ระหว่างเกาหลีเหนือกับไทย คิดว่าใครมีทีวีดิจิตอลอย่างเป็นทางการก่อนครับ

เกาหลีเหนือคงไม่ทำทีวีดิจิตอลอะครับ คนในประเทศทีวีแทบไม่ได้แตะ ถึงมีก็ไม่ได้ดู เพราะมีแต่สรรเสริญผู้นำ (ผมเคยเจออยู่ในช่องดาวเทียม น่าเบื่อมาก มีแต่รูปผู้นำ)

ส่วนพี่ไทย ล่าสุดข่าววันนี้บอกว่าคลื่นที่จะทำทีวีดิจิตอลไปซ้อนกับคลื่นโทรคมนาคมโลกกำหนดไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว คลื่นที่ว่านั้นคือ 698-806MHz (ผมบอกไว้ในกระทู้ "ทีวีดิจิตอลอินโดนีเซีย" ว่าที่อินโดเค้าวางแผนเอาคลื่นช่วงนี้ไปทำคลื่นมือถือตั้งแต่ก่อนออกอากาศทีวีดิจิตอลในปี ค.ศ.2009 ซะอีก โดยอินโดใช้ตามคลื่นโทรคมนาคมตามข้างบนนี้เป๊ะ แต่อินโดใช้เพิ่มอีก4MHz แปลว่าอินโดใช้สำหรับคลื่นมือถือ 694-806MHz โดยเริ่มใช้คลื่นหมวดนี้ในปี ค.ศ.2015 ส่วนทีวีก็ใช้คลื่น 478-694MHz)

ทำให้อาจต้องทำแผนประมูลและวางโครงข่ายใหม่หมด ทำให้อาจจะช้าไปอีกประมาณ 2ปี จากที่จะต้องเริ่มออกอากาศปลายปีนี้ (จะบ้าตาย แถได้อีก รอนานมากแล้ว ต้องดูไฟล์ญี่ปุ่นย้อมใจ) แล้วไม่ใช่คลื่นช่วง400กว่าMHzตั้งแต่แรกฟะ (ตอนแรกพี่ไทยเลือกจะใช้ 510-790MHz ซึ่งมันจะจังคลื่นช่วง600กว่าขึ้นไปพอดี ส่วนของญี่ปุ่นใช้470-770MHz แต่ญี่ปุ่นทำไว้เป็นสิบกว่าปีแล้ว เลยไม่ต้องเปลี่ยนคลื่น) ต่างประเทศก็ใช้คลื่นนี้ อินโดเค้าคิดคลื่นนี้ไว้นานหลายปีแล้วครับ แถมไทยบอกไปว่ากลัวซ้อนคลื่นมาเลเซีย ไม่รู้ว่าจะตุกติกอะไรหรือเปล่า ช้าโคตรแล้วยังจะพาให้ช้าเข้าไปอีก

ส่วนเรื่องเทคโนโลยีบ้านเรานั้น ตัวระบบทีวีดิจิตอลเองที่เลือกใช้ตอนนี้ถือว่าใหม่สุด ใช้ตามระบบอังกฤษ(DVB-T2) ส่วนช่องเยอะน้อยไม่สำคัญครับ ไม่ได้บ่งบอกถึงความเทพของระบบ ถ้าช่องเยอะจัด แต่ไร้คุณภาพ ไม่มีคนดู ก็เปลืองคลื่นเปล่าๆ และระบบยิบย่อยในคณะนี้ถือว่าเท่าเทียมกัน (Datacasting, EPG, Closed Caption มีเหมือนกันหมด แต่ทางญี่ปุ่นจะเน้นหนัก ไม่เห็นมันเป็นของเล่นแต่เอาไปใช้จริง) คราวนี้ก็เหลือแต่ Content แล้วครับ ตัวตัดสินวงการทีวี เทคนิคการถ่ายทำ เนื้อเรื่อง ความน่าสนใจ เอาตรงนี้ไปประชันกันดีกว่าครับ เทคนิคดีมีชัยไปกว่าครึ่งนะครับ

*** ปล.อยากได้หลอดไฟอันนี้จัง Japan Only โฆษณาภาพHDทำให้สินค้าและนางแบบดูดีขึ้นเยอะ ***


*** ทำให้เด็กและผู้ใหญ่อยากกินผักด้วย คิคิ ***