สงสัยเกี่ยวข่าวที่ลงในสื่อสีเขียว - 100 ปีวิศวฯจุฬาฯกระหึ่ม! เสวนาสร้างคนสร้างชาติกับบิ๊กซีอีโอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้เป็นวันที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครบรอบ 100 ปี ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ดังนั้น สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ แห่งจุฬาลงกรณ์จึงได้จัดงาน “100 ปี เหนือกาลเวลา วิศวฯจุฬาฯ สร้างคน คนสร้างชาติ” และจัดเสวนาเรื่อง “มองไปในอนาคตกับ ซีอีโอ วิศวฯจุฬาฯ” ขึ้น ณ หอประชุมใหญ่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างเวลา 14.30-17.00 น. โดยได้มีศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ได้มีบทบาทในการทำงานทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมการเสวนา ถึงแนวทางในอนาคตของคณะวิศวกรรมศาสตร์

สำหรับผู้ที่เข้าร่วมการเสวนาประกอบด้วย 1.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์รมว.คมนาคม 2. นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน 3. นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย 4. นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 5. นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) 6.นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 7.นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด 8.นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 9.นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเบอร์ลี่
ยุคเกอร์ จำกัด

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นายชัชชาติ กล่าวว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์มีอายุครบ 100 ปี นับว่ามีอายุใกล้เคียงกับกระทรวงคมนาคม ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าในช่วงแรกๆของการก่อตั้งกระทรวงคมนาคมนั้น กำลังหลักของวิศวกรในกระทรวง ก็มาจากวิศวะจุฬาฯ เพราะเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งแรกของประเทศไทย และเมื่อครบหนึ่งศตวรรษ ประเด็นสำคัญไม่ใช่ว่าอยู่ครบ 100 ปี แต่อยู่ที่ว่าใช้เวลา 100 ปีที่ผ่านมาได้ “คุ้มค่า” มากเพียงไร เพราะ “เวลา” คือ ทรัพย์สินที่ทุกคน ทุกประเทศ มีเหมือนกันดังนั้นความสำเร็จขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เวลาเหล่านี้ได้คุ้มค่ามากน้อยเท่าไร

อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าจะเป็นเครื่องชี้วัดให้ได้รู้ว่า เวลาที่ใช้มีประสิทธิผลมากแค่ไหน ก็โดยการมองไปประเทศรอบๆ จะเห็นได้ว่าหลายประเทศได้นำความรู้ด้านวิศวกรรมมาสร้างให้เกิดประโยชน์ในภาพรวมได้มากกว่าไทยนัก ตัวอย่างเช่น โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่ได้ผลักดันโครงการจนเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ตุลาคม ปี 2507 หรือเกือบ 49 ปีที่ผ่านมา จนในปี 2546 จีนก็เริ่มเปิดให้บริการรถไฟฟ้าความเร็วสูงสายแรกและขยายต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว สำหรับเกาหลีเปิดให้บริการเมื่อปี 2547 ต่อด้วยไต้หวันในปี 2550

“ปัจจุบัน กระทรวงคมนาคมได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงซึ่งได้ตั้งเป้าหมายที่จะเปิดให้บริการได้ในเวลาไม่เกิน 7 ปี เหตุที่ตั้งเป้าหมายเพื่อให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบุคลากรด้านวิศวกรรมหลายสาขา เชื่อว่าความรู้ความสามารถของวิศวกรไทยไม่ได้เป็นรองชาติไหนในโลก เพียงแต่อาจจะไม่มีโอกาสเหมือนกับประเทศที่พัฒนาแล้วที่ภาครัฐสนับสนุนพัฒนาเทคโนโลยีทางวิศวกรรมเต็มที่”.

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทยมาต่อเนื่อง และจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตเมื่อประเทศไทย เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 กระทรวงพลังงาน จึงได้ตระหนักถึงความพร้อม ในการพัฒนานิสิตนักศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ ไว้รองรับโดยเฉพาะด้านพลังงาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ได้อย่างเข้มแข็ง

“พลังงาน ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานพัฒนาเศรษฐกิจ หากมองโครงสร้างปัจจุบัน ทั้งด้านปิโตรเลียมและไฟฟ้า ไทยก็ถือเป็นประเทศชั้นแนวหน้าในอาเซียน ที่มีบุคลากรและองค์กร ที่มีความสามารถเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านแต่ไทยไม่สามารถหยุดพัฒนาได้ ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากเราก้าวตามไม่ทัน ก็จะทำให้ไทยตกขบวนรถไฟสายเออีซีแน่นอนในฐานะ รมว.พลังงาน จึงได้จัดตั้งสถาบันวิทยาการพลังงาน เพื่อเร่งพัฒนาหลักสูตรและอบรมให้ผู้นำทางความคิดจากองค์กรต่างๆ ให้มีความรู้ ความเข้าใจด้านพลังงาน เพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน”

นอกจากนี้ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ยังได้มีโครงการจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นการตั้งสถาบันอุดมศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีถึงปริญญาเอก และเน้นการเรียนการสอน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และโรงเรียนวิทยา– ศาสตร์ระยอง หลักสูตรมัธยมปลาย โดยคาดว่าจะเปิดการเรียนการสอนได้ในปี 58 สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์และช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญมากขึ้นในอนาคต ซึ่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ ก็พร้อมจัดส่งบุคลากรที่เชี่ยวชาญในหลักสูตรการเรียนการสอน ไปร่วมดำเนินโครงการดังกล่าวด้วย.

พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ แห่งนี้ นับว่าเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่เปิดการเรียนการสอนเป็นแห่งแรกของประเทศไทย และจนถึงปัจจุบัน ได้ผลิตบุคลากรป้อนให้กับตลาดแรงงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ในทุกสาขาอาชีพ ประมาณ 100,000 คน จึงถือได้ว่าเป็นหน่วยงานสำคัญแห่งหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการพัฒนา

สำหรับบทบาทของรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ตั้งแต่ปีที่ 101 เป็นต้นไป ขอยืนยันว่าเชื่อมั่นว่า รุ่นพี่คณะวิศวกรรมศาสตร์ทุกคนไม่เคยลืมสถาบันแห่งนี้ และพร้อมจะให้การสนับสนุนนิสิตรุ่นน้องโดยเฉพาะในด้านการพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนการสอนให้มีสาขาวิชาย่อยที่หลากหลาย ให้ทันต่อสถานการณ์ความก้าวหน้าของวิชาวิศวศาสตร์ที่พร้อมแตกแขนงออกไป ไม่มีที่สิ้นสุด ตามเทคโนโลยีของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา โดยพร้อมจะนำประสบการณ์จากการทำงานในชีวิตจริงถ่ายทอดให้รุ่นน้องฟังเพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ ที่ไม่ว่าจะทำงานในภาครัฐและเอกชน ก็อยากปลูกฝังให้นิสิตรุ่นน้องมีธรรมาภิบาลในการทำงานเป็นหลัก.

โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ

1 มิถุนายน 2556, 05:30 น.

ที่มา: http://m.thairath.co.th/content/eco/348378

------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านข่าวนี้แล้วสงสัยมากเลยครับ

ผมเข้าไปฟังมา ไม่เห็นว่า อ.ชัชชาติ มาบรรยายเลยครับ

ทางทีมข่าวไทยรัฐเอาคำพูดของ อ. มาจากไหนหรอครับ

ใครที่ไปร่วมรับฟังเสวนานี้ช่วยบอกผมที่ว่า อ.ชัชชาติ มาร่วมงานเสวนานี้ด้วยหรอครับ

หรือจะมีพลังงานลึกลับบางอย่างมาบังตาผม ทำให้ไม่สามารถเห็น อ. ได้ครับ เม่านอนไม่หลับ

ป.ล. ถ้าอ.ไม่ได้มาร่วมงานจริงๆ แล้วทางทีมข่าวเอาคำพูดของท่านมาจากไหนหรอครับ

(ว่าจะแทคห้องสมุด เรื่องสั้นด้วยนะเนี่ย หัวเราะ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่