วันนี้มีอีกมุมมองนึงมาเล่าให้ฟังค่ะ เกิดจากคนใกล้ตัวนี่เอง
ญ.สาวผมยาว รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วน แต่ก็ไม่ผอม หน้าคม ผมทอง จมูกสวย ผิวแทนนิดๆ สวยไทยๆค่ะ
ค่อนข้างมีฐานะ มีรถขับ ค่าเทอมก็เฉียดแสน บุคลิคพี่เค้าเป็นสาวเก่ง สาวมั่น หัวสมัยใหม่ หน้าตานิ่งๆ
เรียบๆ เฉียบขาดมากค่ะ เรียนเก่งด้วย ตอนนั้นเธอเรียนมหาลัยอินเตอร์ มองภายนอกเธอดูเป็นคนเชิ่ดๆ เริ่ดๆ ซึ่งลุคของเธอมองแล้ว"ไม่น่าจะเสียน้ำตาให้ผู้ชาย"
แต่..เธอ sensitive มากกับเรื่องนี้ เธอเจอแต่ผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ เจอแต่คนไม่จริงใจ
เธอร้องไห้อย่างหนักทุกครั้งเวลาโดนทิ้ง
จนวันนึง..เธอพบกับผู้ชายคนนึงที่งานมงคล เค้าเป็นรุ่นพี่ของเจ้าของงาน เค้าชอบเธอตั้งแต่แรกพบ
เค้าถามชื่อเธอนัดเธอกินข้าว แล้วก็เริ่มคุยกัน.. ผู้ชายคนนี้แก่กว่าเธอสามปี มีธุรกิจส่วนตัว เปิดร้านเป็นของตัวเอง
มีรายได้เดือนนึง 2-3 หมื่นบาท เธอคบกับเค้า พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างรับรู้ และคอยดูอยู่ห่างๆ
เวลาผ่านไป 2 ปี เธอคนนี้กำลังจะขึ้นปี4 "เธอตั้งท้อง.. เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน"
และหลานสาวคนเล็กของตระกูล. คิดดูสิ ที่บ้านมีแต่คุณลุง พ่อมีแต่พี่น้องผู้ชายที่หวงลูกหลานขนาดไหน
สังคมคนไทยสมัยก่อน ผมทอง เล็บแดง แขนกุด ก็โดนมองตาขวางมาบ้างจากลุง
แต่เธอยังคงเป็นเธอ..จนคุณลุงทั้งหลายเริ่มปลงว่าเด็กสมัยนี้ก็แบบนี้ล่ะนะ
เธอเสียใจ เธอร้องไห้ แต่เธอยังมีสติเธอกับเขาไปขอขมาพ่อแม่ . สถานการณ์ภายในบ้านเป็นยังไง??
น่าจะพอเดากันออก.. แม่ได้แต่ร้องไห้แล้วพร่ำบอกว่า "พ่อแม่เลี้ยงมาหวงตัวลูกจะตายทำไมตัวเองถึงไม่รักตัวเอง"
แต่ในเมื่อมันพลาดมาแล้ว..ทำได้แค่ทำมันให้ดีที่สุด-เธอคิดแบบนี้
ในช่วงที่เธอท้อง เธอดรอปเรียนไปก่อน เธอเดินไปบอกอธิการว่าเธอท้อง
ขอดรอปก่อน1เทอม ซึ่งมหาลัยก็ให้เวลาเธอ .. ส่วนผู้ชายก็ทำมาหากินปกติ
ฐานะที่บ้านผู้ชายก็พอมี เค้าเป็นลูกชายคนเดียว (มีแต่พี่สาว) ได้ทำธุรกิจต่อจากแม่
ลูกสาวคนเดียวเลี้ยงอย่างดี เรียนโรงเรียนดีๆ หวังจะให้เป็นที่พึ่ง มอบแต่สิ่งดีๆให้ลูก
"เธอรู้ดีค่ะว่าพ่อแม่ผิดหวัง.."แต่ในมุมของเธอ เธอกลับคิดอีกอย่างว่า ทำไม ? ถ้าท้องตอนเรียนคนต้องมองว่าแย่มากมาย ?
โอเคค่ะ ใช่ ! ไม่รักนวลสงวนตัว แต่..ไม่ได้แปลว่าชีวิตเธอมันจะจบเดี๋ยวนั้น
ไม่ใช่ว่าท้อง ท้องแล้วไง ? เธอต้องหมดอนาคต ? เธอต้องไม่ได้เรียน ? เธอจะอับอาย เธอจะหมดหนทาง ?
เธอบอกกับแม่ของเธอ..
"ไม่ต้องอายที่หนูท้อง..ชีวิตหนูเองหนูทำให้มันดีได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ท้อง แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูทำให้อนาคตหนูดีได้แน่นอน"
เธอไม่ได้รู้สึกอาย..อย่างที่บอกค่ะ หัวคิดเธอค่อนข้างมั่น มีลูกชายขายยา กับ มีลูกสาวตั้งท้อง จะอายอันไหน
เธอไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ประเทศชาติ แต่ใช่ค่ะ..เธอทำให้พ่อแม่เสียใจและผิดหวังนั่นคือสิ่งที่แย่ที่สุดที่เธอได้ทำไป
ซึ่งเธอเองก็รู้ตัว..เธอจึงพยายามทำชีวิตต่อจากนี้ให้พ่อแม่ภูมิใจบ้าง ชีวิตเธอต้องดีกว่าคนที่ไม่ได้ท้องตอนเรียนอย่างแน่..
เรามาลองฟังชีวิตเธอหลังจากนี้กันค่ะ
ในระหว่างที่เธอตั้งท้อง เธอไปรับเสื้อผ้ามาขาย ได้กำไรเดือนละ 8-9 พัน ขายบ้างไม่ขายบ้าง
บางวันไม่ไหวก็หยุด โดยมีเพื่อนของสามีไปคอยช่วย จนเธอเก็บเงินพอค่าคลอดที่รพ.เอกชน
แต่แฟนเธอก็เป็นคนออกคชจ.หลังจากเธอคลอดลูกออกมา เธอได้ลูกชายน่าตาดีด้วยค่ะ
แม่ของฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงสลับกันเลี้ยงในช่วงที่เธอเรียน ไม่ได้เกี่ยงกันเลยนะ แย่งกันต่างหาก..
คุณตาเห่อหลาน หวงหลานยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก
เธอใช้เวลา1ปีเรียนให้จบ.. เธอบอกแม่เธอว่า
"แม่จ่ายแค่ค่าเทอมให้หนูก็พอ"
"หนูโตแล้วในเมื่อหนูเลือกที่จะมีครอบครัวแล้วแปลว่าหนูโตพอที่จะหาเลี้ยงตัวเองได้"
"แม่ไม่ต้องให้เงินกินใช้เหมือนแต่ก่อนหรอก"
ค่าเทอม1ปีที่เหลือที่จริงแฟนเธอจะจ่ายให้ แต่ทางบ้านผู้หญิงก็ไม่ยอมอยากให้เก็บไว้เลี้ยงหลาน
ในช่วงที่เธอเรียนเธอก็ขายของๆเธอไปเรื่อยค่ะ ในอินเตอร์เน็ตบ้าง ตามนัดบ้าง
จนสุดท้ายเธอรับมาขายส่งเอง เธอขายจนรู้สักคนเยอะ กิจการรุ่งเรือง
เมื่อเธอเรียนจบ เธอไปสมัครงานโรงงานใหญ่ เธอได้เป็นเลขาฯ
เธอภาษาดีค่ะ ทำงานคล่อง ทำงานเก่ง ปราดเปรียวมากตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
เราชื่นชมเธอมาก มากเธอนิ่งๆ หน้าดูเปรี้ยวๆ เธอเป็นผู้หญิงเก่งค่ะ
สุดท้ายเธอก็ได้โยกไปตำแหน่งอื่นๆ ณ ตอนนี้เงินเดือนหลายหมื่นบาท
แต่..ธุรกิจเสื้อผ้าเธอยังคงทำ เธอนำเสื้อผ้าที่ไปรับมาไว้ที่ร้านของแฟน
แล้วให้ลูกค้ามาเลือกที่นี่ โดยมีแม่สามีดูแล ก็ได้ราวๆเดือนละ 20,000 บาท
ชีวิตเธอ..มีความสุขดี ถึงแม้ เธอจะท้องก่อนเรียนจบ ถึงแม้เธอจะไม่ได้มีงานแต่งงานสวยๆหรูๆ
แต่นี่อาจะเพราะเธอโชคดี..ที่แฟนเธอค่อนข้างดี และมีพื้นฐานครอบครัวที่ดี
คุณแม่ของแฟนยกธุรกิจให้ทำ รายได้เดือนนึงเกือบแสนค่ะ
มีทั้งอู่ซ่อม และร้านขายของเกี่ยวกับรถ มีคนรู้จักพรรคพวกเยอะ
อัธยาศัยดีค่ะ ค้าขายเก่ง ซึ่งเธอเองก็ขยัน มีความรู้ประดับตัวเป็นพื้นฐาน
นั่นก็ต้องขอบคุณพ่อแม่ที่ส่งเสียให้เรียนดีๆ แต่สิ่งที่เธอกำลังจะบอกกับฉันคือ..
ชีวิตเธอคงแย่ถ้าสามีไม่ดี ไม่เอาไหน ไม่ทำงาน ไม่เอาลูก
ชีวิตเธอคงแย่ถ้าเธอไม่ขยันและแย่มากๆถ้าเธอไม่มีพื้นฐานความรู้ที่ดี ซึ่งมาจากพ่อแม่ส่งเสียและเลี้ยงดู
แต่สิ่งที่มันอาจจะร้ายแรง..คือเธออาจจะพลาดโอกาสที่จะเจอกับคนดีๆหลายคนในอนาคต
ใช่ค่ะ มีหัวหน้ามาจีบเธอ หน้าตา ฐานะ นิสัย ดีพร้อม
.. แต่เธอไม่เสียดายเลยเพราะทุกวันนี้ชีวิตที่เป็นอยู่มันมีความสุขพอแล้ว
เธอสามารถเก็บเงินพาแม่ไปเที่ยว อังกฤษ ตามที่แม่เคยฝันไว้ว่าอยากเที่ยวเมืองนอก
แต่ตอนนั้นแม่ต้องเก็บเงินให้ลูกเรียน.. วันนี้ลูกทำตามที่แม่ขอแล้ว
เธอมีปัญญาเลี้ยงพ่อแม่ให้อยู่สบาย ตอนนี้ลูก2แล้วค่ะ ขับเบ๊นซ์ ปลูกบ้านหลังใหญ่ พ่อแม่กินอยู่อย่างสบาย ..
มีชีวิตที่คนข้างบ้านยังต้องอิจฉา หลังจากที่เคยนินทาไว้ตอนเธอท้อง..
แม่บอกเธอว่า"วันนี้แม่ภูมิใจมากที่เราโตเป็นผู้ใหญ่ประสบการณ์มันสอนเราทุกอย่าง"
แม่รู้สึก "โชคดี..ที่มีเราเป็นลูก" ถ้าเป็นพ่อแม่บ้านอื่น อาจจะต้องทำงานหาเงินเลี้ยงทั้งลูกทั้งหลาน เผลอๆท้องมาไม่เอา ไม่เลี้ยง ให้พ่อแม่เลี้ยงให้อีก จามประสาเด็กๆ
แต่เธอ..ก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณแม่ ถ้าแม่ไม่หาเงิน ส่งให้เธอเรียนดีๆ เธอคงไม่มีความรู้ความสามารถพอที่จะทำวานตำแหน่งสูงๆได้
แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอโตขึ้นมาก มากพอที่จะเป็น"แม่"
ปล.ไม่ได้สนับสนุนหรืออะไรใดๆนะคะ ยังคิดว่าเด็กไทยก็ควรรักนวลสงวนตัวอยู่
แต่แค่นำประสบการณ์จากคนใกล้ตัวที่เคยฟังมาเล่าให้ฟังในอีกแง่มุมนึงค่ะ
บางทีที่อะไรที่มันพลาดไป..ไม่ใช่ว่ามันจะจบจะหมดหนทาง แต่เราทำมันให้ดีได้นะคะ
อีกแง่มุมนึงที่เคยได้พบได้ฟังมาจากคนที่ไม่รักนวลสงวนตัวค่ะ..
ญ.สาวผมยาว รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วน แต่ก็ไม่ผอม หน้าคม ผมทอง จมูกสวย ผิวแทนนิดๆ สวยไทยๆค่ะ
ค่อนข้างมีฐานะ มีรถขับ ค่าเทอมก็เฉียดแสน บุคลิคพี่เค้าเป็นสาวเก่ง สาวมั่น หัวสมัยใหม่ หน้าตานิ่งๆ
เรียบๆ เฉียบขาดมากค่ะ เรียนเก่งด้วย ตอนนั้นเธอเรียนมหาลัยอินเตอร์ มองภายนอกเธอดูเป็นคนเชิ่ดๆ เริ่ดๆ ซึ่งลุคของเธอมองแล้ว"ไม่น่าจะเสียน้ำตาให้ผู้ชาย"
แต่..เธอ sensitive มากกับเรื่องนี้ เธอเจอแต่ผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ เจอแต่คนไม่จริงใจ
เธอร้องไห้อย่างหนักทุกครั้งเวลาโดนทิ้ง
จนวันนึง..เธอพบกับผู้ชายคนนึงที่งานมงคล เค้าเป็นรุ่นพี่ของเจ้าของงาน เค้าชอบเธอตั้งแต่แรกพบ
เค้าถามชื่อเธอนัดเธอกินข้าว แล้วก็เริ่มคุยกัน.. ผู้ชายคนนี้แก่กว่าเธอสามปี มีธุรกิจส่วนตัว เปิดร้านเป็นของตัวเอง
มีรายได้เดือนนึง 2-3 หมื่นบาท เธอคบกับเค้า พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างรับรู้ และคอยดูอยู่ห่างๆ
เวลาผ่านไป 2 ปี เธอคนนี้กำลังจะขึ้นปี4 "เธอตั้งท้อง.. เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน"
และหลานสาวคนเล็กของตระกูล. คิดดูสิ ที่บ้านมีแต่คุณลุง พ่อมีแต่พี่น้องผู้ชายที่หวงลูกหลานขนาดไหน
สังคมคนไทยสมัยก่อน ผมทอง เล็บแดง แขนกุด ก็โดนมองตาขวางมาบ้างจากลุง
แต่เธอยังคงเป็นเธอ..จนคุณลุงทั้งหลายเริ่มปลงว่าเด็กสมัยนี้ก็แบบนี้ล่ะนะ
เธอเสียใจ เธอร้องไห้ แต่เธอยังมีสติเธอกับเขาไปขอขมาพ่อแม่ . สถานการณ์ภายในบ้านเป็นยังไง??
น่าจะพอเดากันออก.. แม่ได้แต่ร้องไห้แล้วพร่ำบอกว่า "พ่อแม่เลี้ยงมาหวงตัวลูกจะตายทำไมตัวเองถึงไม่รักตัวเอง"
แต่ในเมื่อมันพลาดมาแล้ว..ทำได้แค่ทำมันให้ดีที่สุด-เธอคิดแบบนี้
ในช่วงที่เธอท้อง เธอดรอปเรียนไปก่อน เธอเดินไปบอกอธิการว่าเธอท้อง
ขอดรอปก่อน1เทอม ซึ่งมหาลัยก็ให้เวลาเธอ .. ส่วนผู้ชายก็ทำมาหากินปกติ
ฐานะที่บ้านผู้ชายก็พอมี เค้าเป็นลูกชายคนเดียว (มีแต่พี่สาว) ได้ทำธุรกิจต่อจากแม่
ลูกสาวคนเดียวเลี้ยงอย่างดี เรียนโรงเรียนดีๆ หวังจะให้เป็นที่พึ่ง มอบแต่สิ่งดีๆให้ลูก
"เธอรู้ดีค่ะว่าพ่อแม่ผิดหวัง.."แต่ในมุมของเธอ เธอกลับคิดอีกอย่างว่า ทำไม ? ถ้าท้องตอนเรียนคนต้องมองว่าแย่มากมาย ?
โอเคค่ะ ใช่ ! ไม่รักนวลสงวนตัว แต่..ไม่ได้แปลว่าชีวิตเธอมันจะจบเดี๋ยวนั้น
ไม่ใช่ว่าท้อง ท้องแล้วไง ? เธอต้องหมดอนาคต ? เธอต้องไม่ได้เรียน ? เธอจะอับอาย เธอจะหมดหนทาง ?
เธอบอกกับแม่ของเธอ..
"ไม่ต้องอายที่หนูท้อง..ชีวิตหนูเองหนูทำให้มันดีได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ท้อง แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูทำให้อนาคตหนูดีได้แน่นอน"
เธอไม่ได้รู้สึกอาย..อย่างที่บอกค่ะ หัวคิดเธอค่อนข้างมั่น มีลูกชายขายยา กับ มีลูกสาวตั้งท้อง จะอายอันไหน
เธอไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ประเทศชาติ แต่ใช่ค่ะ..เธอทำให้พ่อแม่เสียใจและผิดหวังนั่นคือสิ่งที่แย่ที่สุดที่เธอได้ทำไป
ซึ่งเธอเองก็รู้ตัว..เธอจึงพยายามทำชีวิตต่อจากนี้ให้พ่อแม่ภูมิใจบ้าง ชีวิตเธอต้องดีกว่าคนที่ไม่ได้ท้องตอนเรียนอย่างแน่..
เรามาลองฟังชีวิตเธอหลังจากนี้กันค่ะ
ในระหว่างที่เธอตั้งท้อง เธอไปรับเสื้อผ้ามาขาย ได้กำไรเดือนละ 8-9 พัน ขายบ้างไม่ขายบ้าง
บางวันไม่ไหวก็หยุด โดยมีเพื่อนของสามีไปคอยช่วย จนเธอเก็บเงินพอค่าคลอดที่รพ.เอกชน
แต่แฟนเธอก็เป็นคนออกคชจ.หลังจากเธอคลอดลูกออกมา เธอได้ลูกชายน่าตาดีด้วยค่ะ
แม่ของฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงสลับกันเลี้ยงในช่วงที่เธอเรียน ไม่ได้เกี่ยงกันเลยนะ แย่งกันต่างหาก..
คุณตาเห่อหลาน หวงหลานยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก
เธอใช้เวลา1ปีเรียนให้จบ.. เธอบอกแม่เธอว่า
"แม่จ่ายแค่ค่าเทอมให้หนูก็พอ"
"หนูโตแล้วในเมื่อหนูเลือกที่จะมีครอบครัวแล้วแปลว่าหนูโตพอที่จะหาเลี้ยงตัวเองได้"
"แม่ไม่ต้องให้เงินกินใช้เหมือนแต่ก่อนหรอก"
ค่าเทอม1ปีที่เหลือที่จริงแฟนเธอจะจ่ายให้ แต่ทางบ้านผู้หญิงก็ไม่ยอมอยากให้เก็บไว้เลี้ยงหลาน
ในช่วงที่เธอเรียนเธอก็ขายของๆเธอไปเรื่อยค่ะ ในอินเตอร์เน็ตบ้าง ตามนัดบ้าง
จนสุดท้ายเธอรับมาขายส่งเอง เธอขายจนรู้สักคนเยอะ กิจการรุ่งเรือง
เมื่อเธอเรียนจบ เธอไปสมัครงานโรงงานใหญ่ เธอได้เป็นเลขาฯ
เธอภาษาดีค่ะ ทำงานคล่อง ทำงานเก่ง ปราดเปรียวมากตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
เราชื่นชมเธอมาก มากเธอนิ่งๆ หน้าดูเปรี้ยวๆ เธอเป็นผู้หญิงเก่งค่ะ
สุดท้ายเธอก็ได้โยกไปตำแหน่งอื่นๆ ณ ตอนนี้เงินเดือนหลายหมื่นบาท
แต่..ธุรกิจเสื้อผ้าเธอยังคงทำ เธอนำเสื้อผ้าที่ไปรับมาไว้ที่ร้านของแฟน
แล้วให้ลูกค้ามาเลือกที่นี่ โดยมีแม่สามีดูแล ก็ได้ราวๆเดือนละ 20,000 บาท
ชีวิตเธอ..มีความสุขดี ถึงแม้ เธอจะท้องก่อนเรียนจบ ถึงแม้เธอจะไม่ได้มีงานแต่งงานสวยๆหรูๆ
แต่นี่อาจะเพราะเธอโชคดี..ที่แฟนเธอค่อนข้างดี และมีพื้นฐานครอบครัวที่ดี
คุณแม่ของแฟนยกธุรกิจให้ทำ รายได้เดือนนึงเกือบแสนค่ะ
มีทั้งอู่ซ่อม และร้านขายของเกี่ยวกับรถ มีคนรู้จักพรรคพวกเยอะ
อัธยาศัยดีค่ะ ค้าขายเก่ง ซึ่งเธอเองก็ขยัน มีความรู้ประดับตัวเป็นพื้นฐาน
นั่นก็ต้องขอบคุณพ่อแม่ที่ส่งเสียให้เรียนดีๆ แต่สิ่งที่เธอกำลังจะบอกกับฉันคือ..
ชีวิตเธอคงแย่ถ้าสามีไม่ดี ไม่เอาไหน ไม่ทำงาน ไม่เอาลูก
ชีวิตเธอคงแย่ถ้าเธอไม่ขยันและแย่มากๆถ้าเธอไม่มีพื้นฐานความรู้ที่ดี ซึ่งมาจากพ่อแม่ส่งเสียและเลี้ยงดู
แต่สิ่งที่มันอาจจะร้ายแรง..คือเธออาจจะพลาดโอกาสที่จะเจอกับคนดีๆหลายคนในอนาคต
ใช่ค่ะ มีหัวหน้ามาจีบเธอ หน้าตา ฐานะ นิสัย ดีพร้อม
.. แต่เธอไม่เสียดายเลยเพราะทุกวันนี้ชีวิตที่เป็นอยู่มันมีความสุขพอแล้ว
เธอสามารถเก็บเงินพาแม่ไปเที่ยว อังกฤษ ตามที่แม่เคยฝันไว้ว่าอยากเที่ยวเมืองนอก
แต่ตอนนั้นแม่ต้องเก็บเงินให้ลูกเรียน.. วันนี้ลูกทำตามที่แม่ขอแล้ว
เธอมีปัญญาเลี้ยงพ่อแม่ให้อยู่สบาย ตอนนี้ลูก2แล้วค่ะ ขับเบ๊นซ์ ปลูกบ้านหลังใหญ่ พ่อแม่กินอยู่อย่างสบาย ..
มีชีวิตที่คนข้างบ้านยังต้องอิจฉา หลังจากที่เคยนินทาไว้ตอนเธอท้อง..
แม่บอกเธอว่า"วันนี้แม่ภูมิใจมากที่เราโตเป็นผู้ใหญ่ประสบการณ์มันสอนเราทุกอย่าง"
แม่รู้สึก "โชคดี..ที่มีเราเป็นลูก" ถ้าเป็นพ่อแม่บ้านอื่น อาจจะต้องทำงานหาเงินเลี้ยงทั้งลูกทั้งหลาน เผลอๆท้องมาไม่เอา ไม่เลี้ยง ให้พ่อแม่เลี้ยงให้อีก จามประสาเด็กๆ
แต่เธอ..ก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณแม่ ถ้าแม่ไม่หาเงิน ส่งให้เธอเรียนดีๆ เธอคงไม่มีความรู้ความสามารถพอที่จะทำวานตำแหน่งสูงๆได้
แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เธอโตขึ้นมาก มากพอที่จะเป็น"แม่"
ปล.ไม่ได้สนับสนุนหรืออะไรใดๆนะคะ ยังคิดว่าเด็กไทยก็ควรรักนวลสงวนตัวอยู่
แต่แค่นำประสบการณ์จากคนใกล้ตัวที่เคยฟังมาเล่าให้ฟังในอีกแง่มุมนึงค่ะ
บางทีที่อะไรที่มันพลาดไป..ไม่ใช่ว่ามันจะจบจะหมดหนทาง แต่เราทำมันให้ดีได้นะคะ