Hidden Reality คือหนังสือโดยไบรอัน กรีน ตีพิมพ์ในปี 2011 ซึ่งสำรวจแนวคิดของพหุภพและความเป็นไปได้ของเอกภพคู่ขนาน ในหนังสือของเขา กรีนได้บรรยายเอกภพคู่ขนานไว้ 9 แบบ (คาดว่าจะมีฉบับแปลโดยมติชนเหมือนกับเล่มอื่นๆที่ผ่านมา) ลองมาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง
Quilted multiverse ใช้ได้กับเอกภพที่เป็นอนันต์เท่านั้น ด้วยปริมาณอวกาศที่เป็นอนันต์ ทุกๆเหตุการณ์ที่เป็นไปได้จะเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม อัตราเร็วของแสงขัดขวางเราจากการรับรู้ถึงบริเวณที่เหมือนกันอื่นๆเหล่านี้
Inflationary multiverse ประกอบด้วยพ็อตเกตหลากหลาย ซึ่ง inflaton field ยุบตัวลงและสร้างเอกภพใหม่ขึ้น
Brane multiverse เป็นผลมาจากทฤษฏี M โดยกำหนดว่าแต่ละเอกภพคือเบรน 3 มิติ ซึ่งดำรงอยู่พร้อมกับเบรนอื่นๆอีกมากมาย อนุภาคถูกจำกัดอยู่ในเบรนของพวกมัน ยกเว้นแรงโน้มถ่วง
Cyclic multiverse มีหลายเบรน (แต่ละเบรนคือเอกภพ) ซึ่งชนกันทำให้เกิดบิกแบง เอกภพสะท้อนกลับและเวลาผ่านไป จนกระทั่งพวกมันถูกดึงกลับมาอยู่ด้วยกัน และชนกันอีกครั้งหนึ่ง ทำลายของเก่าและสร้างพวกมันขึ้นใหม่อีกครั้ง
Landscape multiverse อาศัยรูปร่าง Calabi-Yau ของทฤษฏีสตริง การผันแปรเชิงควอนตัมลดรูปร่างนี้ไปสู่ระดับพลังงานที่ต่ำกว่า , สร้างพ็อกเกตที่มีชุดของกฏที่ต่างจากอวกาศโดยรอบ
Quantum multiverse สร้างเอกภพใหม่ๆเมื่อเกิดการแยกของเหตุการณ์ขึ้น เช่นเดียวกับในการตีความพหุโลกของกลศาสตร์ควอนตัม
Holographic multiverse มาจากทฤษฏีที่ว่าพื้นที่ผิวของอวกาศสามารถจำลองปริมาตรของบริเวณนั้นได้
Simulated multiverse ดำรงอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์อันสลับซับซ้อนซึ่งจำลองเอกภพทั้งหมด
Ultimate multiverse ประกอบด้วยทุกๆเอกภพที่เป็นไปได้ทางคณิตศาสตร์ ภายใต้กฏของฟิสิกส์ที่แตกต่างกัน
http://en.wikipedia.org/wiki/The_Hidden_Reality:_Parallel_Universes_and_the_Deep_Laws_of_the_Cosmos
คุณคิดว่าพหุภพแบบไหนถูกต้อง จากหนังสือ The Hidden Reality
Hidden Reality คือหนังสือโดยไบรอัน กรีน ตีพิมพ์ในปี 2011 ซึ่งสำรวจแนวคิดของพหุภพและความเป็นไปได้ของเอกภพคู่ขนาน ในหนังสือของเขา กรีนได้บรรยายเอกภพคู่ขนานไว้ 9 แบบ (คาดว่าจะมีฉบับแปลโดยมติชนเหมือนกับเล่มอื่นๆที่ผ่านมา) ลองมาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง
Quilted multiverse ใช้ได้กับเอกภพที่เป็นอนันต์เท่านั้น ด้วยปริมาณอวกาศที่เป็นอนันต์ ทุกๆเหตุการณ์ที่เป็นไปได้จะเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน อย่างไรก็ตาม อัตราเร็วของแสงขัดขวางเราจากการรับรู้ถึงบริเวณที่เหมือนกันอื่นๆเหล่านี้
Inflationary multiverse ประกอบด้วยพ็อตเกตหลากหลาย ซึ่ง inflaton field ยุบตัวลงและสร้างเอกภพใหม่ขึ้น
Brane multiverse เป็นผลมาจากทฤษฏี M โดยกำหนดว่าแต่ละเอกภพคือเบรน 3 มิติ ซึ่งดำรงอยู่พร้อมกับเบรนอื่นๆอีกมากมาย อนุภาคถูกจำกัดอยู่ในเบรนของพวกมัน ยกเว้นแรงโน้มถ่วง
Cyclic multiverse มีหลายเบรน (แต่ละเบรนคือเอกภพ) ซึ่งชนกันทำให้เกิดบิกแบง เอกภพสะท้อนกลับและเวลาผ่านไป จนกระทั่งพวกมันถูกดึงกลับมาอยู่ด้วยกัน และชนกันอีกครั้งหนึ่ง ทำลายของเก่าและสร้างพวกมันขึ้นใหม่อีกครั้ง
Landscape multiverse อาศัยรูปร่าง Calabi-Yau ของทฤษฏีสตริง การผันแปรเชิงควอนตัมลดรูปร่างนี้ไปสู่ระดับพลังงานที่ต่ำกว่า , สร้างพ็อกเกตที่มีชุดของกฏที่ต่างจากอวกาศโดยรอบ
Quantum multiverse สร้างเอกภพใหม่ๆเมื่อเกิดการแยกของเหตุการณ์ขึ้น เช่นเดียวกับในการตีความพหุโลกของกลศาสตร์ควอนตัม
Holographic multiverse มาจากทฤษฏีที่ว่าพื้นที่ผิวของอวกาศสามารถจำลองปริมาตรของบริเวณนั้นได้
Simulated multiverse ดำรงอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์อันสลับซับซ้อนซึ่งจำลองเอกภพทั้งหมด
Ultimate multiverse ประกอบด้วยทุกๆเอกภพที่เป็นไปได้ทางคณิตศาสตร์ ภายใต้กฏของฟิสิกส์ที่แตกต่างกัน
http://en.wikipedia.org/wiki/The_Hidden_Reality:_Parallel_Universes_and_the_Deep_Laws_of_the_Cosmos