
เป็นเรื่องราวของมิตรภาพของเด็กสองคนที่เติบโตมาด้วยกัน
แต่เพราะมีเหตุการณ์บางอย่างทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันไปไกลคนละประเทศ
แต่เมื่อทั้งคู่มีโอกาสกลับมาเจอกันอีกครั้ง ก็มีคนมาแทรกกลาง
ทำให้ระยะทางของทั้งคู่ ..... ห่างไกลกันออกไปอีก
เมษา ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น ธีรกร หรือ ธี ถูกขอมาเลี้ยงจากพ่อแม่ของ ก้องภพ หรือก้อง
ก้องภพรู้สึกเหมือนถูกแย่งความรักจึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ ธีรกร ออกจากบ้านของตนเอง และทำได้สำเร็จ
ส่วนธีรกรนั้น มีความหลังกับมีนาหญิงสาวที่มีเหตุต้องพลัดพรากกัน
หญิงสาวคนนี้เป็นเหมือนกับลมหายใจของเขา
และก้องภพเองก็เผลอใจให้กับมีนาอย่างไม่รู้ตัว โดยการแอบอ้างว่าเป็น ธีรกร ทำให้มีนาเข้าใจผิด
จนเป็นเหตุทำให้ทั้งสามกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในฐานะที่ต่างกันออกไป
ธีรกรกลายเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ เพราะเขาเชื่อว่าทุกครั้งที่เขาร้องเพลง มีนาต้องได้ฟัง
ก้องภพเป็นหนุ่มหล่อของมหาวิทยาลัย เป็นที่หมายปองของสาว สาว ด้วยใบหน้าที่หล่อคม บวกกับฐานะทางบ้านที่ดีเยี่ยม
ทั้งสามต้องเรียนอยู่ในมหาลัยเดียวกันด้วย
มีนากลับมาอีกครั้งเพื่อจะได้พบ กับ ธีรกร แต่เข้าใจผิดคิดว่าเป็น ก้องภพ ที่แอบอ้าง
ซึ่ง ก้องภพ เองก็จะทำทุกวิถีทางให้ มีนา นั้นต้องคลาดกับ ธีรกรตลอดไป
แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อธีรกรมีโอกาสได้เจอกับมีนา
โดยไม่รู้มาก่อนว่าสิ่งที่เขาตามหานั้นอยู่ข้าง ๆ เขาและเป็นคู่กัดเขามาโดยตลอด
มีนาเองก็แอบเผลอใจให้ ธีรกร แต่เพราะสัญญาและมิตรภาพที่ให้ไว้กับเมษาเพื่อนและพี่สนิทที่รักยิ่ง (คือก้องภพที่แอบอ้าง)
ทำให้เธอต้องหักห้ามใจ
วันหนึ่ง ธีรกร และ ก้องภพ มีโอกาสได้คุยกัน
ก้องภพบอกกับธีรกรว่า
"นายจำได้มั้ย วันที่นายมาที่บ้านฉัน มาแย่งความรักจากพ่อแม่ฉัน วันนี้ฉันจะทำให้นายได้รู้สึก ว่าการถูกแย่งคนที่รัก...มันเป็นยังไง"
ความรักจะลงเอยเช่นไร ?
มีนาจะมีโอกาสได้รู้ความจริงมั้ย ?
ก้องภพจะต้องผิดหวังหรือเปล่า เมื่อเขายอมทำทุกอย่างเพื่อมีนา?
และถ้าธีรกรต้องเลือกระหว่างอนาคตซุปเปอร์สตาร์ กับความรักหละ ทั้งคู่มีโอกาสสมหวัง หรือไม่ ?
ลองติดตามกันดูนะคะ

ตอนที่ 1 ความทรงจำที่มีค่า
เมษาเด็กชายอายุ 9 ขวบ เขาอาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า บ้านพบรักที่เชียงใหม่ ชีวิตของเมษาเหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป
จนกระทั้งวันหนึ่ง เขาได้พบกับมีนาเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ เป็นเรื่องน่าบังเอิญของชื่อเด็กทั้งสองจนถูกล้อเป็นประจำ มีนาก็ถูกทิ้งตั้งแต่เกิด
อาศัยอยู่ใน บ้านอารีรัก ที่กรุงเทพ แต่เป็นเพราะครูวิภาที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กถูกย้ายมาที่เชียงใหม่จึงขอพามีนามาอยู่ด้วย
เมษาเป็นเด็กที่ชอบร้องเพลง มีนาก็เป็นผู้ฟังที่ดีให้เมษาเสมอ แม้บางครั้งจะอดว่าไม่ได้
“เมษาชอบร้องเพลงเพี้ยน”
“เพี้ยนที่ไหน นี่เหละสไตล์ของเมษาที่นักร้องยังทำไม่ได้เลยนะ”
“เมษาชอบเขาข้างตัวเอง” มีนามักจะพูดแบบนี้กับเมษาเสมอ คงเป็นเพราะมีนาเป็นเด็กร่าเริงเลยทำให้ทั้งคู่สนิทกันมาก
จนกระทั่งวันหนึ่งครูวิภาถูกรถชนเสียชีวิต มีนาเสียใจมาก กลายเป็นเด็กเงียบ ไม่พูดกับใครนอกจากเมษา มีนาชอบหลบไปนั่งคนเดียว
ที่ใต้ต้นไม้ที่ครูวิภาเล่านิทานให้เธอฟังเป็นประจำ ใต้ต้นไม้นี้เป็นที่ประจำของมีนาไม่มีใครรู้นอกจากเมษา เมษาเป็นคนดึงมีนาออกมาจาก
ความสูญเสีย ทำให้เธอยิ้มได้อีกครั้ง ไม่ว่าจากการร้องเพลงที่เพี้ยน ๆ ของเขา หรือความพยายามทำทุกทางเพื่อให้มีนารู้สึกว่า
โชคดีมากแค่ไหนแล้วที่มีเมษาอยู่ด้วยในตอนนี้
“มีนายิ้มได้อีกครั้งเพราะเมษา มีนาจะยิ้มแบบนี้ให้เมษาคนเดียว” มีนาบอกเมษาจากใจจริง
เมษารู้สึกดีแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ความร้อนแผ่ทั่วร่างกายไปหมด มันเรียกอะไรกันนะความรู้สึกแบบนี้
มิตรภาพของทั้งสองดำเนินไปเรื่อย ๆ จน 2 ปีต่อมาเกิดเหตุการณ์ที่ทั้งสองต้องจำไปตลอดชีวิต
เมษาได้รับการอุปการะจากครอบครัวหนึ่งเพื่อให้เป็นเพื่อนกับลูกชายคนเดียวของเขา มีนารู้เรื่องก็รู้สึกกลัวกลับการจากลาครั้งนี้
จึงหนีไปนั่งใต้ต้นไม้ที่ประจำ เมษารู้จึงรีบวิ่งมาหามีนา
“มีนารู้เรื่องแล้วใช่ไหม”
“ อืม”
“เมษาจะไม่ไปไหน จะอยู่ที่นี่กับมีนา”
“เมษา จะได้เรียนต่อนะ อยากทำอะไรก็ได้ที่เมษาฝันไว้”
“มีนาคือความฝันของเมษา”
“ครู วิภาบอกกับมีนาเสมอว่า คนเราอย่าทิ้งโอกาสที่ดี เพราะมันไม่ได้มาหาเราได้ง่าย ๆ มีนาจะอยู่รอเมษาที่นี่ ถ้าเมษาคิดถึงมีนาจะมาหาเมื่อไหร่ก็ได้” เมษามองหน้ามีนา ความเงียบมาแทนที่คำพูดของมิตรภาพระหว่างเด็กทั้งสอง
คืนสุดท้ายก่อนออกจากบ้านของเมษา มีนาแกล้งทำเป็นเข็มแข็งเด็กหญิงรู้สึกได้ถึงความปวดใจและทรมานกับสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น
ความรู้สึกไม่ต่างจากการสูญเสียครูที่เป็นดั่งแม่ที่รักยิ่ง เพียงแต่ครั้งนั้นเธอยังมีชีวิตอยู่ได้เพราะเมษาที่เป็นทั้งพี่และเพื่อนที่เธอรัก
ตอนนี้สำหรับมีนาเหมือนไม่มีใครที่สามารถแทนเมษาได้เลย
“ไปดูดาวกันนะ เมษา” มีนาชวน
ใต้ต้นไม้ที่ประจำกับความเงียบที่ปกคลุมอีกครั้ง
“ต่อจากนี้ใครนะ จะร้องเพลงให้มีนาฟัง”
“มีนา” เมษาเรียกเธอ
“แต่ช่างเถอะ เมษามีความสุขมีนาก็มีความสุข เอาไว้ทุกครั้งที่มีนาฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงใครมีนาก็จะคิดถึงเมษา”
“เมษาจะคิดถึงมีนา ทุกครั้งไม่ว่าจะทำอะไร”
“เมษาอย่าลืมมีนานะ”
“ต่อให้ตายก็ไม่ลืม มีนาคือหัวใจของเมษานะ”
“เมษาก็คือคนที่มีนารักมากที่สุด”
“เมษาก็รักมีนานะ”
“สัญญานะเมษา”
“เมษาสัญญา”
มิตรภาพความรักของเด็กทั้งสองแม้อาจมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระสำหรับผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กทั้งสองคือหมดใจแล้ว.....ที่มี
วันที่เมษาต้องจากไป มีนาไม่ไปส่งยังคงอยู่ใต้ต้นไม้ที่ประจำ แต่สุดท้ายก็ห้ามใจไม่ไหว รีบวิ่งตามรถของเมษาตามไหล่ทางลัด
มีนามีโอกาสเห็นรถของเมษาอยู่ริบ ริบ เมษาเอาแต่นั่งมองกระจกหลังตลอดเพียงเพื่อหวังจะได้เห็นมีนาอีกสักครั้ง
มีนายังคงวิ่งต่อไปด้วยความหวังอยู่ลึก ๆ ว่ายังไงก็ทัน แต่แรงคนหรือจะสู้แรงของเครื่องยนต์
“โชคดีนะเมษา” คำพูดพร้อมรอยน้ำตาที่ไหลออกมา จากนี้คงไม่มีคำพูดใดๆ สำหรับมีนา มาที่แทนความรู้สึกในตอนนี้ได้อีกเลย
เมื่อเมษาเดินทางมาถึงบ้านหลังใหม่เ ขาได้พบกับเด็กชายคนหนึ่งที่มองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
เด็กคนนั้นคือก้องภพลูกชายคนเดียวของบ้านหลังนี้ พ่อและแม่ของก้องภพหวังไว้ว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนเล่นที่ดีต่อกัน โดยที่ไม่รู้เลยว่า
เมษาคือสิ่งเดียวที่ก้องภพไม่ต้องการ ก้องภพพยายามทำทุกทางเพื่อให้เมษาอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปไม่ได้ แต่ยิ่งแกล้งเมษามากเท่าไหร่
กลับทำให้พ่อแม่ของเขารักและสงสารเมษามากขึ้น เมษามีหลายอย่างที่เหนือกว่าก้องภพ ทำให้หลายครั้งหรือเรียกว่าทุกครั้งเลยก็ได้
ที่ทำให้ก้องภพไม่พอใจ วันหนึ่งเมษาได้รับของขวัญเพราะเขาสอบได้ที่ 1 เป็นของขวัญที่ก้องภพอยากได้มากที่สุด ก้องภพทนไม่ได้เลยพลักเมษาตกน้ำ แต่พ่อของก้องภพมาช่วยไว้ทัน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ก้องภพถูกตียิ่งต่อน่าคนที่เขาเกลียดที่สุดด้วยแล้ว ด้วยความน้อยใจทำให้
ตอนนี้ก้องภพรู้สึกว่าตั้งแต่เมษาเข้ามาเหมือนมาแย่ง ความรักจากคนรอบข้างของเขาไป โดยเฉพาะพ่อและแม่ที่ก้องภพอยากให้รักเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ก้องภพร้องไห้วิ่งขึ้นห้อง เมษาตามเข้าไปอย่างรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เมษายื่นของขวัญที่ได้มาให้ก้องภพ
ก้องภพรับมาแล้วปาทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี ของขวัญพังทลายไม่ต่างจากความอดทนของก้องภพ
“นายจำไว้เมษา จำคำพูดของฉันไว้ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่นายรัก มันจะเป็นเหมือนกับของขวัญในตอนนี้
และ อะไรที่นายได้จากฉันไป ฉันจะเอามันคืนทุกอย่าง.......ทุกอย่างที่นายรัก และรักมาก จำหน้าฉันไว้ให้ดี มันต้องเป็นของฉัน”
นับว่าเป็นการทะเลาะกันที่รุนแรงที่สุด เมษาเองสงสารก้องภพไม่น้อยที่เป็นคนขาดความอบอุ่น เมษาตัดสินใจขอกลับไปอยู่ที่บ้านพบรักเหมือนเดิม
เมษากลับมาบ้านพบรักในครั้งนี้เขาซื้อของฝากมาให้มีนามากมาย “เธอคงชอบ” เมษาหวังในใจ
เมื่อเมษามาถึงกับได้รู้ว่ามีนาตัดสินใจไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่ญี่ปุ่นโดยรถของมีนาคลาดกับเมษาแค่เสี้ยวนาที
เมษาวิ่งตามรถไปทั้งที่หิ้วของฝากที่จะให้มีนาไปด้วย ของขวัญกระจัดกระจาย ตามทางถนนไปเรื่อย เรื่อย
เมษาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ขอเพียงอย่างเดียวคือการได้เจอมีนาอีกสักครั้ง
เมษาพยายามวิ่งตามรถของมีนาในใจก็คิดไว้ตลอด
“พี่จะรั้งเธอไว้ได้มั้ย”
“เมษาจะทำให้มีนากลับมาได้หรือเปล่า”
“ถ้าพี่วิ่งตามเธอทัน มีนาจะกลับมาอยู่กับเมษาใช่มั้ย”
สุดแรงเกิดแล้วที่มี สำหรับเมษา ก่อนที่เขาจะสะดุดล้มลงไป ความเจ็บปวดของร่างกายหรือจะเท่าความทรมานใจในตอนนี้
ความรู้สึกของเมษาพรั่งพรูออกมาไม่ต่างกันเลยกับน้ำตาของเขา ทำไมโชคชะตาต้องแกล้งกันขนาดนี้.......ทั้งสองต้องจากกันอีกแล้ว
ในรถคันนั้นมีนาเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเมษา “แล้วเราจะได้พบกัน”
เด็กสาวคิดหวังในใจ แต่ทว่าความเสียใจไม่อาจเก็บซ่อนไว้ในหัวใจได้อีกต่อไปแล้ว
การจากไปในครั้งนี้ของมีนาทำให้เมษาที่เด็กร่าเริงกับกลายเป็นคนเงียบ เก็บตัว เขาชอบมานั่งร้องเพลงใต้ต้นไม้ที่ประจำของมีนา
และถ่ายทอดความรู้สึกของเขาผ่านทางจดหมายเพื่อส่งไปถึงมีนา เขาพยายามเก็บเงินเพื่อจะได้มีโอกาสโทรหาเธอแต่ก็ไม่มีใครรับสาย
ทำไมต่างประเทศเป็นอะไรที่ไกลตัวนัก ทำไมเราถึงอยู่ห่างกันแบบนี้
วันสุดท้ายที่เมษาอยู่ในบ้านพบรัก ก่อนจะไปอยู่กับครอบครัวใหม่ เมษาไปนั่งร้องเพลงใต้ต้นไม้ที่ประจำของมีนาเป็นครั้งสุดท้าย
เขาเชื่อว่าสักวันคงได้พบกันอีกอย่างแน่นอน
เมื่อความไม่ตั้งใจของก้องภพ กลับกลายเป็นรักที่.....ฝังใจ ในยุคที่การสื่อสารยังไม่ได้รับการพัฒนา การเขียนจดหมายคือการสื่อสาร
ที่ดีที่สุด เมื่อมีนาไปถึงญี่ปุ่นได้เขียนจดหมายถึงเมษา ซึ่งตามจริงแล้ว มีนาเขียนจดหมายถึงเมษาตั้งแต่เมษาอยู่บ้านก้องภพ แต่ก้องภพซ่อนจดหมายของเมษาไว้ไม่ให้เมษารู้ การเขียนจดหมายอีกครั้งของมีนาโดยที่ยังคงเข้าใจว่าเมษายังอยู่ที่บ้านของก้องภพ
ก้องภพคิดแกล้งมีนากับเมษาจึงตอบจดหมายกลับไปโดยแทนตัวเองว่าเป็นเมษา
จากแค่ ขำ ขำ ที่ได้ตอบจดหมายกลับ กลายมาเป็น ตื่นเต้น ทุกครั้งที่ได้รับจดหมาย
หวั่นไหวบ้างในบางครั้ง...ที่ได้อ่าน....จนกระทั่ง..สุดท้าย....ก้องภพได้ซึมซับความผูกพันธ์ที่เกิดขึ้นกับมีนาอย่าง........ไม่รู้ตัว
ยิ่งทุกครั้งที่เขาได้อ่านจดหมายที่มีนาถ่ายทอดความรู้สึกให้กับเมษาก้องภพแทบ อยากจะทำให้เมษาหายไปจากโลกนี้ไปซะ
เพื่อเขาจะได้เป็นเมษาสำหรับมีนาเพียงคน เดียวเท่านั้น ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไปตามอายุของพวกเขาทั้งสาม
ทางด้านเมษาหลังจากที่ได้ตัดสินใจไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่กรุงเทพ เมษาเปลี่ยนชื่อเป็น ธีรกร หรือ ธี เขาหาโอกาสโทรหามีนา
แต่ไม่มีใครรับสายเพราะมีนาได้ย้ายที่อยู่แล้ว ทางเดียวที่เขาทำได้คือเขียนจดหมาย เพราะเขาสังเกตุว่าจดหมายไม่ตีกลับแสดงว่าต้องมี
คนรับไว้ ธีหวังว่าสักวันมีนากลับมาบ้านเก่าจะมีคนเก็บไว้ให้มีนาอ่าน
ธี ต้องอยู่ในโลกของการรอคอยที่ไม่มีหวัง สิ่งเดียวที่เขาทำได้ หรือการร้องเพลง เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขารัก พร้อมกับหวังอยู่ลึก ลึก
เพลงของเขาจะสื่อถึงคนที่ ธี รอคอยได้ จากการร้องเพลงไปเรื่อย เรื่อยตามผับ จนวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสเซ็นสัญญาเป็นนักร้องตามคำ
ชักชวนของคุณบีม คุณบีมกลายเป็นผู้ที่มีบุญคุณสำหรับ ธี มาก เพราะ ธี ได้มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่รักสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่แล้วในตอนนี้
ธี กลายเป็นนักร้องที่ชื่นชอบ และกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในที่สุด จากการสนับสนุนของคุณบีม บวกกับความสามารถของเขาเอง
เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้ร้องเพลง และเชื่อมั่นเสมอว่ามีนาต้องได้ฟัง
แต่ในทุกครั้งที่ ธี กลับมาถึงบ้าน ความเงียบจะเริ่มทำร้ายเขาเหมือนทุกครั้ง 10 ปีแล้วจากวันนั้นถึงวันนี้
“แผลที่ใจสดเสมอเมื่อนึกถึง และไม่มีวันตกสะเก็ด” สำหรับ ธีแล้ว คำพูดนี้ได้ทำร้ายเขามาโดยตลอด
นิยาย The Shining Star (ดวงดาวแห่งรัก) ตอนที่ 1 โดย ณ พัชระ
เป็นเรื่องราวของมิตรภาพของเด็กสองคนที่เติบโตมาด้วยกัน
แต่เพราะมีเหตุการณ์บางอย่างทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันไปไกลคนละประเทศ
แต่เมื่อทั้งคู่มีโอกาสกลับมาเจอกันอีกครั้ง ก็มีคนมาแทรกกลาง
ทำให้ระยะทางของทั้งคู่ ..... ห่างไกลกันออกไปอีก
เมษา ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น ธีรกร หรือ ธี ถูกขอมาเลี้ยงจากพ่อแม่ของ ก้องภพ หรือก้อง
ก้องภพรู้สึกเหมือนถูกแย่งความรักจึงพยายามทำทุกทางเพื่อให้ ธีรกร ออกจากบ้านของตนเอง และทำได้สำเร็จ
ส่วนธีรกรนั้น มีความหลังกับมีนาหญิงสาวที่มีเหตุต้องพลัดพรากกัน
หญิงสาวคนนี้เป็นเหมือนกับลมหายใจของเขา
และก้องภพเองก็เผลอใจให้กับมีนาอย่างไม่รู้ตัว โดยการแอบอ้างว่าเป็น ธีรกร ทำให้มีนาเข้าใจผิด
จนเป็นเหตุทำให้ทั้งสามกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในฐานะที่ต่างกันออกไป
ธีรกรกลายเป็นนักร้องซูเปอร์สตาร์ เพราะเขาเชื่อว่าทุกครั้งที่เขาร้องเพลง มีนาต้องได้ฟัง
ก้องภพเป็นหนุ่มหล่อของมหาวิทยาลัย เป็นที่หมายปองของสาว สาว ด้วยใบหน้าที่หล่อคม บวกกับฐานะทางบ้านที่ดีเยี่ยม
ทั้งสามต้องเรียนอยู่ในมหาลัยเดียวกันด้วย
มีนากลับมาอีกครั้งเพื่อจะได้พบ กับ ธีรกร แต่เข้าใจผิดคิดว่าเป็น ก้องภพ ที่แอบอ้าง
ซึ่ง ก้องภพ เองก็จะทำทุกวิถีทางให้ มีนา นั้นต้องคลาดกับ ธีรกรตลอดไป
แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อธีรกรมีโอกาสได้เจอกับมีนา
โดยไม่รู้มาก่อนว่าสิ่งที่เขาตามหานั้นอยู่ข้าง ๆ เขาและเป็นคู่กัดเขามาโดยตลอด
มีนาเองก็แอบเผลอใจให้ ธีรกร แต่เพราะสัญญาและมิตรภาพที่ให้ไว้กับเมษาเพื่อนและพี่สนิทที่รักยิ่ง (คือก้องภพที่แอบอ้าง)
ทำให้เธอต้องหักห้ามใจ
วันหนึ่ง ธีรกร และ ก้องภพ มีโอกาสได้คุยกัน
ก้องภพบอกกับธีรกรว่า
"นายจำได้มั้ย วันที่นายมาที่บ้านฉัน มาแย่งความรักจากพ่อแม่ฉัน วันนี้ฉันจะทำให้นายได้รู้สึก ว่าการถูกแย่งคนที่รัก...มันเป็นยังไง"
ความรักจะลงเอยเช่นไร ?
มีนาจะมีโอกาสได้รู้ความจริงมั้ย ?
ก้องภพจะต้องผิดหวังหรือเปล่า เมื่อเขายอมทำทุกอย่างเพื่อมีนา?
และถ้าธีรกรต้องเลือกระหว่างอนาคตซุปเปอร์สตาร์ กับความรักหละ ทั้งคู่มีโอกาสสมหวัง หรือไม่ ?
ลองติดตามกันดูนะคะ
ตอนที่ 1 ความทรงจำที่มีค่า
เมษาเด็กชายอายุ 9 ขวบ เขาอาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า บ้านพบรักที่เชียงใหม่ ชีวิตของเมษาเหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป
จนกระทั้งวันหนึ่ง เขาได้พบกับมีนาเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ เป็นเรื่องน่าบังเอิญของชื่อเด็กทั้งสองจนถูกล้อเป็นประจำ มีนาก็ถูกทิ้งตั้งแต่เกิด
อาศัยอยู่ใน บ้านอารีรัก ที่กรุงเทพ แต่เป็นเพราะครูวิภาที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็กถูกย้ายมาที่เชียงใหม่จึงขอพามีนามาอยู่ด้วย
เมษาเป็นเด็กที่ชอบร้องเพลง มีนาก็เป็นผู้ฟังที่ดีให้เมษาเสมอ แม้บางครั้งจะอดว่าไม่ได้
“เมษาชอบร้องเพลงเพี้ยน”
“เพี้ยนที่ไหน นี่เหละสไตล์ของเมษาที่นักร้องยังทำไม่ได้เลยนะ”
“เมษาชอบเขาข้างตัวเอง” มีนามักจะพูดแบบนี้กับเมษาเสมอ คงเป็นเพราะมีนาเป็นเด็กร่าเริงเลยทำให้ทั้งคู่สนิทกันมาก
จนกระทั่งวันหนึ่งครูวิภาถูกรถชนเสียชีวิต มีนาเสียใจมาก กลายเป็นเด็กเงียบ ไม่พูดกับใครนอกจากเมษา มีนาชอบหลบไปนั่งคนเดียว
ที่ใต้ต้นไม้ที่ครูวิภาเล่านิทานให้เธอฟังเป็นประจำ ใต้ต้นไม้นี้เป็นที่ประจำของมีนาไม่มีใครรู้นอกจากเมษา เมษาเป็นคนดึงมีนาออกมาจาก
ความสูญเสีย ทำให้เธอยิ้มได้อีกครั้ง ไม่ว่าจากการร้องเพลงที่เพี้ยน ๆ ของเขา หรือความพยายามทำทุกทางเพื่อให้มีนารู้สึกว่า
โชคดีมากแค่ไหนแล้วที่มีเมษาอยู่ด้วยในตอนนี้
“มีนายิ้มได้อีกครั้งเพราะเมษา มีนาจะยิ้มแบบนี้ให้เมษาคนเดียว” มีนาบอกเมษาจากใจจริง
เมษารู้สึกดีแบบไม่เคยเป็นมาก่อน ความร้อนแผ่ทั่วร่างกายไปหมด มันเรียกอะไรกันนะความรู้สึกแบบนี้
มิตรภาพของทั้งสองดำเนินไปเรื่อย ๆ จน 2 ปีต่อมาเกิดเหตุการณ์ที่ทั้งสองต้องจำไปตลอดชีวิต
เมษาได้รับการอุปการะจากครอบครัวหนึ่งเพื่อให้เป็นเพื่อนกับลูกชายคนเดียวของเขา มีนารู้เรื่องก็รู้สึกกลัวกลับการจากลาครั้งนี้
จึงหนีไปนั่งใต้ต้นไม้ที่ประจำ เมษารู้จึงรีบวิ่งมาหามีนา
“มีนารู้เรื่องแล้วใช่ไหม”
“ อืม”
“เมษาจะไม่ไปไหน จะอยู่ที่นี่กับมีนา”
“เมษา จะได้เรียนต่อนะ อยากทำอะไรก็ได้ที่เมษาฝันไว้”
“มีนาคือความฝันของเมษา”
“ครู วิภาบอกกับมีนาเสมอว่า คนเราอย่าทิ้งโอกาสที่ดี เพราะมันไม่ได้มาหาเราได้ง่าย ๆ มีนาจะอยู่รอเมษาที่นี่ ถ้าเมษาคิดถึงมีนาจะมาหาเมื่อไหร่ก็ได้” เมษามองหน้ามีนา ความเงียบมาแทนที่คำพูดของมิตรภาพระหว่างเด็กทั้งสอง
คืนสุดท้ายก่อนออกจากบ้านของเมษา มีนาแกล้งทำเป็นเข็มแข็งเด็กหญิงรู้สึกได้ถึงความปวดใจและทรมานกับสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น
ความรู้สึกไม่ต่างจากการสูญเสียครูที่เป็นดั่งแม่ที่รักยิ่ง เพียงแต่ครั้งนั้นเธอยังมีชีวิตอยู่ได้เพราะเมษาที่เป็นทั้งพี่และเพื่อนที่เธอรัก
ตอนนี้สำหรับมีนาเหมือนไม่มีใครที่สามารถแทนเมษาได้เลย
“ไปดูดาวกันนะ เมษา” มีนาชวน
ใต้ต้นไม้ที่ประจำกับความเงียบที่ปกคลุมอีกครั้ง
“ต่อจากนี้ใครนะ จะร้องเพลงให้มีนาฟัง”
“มีนา” เมษาเรียกเธอ
“แต่ช่างเถอะ เมษามีความสุขมีนาก็มีความสุข เอาไว้ทุกครั้งที่มีนาฟังเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงใครมีนาก็จะคิดถึงเมษา”
“เมษาจะคิดถึงมีนา ทุกครั้งไม่ว่าจะทำอะไร”
“เมษาอย่าลืมมีนานะ”
“ต่อให้ตายก็ไม่ลืม มีนาคือหัวใจของเมษานะ”
“เมษาก็คือคนที่มีนารักมากที่สุด”
“เมษาก็รักมีนานะ”
“สัญญานะเมษา”
“เมษาสัญญา”
มิตรภาพความรักของเด็กทั้งสองแม้อาจมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระสำหรับผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กทั้งสองคือหมดใจแล้ว.....ที่มี
วันที่เมษาต้องจากไป มีนาไม่ไปส่งยังคงอยู่ใต้ต้นไม้ที่ประจำ แต่สุดท้ายก็ห้ามใจไม่ไหว รีบวิ่งตามรถของเมษาตามไหล่ทางลัด
มีนามีโอกาสเห็นรถของเมษาอยู่ริบ ริบ เมษาเอาแต่นั่งมองกระจกหลังตลอดเพียงเพื่อหวังจะได้เห็นมีนาอีกสักครั้ง
มีนายังคงวิ่งต่อไปด้วยความหวังอยู่ลึก ๆ ว่ายังไงก็ทัน แต่แรงคนหรือจะสู้แรงของเครื่องยนต์
“โชคดีนะเมษา” คำพูดพร้อมรอยน้ำตาที่ไหลออกมา จากนี้คงไม่มีคำพูดใดๆ สำหรับมีนา มาที่แทนความรู้สึกในตอนนี้ได้อีกเลย
เมื่อเมษาเดินทางมาถึงบ้านหลังใหม่เ ขาได้พบกับเด็กชายคนหนึ่งที่มองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
เด็กคนนั้นคือก้องภพลูกชายคนเดียวของบ้านหลังนี้ พ่อและแม่ของก้องภพหวังไว้ว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนเล่นที่ดีต่อกัน โดยที่ไม่รู้เลยว่า
เมษาคือสิ่งเดียวที่ก้องภพไม่ต้องการ ก้องภพพยายามทำทุกทางเพื่อให้เมษาอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปไม่ได้ แต่ยิ่งแกล้งเมษามากเท่าไหร่
กลับทำให้พ่อแม่ของเขารักและสงสารเมษามากขึ้น เมษามีหลายอย่างที่เหนือกว่าก้องภพ ทำให้หลายครั้งหรือเรียกว่าทุกครั้งเลยก็ได้
ที่ทำให้ก้องภพไม่พอใจ วันหนึ่งเมษาได้รับของขวัญเพราะเขาสอบได้ที่ 1 เป็นของขวัญที่ก้องภพอยากได้มากที่สุด ก้องภพทนไม่ได้เลยพลักเมษาตกน้ำ แต่พ่อของก้องภพมาช่วยไว้ทัน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ก้องภพถูกตียิ่งต่อน่าคนที่เขาเกลียดที่สุดด้วยแล้ว ด้วยความน้อยใจทำให้
ตอนนี้ก้องภพรู้สึกว่าตั้งแต่เมษาเข้ามาเหมือนมาแย่ง ความรักจากคนรอบข้างของเขาไป โดยเฉพาะพ่อและแม่ที่ก้องภพอยากให้รักเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ก้องภพร้องไห้วิ่งขึ้นห้อง เมษาตามเข้าไปอย่างรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เมษายื่นของขวัญที่ได้มาให้ก้องภพ
ก้องภพรับมาแล้วปาทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี ของขวัญพังทลายไม่ต่างจากความอดทนของก้องภพ
“นายจำไว้เมษา จำคำพูดของฉันไว้ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่นายรัก มันจะเป็นเหมือนกับของขวัญในตอนนี้
และ อะไรที่นายได้จากฉันไป ฉันจะเอามันคืนทุกอย่าง.......ทุกอย่างที่นายรัก และรักมาก จำหน้าฉันไว้ให้ดี มันต้องเป็นของฉัน”
นับว่าเป็นการทะเลาะกันที่รุนแรงที่สุด เมษาเองสงสารก้องภพไม่น้อยที่เป็นคนขาดความอบอุ่น เมษาตัดสินใจขอกลับไปอยู่ที่บ้านพบรักเหมือนเดิม
เมษากลับมาบ้านพบรักในครั้งนี้เขาซื้อของฝากมาให้มีนามากมาย “เธอคงชอบ” เมษาหวังในใจ
เมื่อเมษามาถึงกับได้รู้ว่ามีนาตัดสินใจไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่ญี่ปุ่นโดยรถของมีนาคลาดกับเมษาแค่เสี้ยวนาที
เมษาวิ่งตามรถไปทั้งที่หิ้วของฝากที่จะให้มีนาไปด้วย ของขวัญกระจัดกระจาย ตามทางถนนไปเรื่อย เรื่อย
เมษาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ขอเพียงอย่างเดียวคือการได้เจอมีนาอีกสักครั้ง
เมษาพยายามวิ่งตามรถของมีนาในใจก็คิดไว้ตลอด
“พี่จะรั้งเธอไว้ได้มั้ย”
“เมษาจะทำให้มีนากลับมาได้หรือเปล่า”
“ถ้าพี่วิ่งตามเธอทัน มีนาจะกลับมาอยู่กับเมษาใช่มั้ย”
สุดแรงเกิดแล้วที่มี สำหรับเมษา ก่อนที่เขาจะสะดุดล้มลงไป ความเจ็บปวดของร่างกายหรือจะเท่าความทรมานใจในตอนนี้
ความรู้สึกของเมษาพรั่งพรูออกมาไม่ต่างกันเลยกับน้ำตาของเขา ทำไมโชคชะตาต้องแกล้งกันขนาดนี้.......ทั้งสองต้องจากกันอีกแล้ว
ในรถคันนั้นมีนาเองก็มีความรู้สึกไม่ต่างจากเมษา “แล้วเราจะได้พบกัน”
เด็กสาวคิดหวังในใจ แต่ทว่าความเสียใจไม่อาจเก็บซ่อนไว้ในหัวใจได้อีกต่อไปแล้ว
การจากไปในครั้งนี้ของมีนาทำให้เมษาที่เด็กร่าเริงกับกลายเป็นคนเงียบ เก็บตัว เขาชอบมานั่งร้องเพลงใต้ต้นไม้ที่ประจำของมีนา
และถ่ายทอดความรู้สึกของเขาผ่านทางจดหมายเพื่อส่งไปถึงมีนา เขาพยายามเก็บเงินเพื่อจะได้มีโอกาสโทรหาเธอแต่ก็ไม่มีใครรับสาย
ทำไมต่างประเทศเป็นอะไรที่ไกลตัวนัก ทำไมเราถึงอยู่ห่างกันแบบนี้
วันสุดท้ายที่เมษาอยู่ในบ้านพบรัก ก่อนจะไปอยู่กับครอบครัวใหม่ เมษาไปนั่งร้องเพลงใต้ต้นไม้ที่ประจำของมีนาเป็นครั้งสุดท้าย
เขาเชื่อว่าสักวันคงได้พบกันอีกอย่างแน่นอน
เมื่อความไม่ตั้งใจของก้องภพ กลับกลายเป็นรักที่.....ฝังใจ ในยุคที่การสื่อสารยังไม่ได้รับการพัฒนา การเขียนจดหมายคือการสื่อสาร
ที่ดีที่สุด เมื่อมีนาไปถึงญี่ปุ่นได้เขียนจดหมายถึงเมษา ซึ่งตามจริงแล้ว มีนาเขียนจดหมายถึงเมษาตั้งแต่เมษาอยู่บ้านก้องภพ แต่ก้องภพซ่อนจดหมายของเมษาไว้ไม่ให้เมษารู้ การเขียนจดหมายอีกครั้งของมีนาโดยที่ยังคงเข้าใจว่าเมษายังอยู่ที่บ้านของก้องภพ
ก้องภพคิดแกล้งมีนากับเมษาจึงตอบจดหมายกลับไปโดยแทนตัวเองว่าเป็นเมษา
จากแค่ ขำ ขำ ที่ได้ตอบจดหมายกลับ กลายมาเป็น ตื่นเต้น ทุกครั้งที่ได้รับจดหมาย
หวั่นไหวบ้างในบางครั้ง...ที่ได้อ่าน....จนกระทั่ง..สุดท้าย....ก้องภพได้ซึมซับความผูกพันธ์ที่เกิดขึ้นกับมีนาอย่าง........ไม่รู้ตัว
ยิ่งทุกครั้งที่เขาได้อ่านจดหมายที่มีนาถ่ายทอดความรู้สึกให้กับเมษาก้องภพแทบ อยากจะทำให้เมษาหายไปจากโลกนี้ไปซะ
เพื่อเขาจะได้เป็นเมษาสำหรับมีนาเพียงคน เดียวเท่านั้น ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไปตามอายุของพวกเขาทั้งสาม
ทางด้านเมษาหลังจากที่ได้ตัดสินใจไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่กรุงเทพ เมษาเปลี่ยนชื่อเป็น ธีรกร หรือ ธี เขาหาโอกาสโทรหามีนา
แต่ไม่มีใครรับสายเพราะมีนาได้ย้ายที่อยู่แล้ว ทางเดียวที่เขาทำได้คือเขียนจดหมาย เพราะเขาสังเกตุว่าจดหมายไม่ตีกลับแสดงว่าต้องมี
คนรับไว้ ธีหวังว่าสักวันมีนากลับมาบ้านเก่าจะมีคนเก็บไว้ให้มีนาอ่าน
ธี ต้องอยู่ในโลกของการรอคอยที่ไม่มีหวัง สิ่งเดียวที่เขาทำได้ หรือการร้องเพลง เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขารัก พร้อมกับหวังอยู่ลึก ลึก
เพลงของเขาจะสื่อถึงคนที่ ธี รอคอยได้ จากการร้องเพลงไปเรื่อย เรื่อยตามผับ จนวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสเซ็นสัญญาเป็นนักร้องตามคำ
ชักชวนของคุณบีม คุณบีมกลายเป็นผู้ที่มีบุญคุณสำหรับ ธี มาก เพราะ ธี ได้มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่รักสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่แล้วในตอนนี้
ธี กลายเป็นนักร้องที่ชื่นชอบ และกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในที่สุด จากการสนับสนุนของคุณบีม บวกกับความสามารถของเขาเอง
เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้ร้องเพลง และเชื่อมั่นเสมอว่ามีนาต้องได้ฟัง
แต่ในทุกครั้งที่ ธี กลับมาถึงบ้าน ความเงียบจะเริ่มทำร้ายเขาเหมือนทุกครั้ง 10 ปีแล้วจากวันนั้นถึงวันนี้
“แผลที่ใจสดเสมอเมื่อนึกถึง และไม่มีวันตกสะเก็ด” สำหรับ ธีแล้ว คำพูดนี้ได้ทำร้ายเขามาโดยตลอด