ปชป.ได้ที กะซวก รัฐ-ศธ.ขยายผล ส่อ ทุจริตโกงงบฯจัดซื้อโครงการรถตู้โรงเรียน
เย้ย 3 รมต.แจงโกหกงบจัดซื้อ ไม่ตรงกัน อัด เอื้อประโยชน์เอกชน พ่วงล็อกสเปก
ขายถังแก๊ส
วันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์
ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์
แถลงถึงกรณีข้อพิรุธในการจัดซื้อรถตู้ให้โรงเรียนที่จะถูกยุบควบรวมตาม
นโยบายของนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการว่า
เรื่องนี้ รัฐมนตรีผิดซ้ำซาก พอถูกจับได้กลางสภา ก็แก้ตัวน้ำขุ่นๆ แต่รัฐมนตรี
ทั้ง 3 คนที่ออกมาชี้แจง กลับพูดไม่ตรงกันไปกันคนละทาง เพราะกระทรวงศึกษาฯ บอกว่า
การซื้อรถตู้นี้จะใช้ราคากลางตามสำนักงบประมาณกำหนด ที่คันละ 1,232,400 บาท
แต่นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับชี้แจงว่า ราคาที่พิมพ์ผิด
เพราะจะซื้อรถตู้รวม 2,000 คันไม่ใช่ 1,000 คัน ตามที่อภิปรายในสภา
ซึ่งหากคำนวณถัวเฉลี่ยจะอยู่ที่คันละ 1,171,862 บาท ซึ่งก็มีราคาต่ำกว่าราคากลาง
60,538 บาท จึงเป็นข้อพิรุธ และผิดซ้ำซากในเรื่องราคากลาง เพราะราคาขายรถตู้
ประเภท 12 ที่นั่ง ในท้องตลาดอยู่ที่ 956,000 บาท จึงสงสัยว่า ทำไมต้องซื้อ
รถตู้ 12 ที่นั่ง (ดีเซล) แต่ไปอ้างราคาของรถตู้ 16 ที่นั่ง
ซึ่งไม่ว่าจะมีการแก้ตัวเลขราคากลางอย่างไร ก็เอื้อการทุจริตอยู่ดี
เพราะราคาซื้อสูงกว่าราคากลางจริงมากถึง 276,000 บาทต่อคัน
จึงเรียกร้องให้มีการจัดการหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะเชื่อว่า
ไม่ใช่แค่การพิมพ์ผิดทางเอกสาร แต่มีเจตนาทุจริต
นายจุฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ นายพงศ์เทพ เคยให้สัมภาษณ์ว่าต้องซื้อรถตู้ 1 พันคัน
หากมีการยุบควบโรงเรียนขนาดเล็ก จึงกลายเป็นว่า มีการล็อกสเปกรถตู้ให้เป็น
รถ 12 ที่นั่ง แต่ตั้งราคาซื้อเท่ารถตู้ 16 ที่นั่ง และทราบว่า
มีการล็อกสเปกให้ซื้อรถตู้ 12 ที่นั่ง และหากจะอ้างว่า
ที่ตั้งราคาซื้อแพงเพราะต้องตกแต่งพิเศษอีก ก็ฟังไม่ขึ้น
เพราะราคาที่ตนใช้อภิปรายนั้นรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
และเป็นรถที่ติดเครื่องปรับอากาศแล้ว พร้อมต้องมีเซฟตี้เบลทุกที่นั่ง
และมีประตูเปิดแบบสไลด์ข้างอยู่แล้ว ไม่ต้องสั่งผลิตพิเศษ
ที่จะทำให้ราคาแพงขึ้นตามที่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ
ตอบแบบขอไปทีในสภา เชื่อว่า ที่สุดแล้วโครงการนี้
ตั้งใจทุจริตแต่พอจับได้ก็โทษเจ้าหน้าที่ว่า พิมพ์ผิด ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม
รัฐมนตรี ใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมง และให้พักการประชุมสภา
แต่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ ตัวเลขราคารถตู้ก็เป็นราคาที่ผู้ค้าตั้งให้
ที่สุดจึงมีการใช้วิธีให้ประธานสภาข้ามประเด็นนี้ไปและค่อยว่า
ในชั้นกรรมาธิการงบประมาณซึ่งมีเสียงของ
รัฐบาลมากกว่าทำให้ตรวจสอบยากและในชั้นกรรมาธิการไม่มีการถ่ายทอดสด
การตรวจสอบก็ลำบากขึ้น
นายจุฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ในวงการรถยนต์มีข่าวว่าจะมีการโละรถตู้ 12
ที่นั่งลอตใหญ่เพราะตลาดไม่ใช้แล้ว จึงต้องการระบายของและทราบมาว่า
มีความพยายามจะใส่สเปกภายหลังโดยจะกำหนดให้ รถตู้ดีเซล 12 ที่นั่งนี้ ต้องติดแก๊ส
โดยอ้างว่า ทำตามนโยบายประหยัดพลังงานของรัฐบาล ซึ่งมีบริษัทใหญ่ๆ
ที่มีรถลอตใหญ่พร้อม ติดตั้งแก๊สไม่กี่เจ้า และเป็นการทำกำไรสองสามต่อ
โดยการขายถังแก๊สพ่วงไปด้วย จึงเชื่อว่า โรงเรียนต่างจังหวัด ที่จะถูกยุบนั้น
ไม่มีปั๊มแก๊สเติมแน่ แต่มีการล็อกสเปกให้บางเจ้า เพื่อเป็นข้ออ้างว่า
ต้องเพิ่มราคาอีก 3-4 แสนบาท ตามที่ล็อกสเปกกันใช่หรือไม่
ถามว่า กระทรวงศึกษาฯ จะรับผิดชอบอย่างไร หากมีเด็กเสียชีวิตจาก
ระบบแก๊สรถมีปัญหา และแก้ไขปัญหายุบรวมโรงเรียนโดยซื้อรถตู้ให้
กระทรวงศธ.ได้ตั้งอัตราจ้างคนขับรถหรือยัง ค่าน้ำมันรถได้ตั้งงบฯไว้หรือยัง
หรือหากต้องให้ครู หรือคนในโรงเรียนเล็กที่ถูกยุบมาขับรถตู้นักเรียนนี้
ยืนยันว่า พรรคจะดำเนินการตามขั้นตอนกรรมาธิการไปก่อน แต่ข้อมูลหลักฐานขณะนี้ก็
ถือว่า ส่อทุจริตชัดเจนซึ่งก็ต้องติดตามเรื่องนี้ต่อไป
“ณัฏฐ์” บี้ “เสริมศักดิ์”แจงข้อมูลใหม่ซื้อให้รร.ดีศรีตำบล
ด้าน นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การชี้แจงของ
นายเสริมศักดิ์ ขัดแย้งกับการชี้แจงของ นายพงศ์เทพ
ในเรื่องการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก เพราะ นายพงศ์เทพ ชี้แจงว่า
ซื้อรถตู้เพราะมีการควบรวมโรงเรียนเล็ก แต่นายเสริมศักดิ์ กลับชี้แจงว่า ซื้อรถตู้
ให้โครงการโรงเรียนดีศรีตำบล จึงขอเรียกร้อง นายเสริมศักดิ์
เปิดเผยรายละเอียดของโครงการโรงเรียนดีศรีตำบลมาเปิดเผยในเร็ววัน
เพราะโครงการนี้เป็นการต่อยอดจากโครงการโรงเรียนดีประจำตำบลของรัฐบาลประชาธิปัตย์
ซึ่งตามแผนงานงบประมาณจะไม่มีการตั้งงบไว้เพื่อจัดซื้อซื้อครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างใดๆ
แต่เป็นเรื่องการกำหนดหลักสูตรเท่านั้น การที่นายเสริมศักดิ์
ชี้แจงในสภาก็เป็นการขายผ้าเอาหน้ารอดจากสถานการณ์ถูกจับโกหกเรื่องงบประมาณ
ที่ส่อทุจริตของกระทรวงเท่านั้น พอแผนแตกก็โบ้ยว่า พิมพ์ผิด
http://www.thairath.co.th/content/pol/348266
อะไรที่ไม่โปร่งใส ก็ต้องเจอแบบนี้ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบให้สมศักดิ์ศรี...
ดีกว่า นั่งจับผิด กระแนะกระแหน นายกฯ .....งานนี้ ปชป. รับคะแนนไป...
หมั่นทำแต้มสะสมไปเรื่อย ๆ ถ้ารัฐบาลไม่แก้ไข ... โอกาศแพ้ ก็ใช่ว่าจะไม่มี
เพราะ มันพิสูจน์ได้จากข้อเท็จจริง เจอฝ่ายค้านมือาชีพเข้า ก็ต้องม้วนเสื่อ
รับทราบกันไว้ด้วย เขาไม่ได้สักแต่จะเชียร์ 
ปชป.ได้ที กะซวก รัฐ-ศธ.ขยายผล ส่อโกงงบ จัดซื้อรถตู้โรงเรียน ....ข่าวไทยรัฐออนไลน์
เย้ย 3 รมต.แจงโกหกงบจัดซื้อ ไม่ตรงกัน อัด เอื้อประโยชน์เอกชน พ่วงล็อกสเปก
ขายถังแก๊ส
วันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์
ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์
แถลงถึงกรณีข้อพิรุธในการจัดซื้อรถตู้ให้โรงเรียนที่จะถูกยุบควบรวมตาม
นโยบายของนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการว่า
เรื่องนี้ รัฐมนตรีผิดซ้ำซาก พอถูกจับได้กลางสภา ก็แก้ตัวน้ำขุ่นๆ แต่รัฐมนตรี
ทั้ง 3 คนที่ออกมาชี้แจง กลับพูดไม่ตรงกันไปกันคนละทาง เพราะกระทรวงศึกษาฯ บอกว่า
การซื้อรถตู้นี้จะใช้ราคากลางตามสำนักงบประมาณกำหนด ที่คันละ 1,232,400 บาท
แต่นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับชี้แจงว่า ราคาที่พิมพ์ผิด
เพราะจะซื้อรถตู้รวม 2,000 คันไม่ใช่ 1,000 คัน ตามที่อภิปรายในสภา
ซึ่งหากคำนวณถัวเฉลี่ยจะอยู่ที่คันละ 1,171,862 บาท ซึ่งก็มีราคาต่ำกว่าราคากลาง
60,538 บาท จึงเป็นข้อพิรุธ และผิดซ้ำซากในเรื่องราคากลาง เพราะราคาขายรถตู้
ประเภท 12 ที่นั่ง ในท้องตลาดอยู่ที่ 956,000 บาท จึงสงสัยว่า ทำไมต้องซื้อ
รถตู้ 12 ที่นั่ง (ดีเซล) แต่ไปอ้างราคาของรถตู้ 16 ที่นั่ง
ซึ่งไม่ว่าจะมีการแก้ตัวเลขราคากลางอย่างไร ก็เอื้อการทุจริตอยู่ดี
เพราะราคาซื้อสูงกว่าราคากลางจริงมากถึง 276,000 บาทต่อคัน
จึงเรียกร้องให้มีการจัดการหาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะเชื่อว่า
ไม่ใช่แค่การพิมพ์ผิดทางเอกสาร แต่มีเจตนาทุจริต
นายจุฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ นายพงศ์เทพ เคยให้สัมภาษณ์ว่าต้องซื้อรถตู้ 1 พันคัน
หากมีการยุบควบโรงเรียนขนาดเล็ก จึงกลายเป็นว่า มีการล็อกสเปกรถตู้ให้เป็น
รถ 12 ที่นั่ง แต่ตั้งราคาซื้อเท่ารถตู้ 16 ที่นั่ง และทราบว่า
มีการล็อกสเปกให้ซื้อรถตู้ 12 ที่นั่ง และหากจะอ้างว่า
ที่ตั้งราคาซื้อแพงเพราะต้องตกแต่งพิเศษอีก ก็ฟังไม่ขึ้น
เพราะราคาที่ตนใช้อภิปรายนั้นรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
และเป็นรถที่ติดเครื่องปรับอากาศแล้ว พร้อมต้องมีเซฟตี้เบลทุกที่นั่ง
และมีประตูเปิดแบบสไลด์ข้างอยู่แล้ว ไม่ต้องสั่งผลิตพิเศษ
ที่จะทำให้ราคาแพงขึ้นตามที่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ
ตอบแบบขอไปทีในสภา เชื่อว่า ที่สุดแล้วโครงการนี้
ตั้งใจทุจริตแต่พอจับได้ก็โทษเจ้าหน้าที่ว่า พิมพ์ผิด ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม
รัฐมนตรี ใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมง และให้พักการประชุมสภา
แต่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ ตัวเลขราคารถตู้ก็เป็นราคาที่ผู้ค้าตั้งให้
ที่สุดจึงมีการใช้วิธีให้ประธานสภาข้ามประเด็นนี้ไปและค่อยว่า
ในชั้นกรรมาธิการงบประมาณซึ่งมีเสียงของ
รัฐบาลมากกว่าทำให้ตรวจสอบยากและในชั้นกรรมาธิการไม่มีการถ่ายทอดสด
การตรวจสอบก็ลำบากขึ้น
นายจุฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ในวงการรถยนต์มีข่าวว่าจะมีการโละรถตู้ 12
ที่นั่งลอตใหญ่เพราะตลาดไม่ใช้แล้ว จึงต้องการระบายของและทราบมาว่า
มีความพยายามจะใส่สเปกภายหลังโดยจะกำหนดให้ รถตู้ดีเซล 12 ที่นั่งนี้ ต้องติดแก๊ส
โดยอ้างว่า ทำตามนโยบายประหยัดพลังงานของรัฐบาล ซึ่งมีบริษัทใหญ่ๆ
ที่มีรถลอตใหญ่พร้อม ติดตั้งแก๊สไม่กี่เจ้า และเป็นการทำกำไรสองสามต่อ
โดยการขายถังแก๊สพ่วงไปด้วย จึงเชื่อว่า โรงเรียนต่างจังหวัด ที่จะถูกยุบนั้น
ไม่มีปั๊มแก๊สเติมแน่ แต่มีการล็อกสเปกให้บางเจ้า เพื่อเป็นข้ออ้างว่า
ต้องเพิ่มราคาอีก 3-4 แสนบาท ตามที่ล็อกสเปกกันใช่หรือไม่
ถามว่า กระทรวงศึกษาฯ จะรับผิดชอบอย่างไร หากมีเด็กเสียชีวิตจาก
ระบบแก๊สรถมีปัญหา และแก้ไขปัญหายุบรวมโรงเรียนโดยซื้อรถตู้ให้
กระทรวงศธ.ได้ตั้งอัตราจ้างคนขับรถหรือยัง ค่าน้ำมันรถได้ตั้งงบฯไว้หรือยัง
หรือหากต้องให้ครู หรือคนในโรงเรียนเล็กที่ถูกยุบมาขับรถตู้นักเรียนนี้
ยืนยันว่า พรรคจะดำเนินการตามขั้นตอนกรรมาธิการไปก่อน แต่ข้อมูลหลักฐานขณะนี้ก็
ถือว่า ส่อทุจริตชัดเจนซึ่งก็ต้องติดตามเรื่องนี้ต่อไป
“ณัฏฐ์” บี้ “เสริมศักดิ์”แจงข้อมูลใหม่ซื้อให้รร.ดีศรีตำบล
ด้าน นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การชี้แจงของ
นายเสริมศักดิ์ ขัดแย้งกับการชี้แจงของ นายพงศ์เทพ
ในเรื่องการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก เพราะ นายพงศ์เทพ ชี้แจงว่า
ซื้อรถตู้เพราะมีการควบรวมโรงเรียนเล็ก แต่นายเสริมศักดิ์ กลับชี้แจงว่า ซื้อรถตู้
ให้โครงการโรงเรียนดีศรีตำบล จึงขอเรียกร้อง นายเสริมศักดิ์
เปิดเผยรายละเอียดของโครงการโรงเรียนดีศรีตำบลมาเปิดเผยในเร็ววัน
เพราะโครงการนี้เป็นการต่อยอดจากโครงการโรงเรียนดีประจำตำบลของรัฐบาลประชาธิปัตย์
ซึ่งตามแผนงานงบประมาณจะไม่มีการตั้งงบไว้เพื่อจัดซื้อซื้อครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างใดๆ
แต่เป็นเรื่องการกำหนดหลักสูตรเท่านั้น การที่นายเสริมศักดิ์
ชี้แจงในสภาก็เป็นการขายผ้าเอาหน้ารอดจากสถานการณ์ถูกจับโกหกเรื่องงบประมาณ
ที่ส่อทุจริตของกระทรวงเท่านั้น พอแผนแตกก็โบ้ยว่า พิมพ์ผิด
http://www.thairath.co.th/content/pol/348266
อะไรที่ไม่โปร่งใส ก็ต้องเจอแบบนี้ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบให้สมศักดิ์ศรี...
ดีกว่า นั่งจับผิด กระแนะกระแหน นายกฯ .....งานนี้ ปชป. รับคะแนนไป...
หมั่นทำแต้มสะสมไปเรื่อย ๆ ถ้ารัฐบาลไม่แก้ไข ... โอกาศแพ้ ก็ใช่ว่าจะไม่มี
เพราะ มันพิสูจน์ได้จากข้อเท็จจริง เจอฝ่ายค้านมือาชีพเข้า ก็ต้องม้วนเสื่อ
รับทราบกันไว้ด้วย เขาไม่ได้สักแต่จะเชียร์