สำหรับท่านที่ไปดูมาแล้ว ตลอด 2 ชั่วโมงแล้วรู้สึกว่าไม่อินกับหนังเลย ความรู้สึกเหมือนกำลังแก้สมการอันยุ่งเหยิงอะไรสักอย่าง
ผมพอมีคำตอบเกี่ยวกับปัญหาใหญ่ๆ ของภาพยนตร์เรื่อง NOW YOU SEE ME ซึ่งทำลายหนังเกือบทั้งหมดครับ
1. ตัวละครของมาร์ค รัฟฟาโร่ หรือนักสืบดีแลน เปรียบเสมือนสายตาบุคคลที่ 3 หรือตัวละครแทนสายตาผู้ชม ส่วนใหญ่ก็คือบทนักสืบล่ะครับ (เช่นคุณหมอวัตสัน ในเชอร์ล็อค) พยายามเฝ้ามองเหตุการณ์อย่างเป็นกลาง ว่าผู้ร้ายจะทำอะไรต่อ ควรก้าวเดินอย่างไร ยับยั้งยังไง พอหนังเฉลยว่า แท้จริงดีแลนคือคนบงการทั้งหมด ตัวละครนี้กลายเป็นบุคคลที่ 1 ทันที อย่างนี้เรียกว่าคนดูโดนตีหัวครับ การโยกมุมมองตัวละครจาก 3 เป็น 1 นี่ยากครับ ที่จะทำให้ไม่โดนตีหัวมีกรณีเดียวคือ "บุคลลสองบุคลิก" ซึ่งไม่รู้ว่าตัวเองทำ (ซึ่งทำออกมาไม่สมเหตุสมผลก็จะกลายเป็นหนังห่วยไปในทันที) ทำให้หลังหนังเฉลย คนดูจึงเกิดอาการเหวอกันเป็นแถบๆ
2. ตั้งแต่ต้นเรื่องจนเกือบท้ายเรื่อง คนดูหาตัวละครดี-ร้าย ไม่เจอครับ คือตัวละคร 10 กว่าตัวไม่รู้ว่าจะเอาใจช่วยใคร เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นตัวร้าย ใครเป็นตัวดี กว่าจะรู้ว่า ดีแลน คือคนที่ถูกเอาเปรียบ ตัวละครมอร์แกน ฟรีแมน หรือแทนเดียส คือคนเอาเปรียบ (โดยรู้เท่าไม่ถึงการ) จนดีแลนต้องมาแก้แค้นก็ถึงช่วงเฉลยในตอนจบแล้วครับ ทำให้คนดูไม่สามารถเข้าถึงตัวละครใดๆ ได้เลย ซึ่งข้อ 2 ส่งถึงข้อ 3
3. หนังขาด Motive หรือแรงจูงในต่อการกระทำครับ ตัวละครนักมายากล 4 คน ทำทุกอย่างเพื่อเข้ากลุ่ม The Eye (ซึ่งสุดท้ายคือการนั่งม้าหมุน) น้อยเกินไปที่จะทำทุกอย่างอย่างที่หนังพยายามเสนอ เมื่อหนังไม่มีตัวละครร้ายหรือดี จึงทำให้เราไม่เข้าใจแรงจูงใจของตัวละครใดๆ เช่นกัน
4. ศูนย์กลางของหนังคือปมเรื่องพ่อของดีแลนด์ที่จมน้ำหายไป แต่ปมนี้ล้วนถูกแสดงผ่านไดอาล็อกคำพูดทั้งสิ้น ทำให้ผู้ชมไม่รู้ว่ามันสำคัญเพียงใด มีความหมายเพียงใด เหมือนได้ยินคนเขาเล่ามาอีกที แก่นนี้จึงพร่าจางมากๆ จนไม่สามารถจับต้องได้
ใครมีความเห็นอื่นๆ หรือติชมเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างไรก็ขอขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้ครับผม
ปัญหาของ NOW YOU SEE ME [SPOILER ALERT]
ผมพอมีคำตอบเกี่ยวกับปัญหาใหญ่ๆ ของภาพยนตร์เรื่อง NOW YOU SEE ME ซึ่งทำลายหนังเกือบทั้งหมดครับ
1. ตัวละครของมาร์ค รัฟฟาโร่ หรือนักสืบดีแลน เปรียบเสมือนสายตาบุคคลที่ 3 หรือตัวละครแทนสายตาผู้ชม ส่วนใหญ่ก็คือบทนักสืบล่ะครับ (เช่นคุณหมอวัตสัน ในเชอร์ล็อค) พยายามเฝ้ามองเหตุการณ์อย่างเป็นกลาง ว่าผู้ร้ายจะทำอะไรต่อ ควรก้าวเดินอย่างไร ยับยั้งยังไง พอหนังเฉลยว่า แท้จริงดีแลนคือคนบงการทั้งหมด ตัวละครนี้กลายเป็นบุคคลที่ 1 ทันที อย่างนี้เรียกว่าคนดูโดนตีหัวครับ การโยกมุมมองตัวละครจาก 3 เป็น 1 นี่ยากครับ ที่จะทำให้ไม่โดนตีหัวมีกรณีเดียวคือ "บุคลลสองบุคลิก" ซึ่งไม่รู้ว่าตัวเองทำ (ซึ่งทำออกมาไม่สมเหตุสมผลก็จะกลายเป็นหนังห่วยไปในทันที) ทำให้หลังหนังเฉลย คนดูจึงเกิดอาการเหวอกันเป็นแถบๆ
2. ตั้งแต่ต้นเรื่องจนเกือบท้ายเรื่อง คนดูหาตัวละครดี-ร้าย ไม่เจอครับ คือตัวละคร 10 กว่าตัวไม่รู้ว่าจะเอาใจช่วยใคร เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นตัวร้าย ใครเป็นตัวดี กว่าจะรู้ว่า ดีแลน คือคนที่ถูกเอาเปรียบ ตัวละครมอร์แกน ฟรีแมน หรือแทนเดียส คือคนเอาเปรียบ (โดยรู้เท่าไม่ถึงการ) จนดีแลนต้องมาแก้แค้นก็ถึงช่วงเฉลยในตอนจบแล้วครับ ทำให้คนดูไม่สามารถเข้าถึงตัวละครใดๆ ได้เลย ซึ่งข้อ 2 ส่งถึงข้อ 3
3. หนังขาด Motive หรือแรงจูงในต่อการกระทำครับ ตัวละครนักมายากล 4 คน ทำทุกอย่างเพื่อเข้ากลุ่ม The Eye (ซึ่งสุดท้ายคือการนั่งม้าหมุน) น้อยเกินไปที่จะทำทุกอย่างอย่างที่หนังพยายามเสนอ เมื่อหนังไม่มีตัวละครร้ายหรือดี จึงทำให้เราไม่เข้าใจแรงจูงใจของตัวละครใดๆ เช่นกัน
4. ศูนย์กลางของหนังคือปมเรื่องพ่อของดีแลนด์ที่จมน้ำหายไป แต่ปมนี้ล้วนถูกแสดงผ่านไดอาล็อกคำพูดทั้งสิ้น ทำให้ผู้ชมไม่รู้ว่ามันสำคัญเพียงใด มีความหมายเพียงใด เหมือนได้ยินคนเขาเล่ามาอีกที แก่นนี้จึงพร่าจางมากๆ จนไม่สามารถจับต้องได้
ใครมีความเห็นอื่นๆ หรือติชมเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างไรก็ขอขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้ครับผม