หลังจากเล่นได้เหนือชั้นมาตลอด 2 ปี คราวนี้ บาเยิร์นจัดการเขี่ยดอร์ทมุนด์ลงจากเส้นทางอย่างชัดเจน อย่งไรก็ตาม ความประสงค์ของดอร์ทมุนด์ในการเป็นประภาคารที่สองของลูกหนังเยอรมัน ได้ปักหลักแน่หนามั่นคงต่อไป ทั้งในระดับนานาชาติด้วย ที่มาจากการเปลี่ยนแปลงที่ดอร์ทมุนด์
“ผลการแข่งขันนี้ออกมาแบบนี้ ทำให้รู้สึกแย่เล็กๆ” ฮันซ์-โยอัคคิม วัทซ์เค่ กรรมการผู้จัดการดอร์ทมุนด์ กล่าวหลังปาร์ตี้หลังเกมในช่วงเข้าวันอาทิตย์ที่นอนดอน ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง สโมสรเขาพลาดโอกาสในการเอามีดเสียบเข้าหัวใจบาเยิร์นในนัดชิงชปล.
เกมที่เวมบลีย์ต่างไป และตรงกันข้ามกันเลย หลังจากที่ดอร์ทมุนด์ทำได้เหนือกว่าสองปี คู่แข่งจากเยอรมันปราพยศทีมได้สำเร็จ
หลังจบซีซั่น 2012/13 ในบุนเดสลีกา เสือใต้ทำด้เหนือกว่าเสือเหลืองอย่างเด่นชัด แต่เกมที่เวลบลีย์ ดอร์ทมุนด์เข้าใกล้การฝ่าด่าน เอาชนะบาเยิร์น ผู้ที่ทำได้โดดเด่นเหมือนแพ้ใครไม่เป็น
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เสือใต้แซงทีมเสือเหลืองอย่างไม่เห็นฝุ่นในเกมลูกหนัง เมื่อรวมเกมที่เวมบลีย์ด้วยนั้น เกมอย่งเป็นทางการ 5 นัดในซีซั่นนี้ ดอร์ทมุนด์ยังไม่สามารถเอาชนะบาเยิร์นได้เลย หลังจาก 2 ปีก่อน เอาชนะเสือใต้ได้ 5 นัดรวด
การแข่งขันใน 3 รายการ (ซุปเปอร์คัพ, เดเอฟเบ โพคาล, ชปล.) ที่ดอร์ทมุนด์ไปไม่ถึงแชมป์ การป้องกันแชมป์บุนเดสลีกา เจอกับความคงเส้นคงวาของบาเยิร์น และ ความประมาทของดอร์ทมุนด์ ทำให้หมดลุ้นไปตั้งแต่หัววัน
แม้นว่า ยามเมื่อเทียบกับบาเยิร์นนั้น เสือเหลืองชอบบอกว่า ตนเองเป็นทีมรองบ่อน และจริงๆ แล้วก็ไม่ผิดอะไร ผลที่ตามมาตรงนี้ทำให้เกิดข้อเสียเปรียบ ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของ 2 สโมสรแย่ลงไปกว่าเดิม ที่อย่างไรก็ตาม พัมนาการลูกหนังในช่วงปีท้ายๆ ที่ผ่านมา มีส่วนด้วยน้อย
เรื่องวุ่นๆ ในการย้ายสังกัดของมาริโอ เกิทเซ่ แถมด้วยเรื่องของ โรเบิร์ต เลวานนอฟสกี้ ที่ตามมาติดๆ ที่สร้างความปั่นป่วนที่ดอร์ทมุนด์เป็นอย่างมาก สถานการณ์ตึงเครียดที่ไม่รู้ว่าจะเบาบางลงไปได้เมื่อไหร่
ในการนี้ การคืนชีพในการขับเคีย่ยวจากทศวรรษ 1990 ได้กลับมาอีกครั้ง จากผลงานการแข่งขันสามปีท้าย ทำให้ดอร์ทมุนด์ปักหลักเป็นประภาคารลูกหนังแห่งที่สองของเยอรมันได้อย่างเหนียวแน่น บาเยิร์นอยากได้นักเตะดอร์ทมุนด์ เพราะ พวกเขาเล่นได้ดี และเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้บาเยิร์นได้อย่างแท้จริง มันเป็นเรื่องที่น่าโมโหและเป็นเกียรติสำหรับดอร์ทมุนด์ในขณะเดียวกัน
การที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทั้งสองทีมขับเคียวกันเพื่อการเป็นเจ้าสโมสรยุโรป ไม่เพียงยืนยันควาเข้มข้นในการแข่งขันเท่านั้น หลังจากที่ไปได้แย่ในเวทียุโรปปีกลาย คราวนี้ ดอร์ทมุนด์สร้างชื่อได้เป็นอย่างดี
ในซีซั่นใหม่ ช่วงเวลาอันงดงามตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาด้วไฮไลท์การเข้าชิงชปล. คงจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในสโมสร
ดอร์ทุนด์ต้องการยืนยันความรู้สึกที่แฟนๆ มอบให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การมีมิติทางการเงินที่ดีกว่าเดิมเยอะที่สามารถการันตีความสำเร็จในเกมลูกหนังที่มากขึ้นได้ในอนาคต
“ท้ายที่สุด เราขาดคนเก่งไป 2-3 คน” กัปตันทีม เซบาสเตียน เคลห์ กล่าวยอมรับ หลังเกมพ่ายแพ้ที่เวมบลีย์ในช่วงท้ายเกม เทรนเนอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ออกมาประกาศว่า จะมีผู้เล่นใหม่เข้ามา 2-3 ราย ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของเสือเหลือง เพื่อให้แน่ใจว่าในอนาคตมีขนาดทีมในทางกว้าง และเปิดโอกาสให้โรเตชั่นได้อย่างเหมาะสม ขณะที่คณภาพและผลการแข่งขันไม่ด้อยลงไป ที่เรื่องนี้บาเยิร์นเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในซีซั่นนี้
แถมด้วยหลังการย้ายไปของ นูริ ซาฮิม และ ชินจิ คากาวะ ในที่สุดซีซั่นที่จะถึง ดอร์ทมุนด์ต้องปรับเกมอีกหนในการย้ายออกไปของเกิทเซ่
วางใจได้ว่า ดอร์ทมุนด์คงจะมีมาตรการที่นำไปสู่ความสำเร็จได้ แต่มีงานที่ต้องทำอีกเยอะ ต้องมีกำหนดเวลาที่จำเป็นกันใหม่ ที่เวมบลีย์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คล็อปป์มองไปที่เบอร์ลินมากกว่าลิสบอน ในเกมชิงชนะเลิศชปล.อีกครั้ง
“เราจะนำเสนอทีมในซีซั่นหน้า ให้สามารถสู้ได้ทุกทิศ มีความมุ่งมั่น และเป็นทีมที่ดี” วัทซ์เค่กล่าวที่กรุงลอนดอน ที่มันไม่ใช่คำถ่อมตัวอย่างแน่นอน
2015 เกมชิงชนะเลิศชปล.ที่เบอร์ลิน คือเป้าหมายของดอร์ทมุนด์ ด้วยการใช้โมเดลบาเยิร์น
credit : นสพ.สตาร์ซอคเกอร์ โดย ช่อคูณ
[บทความสโมสรเยอรมัน 2013-05-31] บทเรียนของผู้แพ้ & อนาคตของสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
“ผลการแข่งขันนี้ออกมาแบบนี้ ทำให้รู้สึกแย่เล็กๆ” ฮันซ์-โยอัคคิม วัทซ์เค่ กรรมการผู้จัดการดอร์ทมุนด์ กล่าวหลังปาร์ตี้หลังเกมในช่วงเข้าวันอาทิตย์ที่นอนดอน ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง สโมสรเขาพลาดโอกาสในการเอามีดเสียบเข้าหัวใจบาเยิร์นในนัดชิงชปล.
เกมที่เวมบลีย์ต่างไป และตรงกันข้ามกันเลย หลังจากที่ดอร์ทมุนด์ทำได้เหนือกว่าสองปี คู่แข่งจากเยอรมันปราพยศทีมได้สำเร็จ
หลังจบซีซั่น 2012/13 ในบุนเดสลีกา เสือใต้ทำด้เหนือกว่าเสือเหลืองอย่างเด่นชัด แต่เกมที่เวลบลีย์ ดอร์ทมุนด์เข้าใกล้การฝ่าด่าน เอาชนะบาเยิร์น ผู้ที่ทำได้โดดเด่นเหมือนแพ้ใครไม่เป็น
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เสือใต้แซงทีมเสือเหลืองอย่างไม่เห็นฝุ่นในเกมลูกหนัง เมื่อรวมเกมที่เวมบลีย์ด้วยนั้น เกมอย่งเป็นทางการ 5 นัดในซีซั่นนี้ ดอร์ทมุนด์ยังไม่สามารถเอาชนะบาเยิร์นได้เลย หลังจาก 2 ปีก่อน เอาชนะเสือใต้ได้ 5 นัดรวด
การแข่งขันใน 3 รายการ (ซุปเปอร์คัพ, เดเอฟเบ โพคาล, ชปล.) ที่ดอร์ทมุนด์ไปไม่ถึงแชมป์ การป้องกันแชมป์บุนเดสลีกา เจอกับความคงเส้นคงวาของบาเยิร์น และ ความประมาทของดอร์ทมุนด์ ทำให้หมดลุ้นไปตั้งแต่หัววัน
แม้นว่า ยามเมื่อเทียบกับบาเยิร์นนั้น เสือเหลืองชอบบอกว่า ตนเองเป็นทีมรองบ่อน และจริงๆ แล้วก็ไม่ผิดอะไร ผลที่ตามมาตรงนี้ทำให้เกิดข้อเสียเปรียบ ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของ 2 สโมสรแย่ลงไปกว่าเดิม ที่อย่างไรก็ตาม พัมนาการลูกหนังในช่วงปีท้ายๆ ที่ผ่านมา มีส่วนด้วยน้อย
เรื่องวุ่นๆ ในการย้ายสังกัดของมาริโอ เกิทเซ่ แถมด้วยเรื่องของ โรเบิร์ต เลวานนอฟสกี้ ที่ตามมาติดๆ ที่สร้างความปั่นป่วนที่ดอร์ทมุนด์เป็นอย่างมาก สถานการณ์ตึงเครียดที่ไม่รู้ว่าจะเบาบางลงไปได้เมื่อไหร่
ในการนี้ การคืนชีพในการขับเคีย่ยวจากทศวรรษ 1990 ได้กลับมาอีกครั้ง จากผลงานการแข่งขันสามปีท้าย ทำให้ดอร์ทมุนด์ปักหลักเป็นประภาคารลูกหนังแห่งที่สองของเยอรมันได้อย่างเหนียวแน่น บาเยิร์นอยากได้นักเตะดอร์ทมุนด์ เพราะ พวกเขาเล่นได้ดี และเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้บาเยิร์นได้อย่างแท้จริง มันเป็นเรื่องที่น่าโมโหและเป็นเกียรติสำหรับดอร์ทมุนด์ในขณะเดียวกัน
การที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทั้งสองทีมขับเคียวกันเพื่อการเป็นเจ้าสโมสรยุโรป ไม่เพียงยืนยันควาเข้มข้นในการแข่งขันเท่านั้น หลังจากที่ไปได้แย่ในเวทียุโรปปีกลาย คราวนี้ ดอร์ทมุนด์สร้างชื่อได้เป็นอย่างดี
ในซีซั่นใหม่ ช่วงเวลาอันงดงามตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาด้วไฮไลท์การเข้าชิงชปล. คงจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในสโมสร
ดอร์ทุนด์ต้องการยืนยันความรู้สึกที่แฟนๆ มอบให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การมีมิติทางการเงินที่ดีกว่าเดิมเยอะที่สามารถการันตีความสำเร็จในเกมลูกหนังที่มากขึ้นได้ในอนาคต
“ท้ายที่สุด เราขาดคนเก่งไป 2-3 คน” กัปตันทีม เซบาสเตียน เคลห์ กล่าวยอมรับ หลังเกมพ่ายแพ้ที่เวมบลีย์ในช่วงท้ายเกม เทรนเนอร์ เจอร์เก้น คล็อปป์ ออกมาประกาศว่า จะมีผู้เล่นใหม่เข้ามา 2-3 ราย ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าของเสือเหลือง เพื่อให้แน่ใจว่าในอนาคตมีขนาดทีมในทางกว้าง และเปิดโอกาสให้โรเตชั่นได้อย่างเหมาะสม ขณะที่คณภาพและผลการแข่งขันไม่ด้อยลงไป ที่เรื่องนี้บาเยิร์นเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในซีซั่นนี้
แถมด้วยหลังการย้ายไปของ นูริ ซาฮิม และ ชินจิ คากาวะ ในที่สุดซีซั่นที่จะถึง ดอร์ทมุนด์ต้องปรับเกมอีกหนในการย้ายออกไปของเกิทเซ่
วางใจได้ว่า ดอร์ทมุนด์คงจะมีมาตรการที่นำไปสู่ความสำเร็จได้ แต่มีงานที่ต้องทำอีกเยอะ ต้องมีกำหนดเวลาที่จำเป็นกันใหม่ ที่เวมบลีย์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คล็อปป์มองไปที่เบอร์ลินมากกว่าลิสบอน ในเกมชิงชนะเลิศชปล.อีกครั้ง
“เราจะนำเสนอทีมในซีซั่นหน้า ให้สามารถสู้ได้ทุกทิศ มีความมุ่งมั่น และเป็นทีมที่ดี” วัทซ์เค่กล่าวที่กรุงลอนดอน ที่มันไม่ใช่คำถ่อมตัวอย่างแน่นอน
2015 เกมชิงชนะเลิศชปล.ที่เบอร์ลิน คือเป้าหมายของดอร์ทมุนด์ ด้วยการใช้โมเดลบาเยิร์น
credit : นสพ.สตาร์ซอคเกอร์ โดย ช่อคูณ