฤต
ฟองสบู่แตกไงครับ ข่าวมันก็ออกโครมๆๆ หรือว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธครับ ถ้าไม่มีข่าวอะไร ก็แปลว่าไม่ได้เกิดวิกฤต แค่ตลาดตกใจครับ
6.อยากให้พวกท่านช่วยแชร์ประสบการณ์ของท่านที่เคยผ่านวิกฤตว่าทำอย่างไร
ตอน Subprime ผมเล่น daytrade ก็เสียไปหลาย หลังจากนั้นมาเล่น VI แทน เลยรู้สึกมีความสุขขึ้นเยอะ port เขียวตลอด แม้วันศุกร์แสนล้าน ก็เขียว ไม่เครียดเลยครับ
หลักการ :
1. ต้องเป็นบริษัทที่พื้นฐานดี เน้นย่้ำนะครับว่า พื้นฐานดี แปลว่าอะไร แปลว่า ไม่เซจนจะล้มนะครับ หรือเป็นผู้นำตลาดได้จะดีมากครับ
2. ควรเลือกหุ้นที่เรารู้จักและเรามีความรู้เกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นครับ เช่น ผมจบเภสัชมาครับ = หุ้นส่วนใหญ่ที่ผมลงจะเป็นพวกโรงพยาบาล กับเวชภัณฑ์เป็นหลักครับ
3. ธุรกิจที่คุณลง คุณต้องหาข้อดี+ข้อด้อย กับมันก่อนครับ และเปรียบเทียบกัน เช่น หุ้นกลุ่มโรงแรม แน่นอนว่า ไตรมาส 1 กับ 4 ผลประกอบการจะดี ไตรมาส 2 กับ 3 ราคาจะไม่วิ่งเท่าไร บางคนเห็นราคาไม่วิ่งหน่อย ขายแล้ว / หุ้นกลุ่มส่งออก เงินบาทแข็ง แน่นอนว่า ราคามันมีแต่ร่วงแน่ๆ อันนี้ก็ต้องวิเคราะห์เศรษฐกิจให้เป็นครับ
4. ดูว่ามันเกินมูลค่าหรือยัง บางคนฟังชาวบ้านพูดจังตัวนั้น VI ตัวนี้ VI แต่ VI สมัยที่เขาพูด อาจจะ 10-20 บาท ตอนนี้มันอาจจะขึ้นไป 150 บาทแล้วตอนนี้ก็เป็นไปได้ อันนี้เข้าตาม ซื้อตอนนี้ก็ตายครับ
5. ควรเลือกบริษัทที่ยืนได้ด้วยขาของตัวเอง แปลว่าอะไร แปลว่า บริษัทนั้นผลิตสิ่งที่คนต้องใช้ครับ ไม่ใช่ว่าต้องรอสัมปทานจากรํฐบาล หรือ เงินก้อนโตจากการอนุมัติของรัฐบาล งานถึงจะมี เปลี่ยนรัฐบาลงานหมด อันนี้ก็จบ (อันนี้ไม่ได้ยืนได้ด้วยขาของตัวเอง ยืนด้วยขาของการเมืองแล้ว)
5. บริษัทที่เลือกเจ้าของต้องมีธรรมภิบาล หมายความว่า เจ้าของไม่ลากหุ้น ปั่นหุ้นให้ราคาสูง หรือว่า ขาย big lot แบบไม่มีการบอกให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้า
2.ถ้าเราอยากเข้าใจในบริษัทหาอ่านได้จากไหน
google เลยครับ มีทุกอย่างให้เจาะได้หมดว่า บริษัทนี้ทำอะไร ผมว่ารู้แค่ product เขาก็พอมั๊งว่าทำเกี่ยวกับอะไรครับ
3.ถ้าผมอ่าน 56-1 ผมควรอ่านหัวข้อไรบ้าง
ไม่เข้าใจครับ
4.ถ้าเกิดวิกฤตมีวิธีจัดการ port ของตัวเองอย่างไร
ดูว่าแนวโน้มพื้นฐานของหุ้นเปลี่ยนแปลงมั๊ย ยกตัวอย่างเช่น หุ้น IT city ช่วงนี้ราคาลง เพราะว่า บริษัทเขาขาย computer แต่เดี๋ยวนี้คนหันมาเล่น tablet แทน ทำให้พื้นฐานของหุ้นเปลี่ยน ควรขายครับ แต่ถ้าเกิดอาการตลาดตกใจ (panic) แต่หุ้นพื้นฐานไม่เปลี่ยน ควรใจร่มๆๆ อยู่เฉยๆๆ หรือว่าอาจจะซื้อเพิ่มซักไม้ก็ได้ครับ ไม่ต้องกลัวแดงครับ ของดี ราคากลับมาที่เดิมแน่นอน (แต่คุณต้องมั่นใจหุ้นตัวนั้นของหุ้นนะครับ และมั่นใจว่าพื้นฐานของหุ้นตัวที่คุณซื้อ มันไม่ได้เปลี่ยน)
5.แล้วอะไรที่ทำให้รู้ว่ามันจะเกิดวิกฤต
ฟองสบู่แตกไงครับ ข่าวมันก็ออกโครมๆๆ หรือว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธครับ ถ้าไม่มีข่าวอะไร ก็แปลว่าไม่ได้เกิดวิกฤต แค่ตลาดตกใจครับ
6.อยากให้พวกท่านช่วยแชร์ประสบการณ์ของท่านที่เคยผ่านวิกฤตว่าทำอย่างไร
ตอน Subprime ผมเล่น daytrade ก็เสียไปหลาย หลังจากนั้นมาเล่น VI แทน เลยรู้สึกมีความสุขขึ้นเยอะ port เขียวตลอด แม้วันศุกร์แสนล้าน ก็เขียว ไม่เครียดเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอถาม VI หน่อยครับ เพื่อเป็นองค์ความรู้ครับ
2.ถ้าเราอยากเข้าใจในบริษัทหาอ่านได้จากไหน
3.ถ้าผมอ่าน 56-1 ผมควรอ่านหัวข้อไรบ้าง
4.ถ้าเกิดวิกฤตมีวิธีจัดการ port ของตัวเองอย่างไร
5.แล้วอะไรที่ทำให้รู้ว่ามันจะเกิดวิกฤต
6.อยากให้พวกท่านช่วยแชร์ประสบการณ์ของท่านที่เคยผ่านวิกฤตว่าทำอย่างไร
ที่จริงสงสัยเยอะครับ แต่กลัวไม่มีคนตอบเพราะถามเยอะไป
Thank you & Best Regards.
FATHER-ANT