จากกรณี “เดลินิวส์” นำเสนอข่าวตีแผ่ความไม่โปร่งใส หลังพบกลุ่มนายทุนเข้ามาดำเนินการก่อสร้างหมู่บ้านผีใน จ.ชัยภูมิ รวม 4 แห่ง บริเวณพื้นที่เตรียมก่อสร้างเขื่อนโปร่งขุนเพชร และเขื่อนยางนาดี ใน อ.หนองบัวระเหว อ.เทพสถิต และ อ.บ้านเขว้า ภายใต้โครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและแก้ไขปัญหาอุทกภัย งบประมาณ 3.5 แสนล้าน เพื่อหวังได้รับเงินชดเชยหลังละ 1 ล้านบาท กระทั่ง ผวจ.ชัยภูมิ สั่งตรวจสอบเชิงลึก ระบุว่าจะไม่จ่ายเงินชดเชยให้และให้เจ้าหน้าที่ถอนเลขที่บ้านกว่า 600 หลังออกทันที จากนั้นได้มีคำสั่งสายฟ้าแลบให้นายอำเภอหนองบัวระเหว ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง และนายทะเบียน ที่ต้องสงสัยว่าพัวพันเรื่องดังกล่าวไปช่วยราชการไม่มีกำหนด นอกจากนี้ยังตั้งศูนย์ปราบปรามหมู่บ้านผี ซึ่งล่าสุดชอบไม่ชอบมาพากลก็ผุดขึ้นอีก เมื่อหมู่บ้านผีจุดที่ 5 โผล่ขึ้นมาอีกใน อ.หนองบัวแดง กินพื้นที่ 6 ตำบล กว่า 1,000ไร่ ในโครงการสร้างเขื่อนชีบนและเขื่อนลำสะพุง สภาพเป็นบ้านอิฐบล็อกมุงหลังคาสังกะสีไร้คนอาศัย ตามที่ได้เกาะติดสถานการณ์อย่างต่อเนื่องนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามแก้ไขปัญหาหมู่ผีบ้าน ได้สั่งการเร่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ลงพื้นที่เข้าไปเก็บรายละเอียดหลักฐานภายในหมู่บ้านผีทั้ง 5 แห่ง แบบถี่ถ้วนเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกอีก กระทั่งมีรายงานกลับมาว่าเกิดปัญหาความสับสนขึ้นอีกแล้ว เนื่องจากพบว่า รายชื่อและนามสกุลของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านผีและที่พักใกล้เคียงนั้น มีชื่อผู้ครอบครองเพียงคนเดียว รวมทั้งพักอาศัยเพียงคนเดียวด้วย ซึ่งบางหลังคาเรือนก็ปิดบ้านล็อกกุญแจหนีหายไปปล่อยให้บ้านว่างเปล่า อาทิเช่น มีบ้านจำนวน 4 -5 หลัง ที่ตรวจแล้วพบว่าเจ้าของบ้านใช้นามสกุลเดียวกันคล้ายเป็นพ่อแม่พี่น้อง แต่กลับแบ่งแยกไปครอบครองบ้านแต่ละหลังลักษณะ หนึ่งคนต่อบ้านหนึ่งหลัง โดยเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอย่างหนักว่า เป็นการรับจ้างจากพวกนายทุนให้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านเพื่อรอรับเงินชดเชยหรือไม่
แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้รายงานว่า พฤติกรรมรับจ้างเฝ้าบ้านแสดงตัวเป็นเจ้าของให้นายทุนมีมาสักพักแล้ว เช่นบางรายเป็นสามีภรรยากัน ช่วงกลางวันแยกไปเฝ้าบ้านตัวเอง แต่ตกกลางคืนกลับมานอนด้วยกันในบ้านหลังเดียว เพื่อหวังเงิน 30 เปอร์เซ็นต์ จากการได้เงินชดเชยการก่อสร้างเขื่อนโปร่งขุนเพชรของรัฐบาล ซึ่งมีทั้งที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่และคนต่างถิ่นที่ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตามาก่อน
ขณะที่ พ.ต.อ.ไอยศูรย์ สิงหนาท รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนปราบหมู่บ้านผี ได้ส่งกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบออกแฝงตัวลงพื้นที่ เพื่อหาข่าวของกลุ่มนายทุนที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการว่ามีใครบ้าง กระทั่งได้รับรายงานมาว่า กลุ่มนายทุนที่มาลงทุนมีด้วยกัน 4 กลุ่มใหญ่จาก จ.นครราชสีมา จ.ชัยนาท จ.ปราจีนบุรี และจ.สุพรรณบุรี ที่สมรู้ร่วมคิดแห่มาลงทุนให้ชาวบ้านเร่งก่อสร้างหมู่บ้านผีอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ทั้งที่จริงมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจนต้องได้เงินชดเชยแค่ 50 หลังเท่านั้น แถมยังแจ้งไม่ให้ชาวบ้านเชื่อในคำขู่ของทาง ผวจ.ชัยภูมิ ด้วยโดยอ้างลวงว่า ชาวบ้านจะได้รับเงินแน่นอน
ผู้สื่อข่าวส่วนกลางอีกหนึ่งชุดที่แยกไปหาข้อมูลรายงานว่า ข่าวการทุจริตสร้างหมู่บ้านผีที่กำลังครึกโครมอยุ่ในขณะนี้ ได้สร้างความสับสนให้กับประชาชนในจังหวัดชัยภูมิอย่างมาก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์วงกว้าง ว่าทำไมกลุ่มนายทุนถึงเข้ามาฉ้อฉลหวังฮุบเงินภาษีของประชาชนตาดำๆได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งไม่มั่นใจด้วยว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดและรัฐบาลจะสืบสวนดำเนินคดีกับขบวนการเหล่านี้ได้ แถมถ้าไม่มีการตีแผ่เรื่องนี้จะมีผู้ที่เสียผลประโยชน์อีกเท่าไร ที่สำคัญการสร้างหมู่บ้านผีจะหยุดพบลงแค่นี้หรือไม่ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าแห่งที่ 6 น่าจะถูกค้นพบขึ้นอีกแน่นอน.
ที่มา..เดลินิวส์
..................................................................................................................................................
ตามข่าวนี้มาหลายวันแล้วครับ ขอให้ฝ่ายรัฐ เอาจริง จับมาดำเนินคดีให้หมดโดยเร็วด้วยเทอญ เพราะเงินที่พวกมันจะโกง มันก็คือเงินของพวกเราทุกคนนั่นล่ะ เลวจริงๆ ยังมีคนแบบนี้อยู่ในโลกด้วยน่ะ
สุดยอดของคนหน้าด้าน หน้าหนา หน้าทน ขี้โกง
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามแก้ไขปัญหาหมู่ผีบ้าน ได้สั่งการเร่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ลงพื้นที่เข้าไปเก็บรายละเอียดหลักฐานภายในหมู่บ้านผีทั้ง 5 แห่ง แบบถี่ถ้วนเพื่อหาข้อมูลเชิงลึกอีก กระทั่งมีรายงานกลับมาว่าเกิดปัญหาความสับสนขึ้นอีกแล้ว เนื่องจากพบว่า รายชื่อและนามสกุลของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านผีและที่พักใกล้เคียงนั้น มีชื่อผู้ครอบครองเพียงคนเดียว รวมทั้งพักอาศัยเพียงคนเดียวด้วย ซึ่งบางหลังคาเรือนก็ปิดบ้านล็อกกุญแจหนีหายไปปล่อยให้บ้านว่างเปล่า อาทิเช่น มีบ้านจำนวน 4 -5 หลัง ที่ตรวจแล้วพบว่าเจ้าของบ้านใช้นามสกุลเดียวกันคล้ายเป็นพ่อแม่พี่น้อง แต่กลับแบ่งแยกไปครอบครองบ้านแต่ละหลังลักษณะ หนึ่งคนต่อบ้านหนึ่งหลัง โดยเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอย่างหนักว่า เป็นการรับจ้างจากพวกนายทุนให้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านเพื่อรอรับเงินชดเชยหรือไม่
แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้รายงานว่า พฤติกรรมรับจ้างเฝ้าบ้านแสดงตัวเป็นเจ้าของให้นายทุนมีมาสักพักแล้ว เช่นบางรายเป็นสามีภรรยากัน ช่วงกลางวันแยกไปเฝ้าบ้านตัวเอง แต่ตกกลางคืนกลับมานอนด้วยกันในบ้านหลังเดียว เพื่อหวังเงิน 30 เปอร์เซ็นต์ จากการได้เงินชดเชยการก่อสร้างเขื่อนโปร่งขุนเพชรของรัฐบาล ซึ่งมีทั้งที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่และคนต่างถิ่นที่ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตามาก่อน
ขณะที่ พ.ต.อ.ไอยศูรย์ สิงหนาท รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนปราบหมู่บ้านผี ได้ส่งกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบออกแฝงตัวลงพื้นที่ เพื่อหาข่าวของกลุ่มนายทุนที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการว่ามีใครบ้าง กระทั่งได้รับรายงานมาว่า กลุ่มนายทุนที่มาลงทุนมีด้วยกัน 4 กลุ่มใหญ่จาก จ.นครราชสีมา จ.ชัยนาท จ.ปราจีนบุรี และจ.สุพรรณบุรี ที่สมรู้ร่วมคิดแห่มาลงทุนให้ชาวบ้านเร่งก่อสร้างหมู่บ้านผีอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ทั้งที่จริงมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจนต้องได้เงินชดเชยแค่ 50 หลังเท่านั้น แถมยังแจ้งไม่ให้ชาวบ้านเชื่อในคำขู่ของทาง ผวจ.ชัยภูมิ ด้วยโดยอ้างลวงว่า ชาวบ้านจะได้รับเงินแน่นอน
ผู้สื่อข่าวส่วนกลางอีกหนึ่งชุดที่แยกไปหาข้อมูลรายงานว่า ข่าวการทุจริตสร้างหมู่บ้านผีที่กำลังครึกโครมอยุ่ในขณะนี้ ได้สร้างความสับสนให้กับประชาชนในจังหวัดชัยภูมิอย่างมาก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์วงกว้าง ว่าทำไมกลุ่มนายทุนถึงเข้ามาฉ้อฉลหวังฮุบเงินภาษีของประชาชนตาดำๆได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งไม่มั่นใจด้วยว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดและรัฐบาลจะสืบสวนดำเนินคดีกับขบวนการเหล่านี้ได้ แถมถ้าไม่มีการตีแผ่เรื่องนี้จะมีผู้ที่เสียผลประโยชน์อีกเท่าไร ที่สำคัญการสร้างหมู่บ้านผีจะหยุดพบลงแค่นี้หรือไม่ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าแห่งที่ 6 น่าจะถูกค้นพบขึ้นอีกแน่นอน.
ที่มา..เดลินิวส์
..................................................................................................................................................
ตามข่าวนี้มาหลายวันแล้วครับ ขอให้ฝ่ายรัฐ เอาจริง จับมาดำเนินคดีให้หมดโดยเร็วด้วยเทอญ เพราะเงินที่พวกมันจะโกง มันก็คือเงินของพวกเราทุกคนนั่นล่ะ เลวจริงๆ ยังมีคนแบบนี้อยู่ในโลกด้วยน่ะ