ทำอย่างไรดี กับส่วนต่างราคาในสัญญาเช่าซื้อ

หลายท่านไม่คุ้นกับคำว่าเช่าซื้อ ในขณะที่หลายท่านก็ทำสัญญาเช่าซื้อซะจนคุ้น การเช่าซื้อคือการที่บริษัทผู้ให้เช่าซื้อให้เราใช้ทรัพย์สินของเค้าได้ โดยในระหว่างการใช้ เราจะต้องชำระเงินให้กับเค้าเป็นงวดๆ ตามกำหนดระยะเวลาที่ตกลงกัน เมื่อเราจ่ายครบทุกงวดตามที่ตกลงกันเมื่อไร กรรมสิทธิ์ในของสิ่งนั้นก็จะกลายมาเป็นของเราทันที
หลายท่านถามว่าแล้วมันต่างจากสัญญาซื้อขายเงินผ่อนยังไง ตอบแบบนี้ว่า สัญญาซื้อขายเงินผ่อน ระหว่างที่ผ่อน ของเป็นกรรมสิทธิ์ของเราแล้วนะ แต่สัญญาเช่าซื้อ ระหว่างที่จ่ายค่างวด ของยังเป็นของผู้ให้เช่าซื้ออยู่
ถ้าเราชำระค่างวดตรงตามกำหนดจนครบทุกงวด ของก็จะเป็นของเรา อันนี้ไม่มีปัญหา แต่ปัญหามันจะเกิดก็ตอนที่เราไม่มีเงินผ่อนค่างวด ถ้าเราไม่มีเงินผ่อนค่างวด 2 เดือนติดกัน บริษัทจะเริ่มทวงถามเงินค่างวดกับเราแล้ว ถ้าเรายังไม่มีจ่าย บริษัทจะมายึดของคืน...หลายท่านบอก เอาว่ะ เอาของคืนไปจะได้จบๆ แต่มันไม่จบง่ายแบบนั้นซิ...
ถ้าท่านผู้อ่านเคยเช่าซื้อรถกับบริษัทไฟแนนซ์ ตอนที่จะเซ็นต์สัญญา ถ้าได้ดูข้อสัญญาละเอียดหน่อย จะเห็นข้อสัญญาข้อนึงที่ระบุว่า หากเราผิดสัญญาไม่ชำระค่างวด เค้าจะมายึดรถคืน แล้วเอารถไปขาย ถ้าได้เงินจากการขายน้อยกว่าเงินที่เราค้างตามสัญญา เงินส่วนที่เหลือ เค้าจะมาเอาจากเราได้อีก...โอ้ แม่เจ้า อะไรจะขนาดนี้...ยกตัวอย่างเช่น ถ้าในสัญญาตกลงค่าเช่าซื้อกันทั้งหมด 500,000 บาท เราผ่อนไปแล้ว 100,000 บาทเหลืออีก 400,000 บาท แล้วผ่อนต่อไม่ไหว เค้าก็จะมายึดรถคืน หลังจากนั้น เค้าจะเอารถออกขาย หากเค้าขายได้ไม่ถึง 400,000 บาท ส่วนต่างเค้าก็จะมาเอาที่เรา...
วิธีแก้ปัญหาแบบนี้ แบบที่เราไม่ต้องมานั่งชำระค่าส่วนต่างอีก ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ถ้าวันใดเรารู้สึกว่าผ่อนต่อไม่ไหวแล้ว อย่ารอให้เค้ามายึดรถเอง ให้เราทำหนังสือแจ้งเค้าไปก่อนเลยว่าเราขอยกเลิกสัญญา แล้วขอความกรุณาเค้ามาเอารถคืนไป อย่าลืมเก็บหลักฐานการส่งเอกสารฉบับนี้ไว้ให้ดี ถ้ามีหลักฐานการส่งเอกสารฉบับนี้ แม้เค้าจะฟ้องร้องเรียกส่วนต่างราคาจากเรา เราก็ไม่ต้องจ่าย ศาลจะให้เราชนะคดี
ง่ายนิดเดียว อยู่ที่เรารู้ไม่รู้เท่านั้นเอง เพิ่มเติมยังไง คุยกันได้ครับ chitchaichinsunti@hotmail.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่