คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ในแง่แบงค์เดิม
1. ถ้าลูกค้ากู้ไม่ถึง 3 ปี ก็จะได้ค่าธรรมเนียมชำระคืนก่อนก่อนกำหนด 2 - 3% ของวงเงินหรือภาระหนี้ (แล้วแต่สัญญา)
2. ถ้ากู้เกิน 3 ปี การยอมให้ลูกค้า Re-Finance ไป โดยไม่ได้ค่าธรรมเนียม
- คุณเป็นลูกค้าดี เค้าอาจจะไม่ยอมเสียลูกค้าดีไป อาจจะพยายามลดดอกเบี้ยให้ หรือทำอะไรยื้อลูกค้าไว้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องปล่อยลูกค้าไป
- คุณเป็นลูกค้าที่แบงค์ไม่อยากยื้อ เช่น ชำระไม่ค่อยตรง เรื่องมาก หรือมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นลูกค้าที่มีปัญหาในอนาคต เค้าก็อาจจะปล่อยคุณไปง่ายๆ เรียกว่า ใส่พานถวายให้แบงค์ใหม่เลย
3. แบงค์เสียฐานลูกค้าแน่ๆ รายได้ดอกเบี้ยก็ลดลง จะต้องหาลูกค้ารายใหม่มาทดแทน
ในแง่แบงค์ใหม่
1. ได้ลูกค้าใหม่ เพิ่มฐานสินเชื่อเดิม ได้เป้า ได้ KPI
2. รายได้จากดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียมประเมิน ค่าธรรมเนียมการวิเคราะห์สินเชื่อ ค่าจัดการเงินกู้
3. จะมีโอกาสขาย โปรดักส์อื่นๆ ทั้ง ประกันชีวิต ประกันภัย บัตรเครดิต กองทุน ลิสซิ่ง และอื่นๆอีกมากมายสารพัดสารพัน
ในแง่ลูกค้า
1. อาจจะได้ดอกเบี้ยถูกลง
2. อาจจะได้ระยะเวลาทีผ่อนนานขึ้น ผ่อนสบายขึ้น
3. อาจจะได้วงเงินเพิ่มขึ้น
4. ลองเทียบดูดีๆ การย้ายแบงค์ไม่ได้มีแต่ข้อดี รายจ่ายแฝงก็มีเยอะ
ลองพิจารณาดูก่อน re-finance
1. ดอกเบี้ยที่ถูกลง ถูกลงกี่ปี คิดกลับมาเป็นเงินจริงๆ มันเท่าไหร่กันแน่ บางทีลดให้ 2 -3 % ดูเหมือนเยอะ แต่อาจจะแค่ 6 เดือน หรือ 1 ปี คิดออกมาเป็นเงินเทียบแบงค์เดิมกับแบงค์ใหม่จะเห็นภาพชัดเจนที่สุด
2. ค่าธรรมเนี่ยมที่ต้องเสียให้แบงค์เดิมเท่าไหร่
3. การกู้ที่ใหม่ มีค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ถามให้แน่นอน ทั้งค่าวิเคราะห์ ค่าจัดการ ค่าประเมินหลักประกัน
4. การย้ายแบงค์ต้องจำนองใหม่ ค่าใช้จ่ายในการจำนองลูกค้าต้องเป็นคนจ่าย เท่าไหร่
5. การย้ายแบงค์ใหม่ แน่นอน แบงค์ใหม่ต้องขายโปรดักส์ ประกัน และอื่นๆ ให้คุณแน่ กล้าปฏิเสธไหม
6. คิดให้รอบด้านบวกลบคูณหาร บางทีอยู่ที่เดิม หน่ะดีแล้ว
7. ยกเว้นว่า อยู่ที่เดิมมีปัญหากับแบงค์ หรือขอสินเชื่อเพิ่มแล้วไม่ให้ ก็จำเป็นต้องไปที่ใหม่
หวังว่าคงจะมีประโยชน์นะคะ
1. ถ้าลูกค้ากู้ไม่ถึง 3 ปี ก็จะได้ค่าธรรมเนียมชำระคืนก่อนก่อนกำหนด 2 - 3% ของวงเงินหรือภาระหนี้ (แล้วแต่สัญญา)
2. ถ้ากู้เกิน 3 ปี การยอมให้ลูกค้า Re-Finance ไป โดยไม่ได้ค่าธรรมเนียม
- คุณเป็นลูกค้าดี เค้าอาจจะไม่ยอมเสียลูกค้าดีไป อาจจะพยายามลดดอกเบี้ยให้ หรือทำอะไรยื้อลูกค้าไว้ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องปล่อยลูกค้าไป
- คุณเป็นลูกค้าที่แบงค์ไม่อยากยื้อ เช่น ชำระไม่ค่อยตรง เรื่องมาก หรือมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นลูกค้าที่มีปัญหาในอนาคต เค้าก็อาจจะปล่อยคุณไปง่ายๆ เรียกว่า ใส่พานถวายให้แบงค์ใหม่เลย
3. แบงค์เสียฐานลูกค้าแน่ๆ รายได้ดอกเบี้ยก็ลดลง จะต้องหาลูกค้ารายใหม่มาทดแทน
ในแง่แบงค์ใหม่
1. ได้ลูกค้าใหม่ เพิ่มฐานสินเชื่อเดิม ได้เป้า ได้ KPI
2. รายได้จากดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียมประเมิน ค่าธรรมเนียมการวิเคราะห์สินเชื่อ ค่าจัดการเงินกู้
3. จะมีโอกาสขาย โปรดักส์อื่นๆ ทั้ง ประกันชีวิต ประกันภัย บัตรเครดิต กองทุน ลิสซิ่ง และอื่นๆอีกมากมายสารพัดสารพัน
ในแง่ลูกค้า
1. อาจจะได้ดอกเบี้ยถูกลง
2. อาจจะได้ระยะเวลาทีผ่อนนานขึ้น ผ่อนสบายขึ้น
3. อาจจะได้วงเงินเพิ่มขึ้น
4. ลองเทียบดูดีๆ การย้ายแบงค์ไม่ได้มีแต่ข้อดี รายจ่ายแฝงก็มีเยอะ
ลองพิจารณาดูก่อน re-finance
1. ดอกเบี้ยที่ถูกลง ถูกลงกี่ปี คิดกลับมาเป็นเงินจริงๆ มันเท่าไหร่กันแน่ บางทีลดให้ 2 -3 % ดูเหมือนเยอะ แต่อาจจะแค่ 6 เดือน หรือ 1 ปี คิดออกมาเป็นเงินเทียบแบงค์เดิมกับแบงค์ใหม่จะเห็นภาพชัดเจนที่สุด
2. ค่าธรรมเนี่ยมที่ต้องเสียให้แบงค์เดิมเท่าไหร่
3. การกู้ที่ใหม่ มีค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ถามให้แน่นอน ทั้งค่าวิเคราะห์ ค่าจัดการ ค่าประเมินหลักประกัน
4. การย้ายแบงค์ต้องจำนองใหม่ ค่าใช้จ่ายในการจำนองลูกค้าต้องเป็นคนจ่าย เท่าไหร่
5. การย้ายแบงค์ใหม่ แน่นอน แบงค์ใหม่ต้องขายโปรดักส์ ประกัน และอื่นๆ ให้คุณแน่ กล้าปฏิเสธไหม
6. คิดให้รอบด้านบวกลบคูณหาร บางทีอยู่ที่เดิม หน่ะดีแล้ว
7. ยกเว้นว่า อยู่ที่เดิมมีปัญหากับแบงค์ หรือขอสินเชื่อเพิ่มแล้วไม่ให้ ก็จำเป็นต้องไปที่ใหม่
หวังว่าคงจะมีประโยชน์นะคะ
แสดงความคิดเห็น
การที่ธนาคารยอมให้รีไฟแนนซ์ ธนาคารได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง นอกจากได้เงินคืนจากเราเร็วขึ้น