ผมเป็นคนชอบดูหนังโรง ชอบดูความเป็นไปของหนัง ผมไม่ชอบดูละคร
ผมเข้าใจว่าตอนนี้ละครไทยกำลังได้รับความนิยมมาก ผมยินดีนะ ยิ่งได้รับรู้ว่าเพื่อนบ้านเราหลายประเทศก็ชอบ มันเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆของคนประเทศเล็กๆแห่งนี้
ด้วยความนิยมนี้เองที่ทำให้เกิดการพูดถึง วิพากษ์วิจารณ์ ฉันรักคนนั้น เธอชอบคนนี้ คนน้ันเล่นดี คนนั้นเล่นแข็ง การพูดคุย การวิจารณ์เป็นสิ่งดี มันทำให้คนทำละครใส่ใจ และ พัฒนาละครอย่างต่อเนื่อง ละครไทยของเราจะแข็งแกร่ง ต่อกรกับซีรีย์ต่างชาติที่เข้ามาได้
แต่บังเอิญห้องเฉลิมไทย ไม่ได้มีเพียงละครเพียงอย่างเดียว ยังมีหนังจอใหญ่ ที่ยังมีคนรัก ยังสนใจ อยากพูดคุย อยากวิจารณ์บ้าง
การที่กระทู้ละครมีเยอะแยะมากมาย โดยความคิดส่วนตัวไม่ได้เป็นความผิดคนตั้งกระทู้ เราบังคับคนให้พูดรวมในกระทู้เดียวทำไม่ได้หรอกครับ ถ้าจำได้ หนังดังๆก็เคยปรากฏการณ์นี้ ไททานิค ก็เคยเป็น ถ้าปัจจุบันก็พี่มาก
การที่ละครจะมีกระทู้เยอะกว่าหนังก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ผมว่ามันเป็นธรรมชาติ เพราะละครมันมีทุกวันและทุกบ้านต่างก็มีทีวี แต่ละวันเรื่องราวจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เรื่องเดินไม่ได้หยุด ทำให้มีเรื่องพูดถึงได้ตลอด แตกต่างจากหนัง หนังต้องเสียตังค์ดู ไม่ว่าจะดูในโรงหรือซื้อดีวีดี อีกทั้งเรื่องราวก็เริ่มต้นยันจบแค่สองชั่วโมง เดือนหนึ่งดูหนังประมาณ ๓-๔ เรื่อง คุยแป็บเดียวก็ไม่มีเรื่องจะคุยแล้ว
จากทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อจะบอกทางพันทิปและคนในเฉลิมไทยว่า โลกเปลี่ยนไปแล้วครับ ๑๐ ปีก่อนเราอยู่รวมกันได้ เพราะการสื่อสารยังไม่ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน จำนวนคนที่คุยในกระทู้เลยไม่มาก แต่ปัจจุบันการสื่อสารทันสมัย คนดูละครเข้ามาพูดคุยในพันทิปกันมากขึ้นจนทำให้กระทู้หนังไม่สามารถปรากฏตัวได้ ต่อให้มีเฟีเจอร์ปิดเปิดแท็ก ก็คงไม่มีใครมาปิดแท็กที่เกี่ยวกับละครได้หมดหรอกครับ
ที่เขียนมาตั้งยาวก็เพื่อให้ทุกคนเห็นถึงความจำเป็นที่เฉลิมไทยจะต้องแยกห้องละครและห้องหนังออกจากกันครับ ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไง เข้ามาคุยครับ ขอให้คุยด้วยเหตุผล อย่าเอาอารมณ์มาใส่กันเลยนะครับ อากาศบ้านเรามันร้อนมากอยู่แล้ว
เพิ่มเติมนะครับ
บางความเห็นพูดถึงการควบคุมติ่งเกรียน ด้วยความสัจ ผมไม่ได้คิดจะแยกห้องหนังเหตุเพราะพวกติ่งเกรียนเลย ติ่งเกรียนมันมีอยู่ทุกที่ครับ ลองมองห้องเฉลิมกรุงหรือห้องการ์ตูนเป็นตัวอย่างก็ได้ แยกห้องไปแล้วมันก็มีติ่งเกรียนเฉลิมกรุง ติ่งเกรียนการ์ตูน และถ้าอนาคตมีห้องหนัง มันก็จะมีติ่งเกรียนหนังแน่นอน ฉะนั้นอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจดีกว่าครับ ติ่งเกรียนบางพวกน่ารำคาญจริง แต่บางพวกผมว่าก็เป็นสีสรรดี
บางความเห็นบอกว่า แยกห้องหนังเพื่อเอาสาระ ผมอยากจะบอกว่า ที่ผมต้องการให้แยกห้องหนังก็เพื่อให้กระทู้หนังมีที่ยืนครับ แล้วผมไม่สนด้วยว่ากระทู้ในห้องหนังจะมีสาระหรือไม่ มันอาจมีสาระหรือมันอาจเป็นกระทู้ขำขัน ผมว่ามันก็เป็นสีสรรของห้องนะครับ ลองดูห้องหว้ากอ ที่ขึ้นชื่อว่า มีสาระที่สุดแล้วให้พันทิป ยังมีกระทู้ออกทะเลตั้งมากมายอยู่ในนั้น แต่ก็ยังเข้าข่ายเป็นกระทู้ห้องหว้ากอ
สำหรับใครที่บอกว่าแยกห้องแล้วจะเหงา แรกๆผมว่าอาจจะใช่นะครับ แต่ลองดูห้องการ์ตูนตอนนี้สิครับ ครื้นเครง จนอดหมั่นไส้ไม่ได้
อ้อ ถึงแอดมินพันทิป เมเจอร์ เอสเอฟ คนซื้อหนังจากต่างประเทศ ค่ายหนังต่างๆ จะสะดวกใจในการซื้อพื้นที่โฆษณามากขึ้นนะครับ
ด้วยความเคารพ แยกห้องหนังกับละครเถอะครับ T_T
ผมเข้าใจว่าตอนนี้ละครไทยกำลังได้รับความนิยมมาก ผมยินดีนะ ยิ่งได้รับรู้ว่าเพื่อนบ้านเราหลายประเทศก็ชอบ มันเป็นความภาคภูมิใจเล็กๆของคนประเทศเล็กๆแห่งนี้
ด้วยความนิยมนี้เองที่ทำให้เกิดการพูดถึง วิพากษ์วิจารณ์ ฉันรักคนนั้น เธอชอบคนนี้ คนน้ันเล่นดี คนนั้นเล่นแข็ง การพูดคุย การวิจารณ์เป็นสิ่งดี มันทำให้คนทำละครใส่ใจ และ พัฒนาละครอย่างต่อเนื่อง ละครไทยของเราจะแข็งแกร่ง ต่อกรกับซีรีย์ต่างชาติที่เข้ามาได้
แต่บังเอิญห้องเฉลิมไทย ไม่ได้มีเพียงละครเพียงอย่างเดียว ยังมีหนังจอใหญ่ ที่ยังมีคนรัก ยังสนใจ อยากพูดคุย อยากวิจารณ์บ้าง
การที่กระทู้ละครมีเยอะแยะมากมาย โดยความคิดส่วนตัวไม่ได้เป็นความผิดคนตั้งกระทู้ เราบังคับคนให้พูดรวมในกระทู้เดียวทำไม่ได้หรอกครับ ถ้าจำได้ หนังดังๆก็เคยปรากฏการณ์นี้ ไททานิค ก็เคยเป็น ถ้าปัจจุบันก็พี่มาก
การที่ละครจะมีกระทู้เยอะกว่าหนังก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ผมว่ามันเป็นธรรมชาติ เพราะละครมันมีทุกวันและทุกบ้านต่างก็มีทีวี แต่ละวันเรื่องราวจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เรื่องเดินไม่ได้หยุด ทำให้มีเรื่องพูดถึงได้ตลอด แตกต่างจากหนัง หนังต้องเสียตังค์ดู ไม่ว่าจะดูในโรงหรือซื้อดีวีดี อีกทั้งเรื่องราวก็เริ่มต้นยันจบแค่สองชั่วโมง เดือนหนึ่งดูหนังประมาณ ๓-๔ เรื่อง คุยแป็บเดียวก็ไม่มีเรื่องจะคุยแล้ว
จากทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อจะบอกทางพันทิปและคนในเฉลิมไทยว่า โลกเปลี่ยนไปแล้วครับ ๑๐ ปีก่อนเราอยู่รวมกันได้ เพราะการสื่อสารยังไม่ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน จำนวนคนที่คุยในกระทู้เลยไม่มาก แต่ปัจจุบันการสื่อสารทันสมัย คนดูละครเข้ามาพูดคุยในพันทิปกันมากขึ้นจนทำให้กระทู้หนังไม่สามารถปรากฏตัวได้ ต่อให้มีเฟีเจอร์ปิดเปิดแท็ก ก็คงไม่มีใครมาปิดแท็กที่เกี่ยวกับละครได้หมดหรอกครับ
ที่เขียนมาตั้งยาวก็เพื่อให้ทุกคนเห็นถึงความจำเป็นที่เฉลิมไทยจะต้องแยกห้องละครและห้องหนังออกจากกันครับ ใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไง เข้ามาคุยครับ ขอให้คุยด้วยเหตุผล อย่าเอาอารมณ์มาใส่กันเลยนะครับ อากาศบ้านเรามันร้อนมากอยู่แล้ว
เพิ่มเติมนะครับ
บางความเห็นพูดถึงการควบคุมติ่งเกรียน ด้วยความสัจ ผมไม่ได้คิดจะแยกห้องหนังเหตุเพราะพวกติ่งเกรียนเลย ติ่งเกรียนมันมีอยู่ทุกที่ครับ ลองมองห้องเฉลิมกรุงหรือห้องการ์ตูนเป็นตัวอย่างก็ได้ แยกห้องไปแล้วมันก็มีติ่งเกรียนเฉลิมกรุง ติ่งเกรียนการ์ตูน และถ้าอนาคตมีห้องหนัง มันก็จะมีติ่งเกรียนหนังแน่นอน ฉะนั้นอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจดีกว่าครับ ติ่งเกรียนบางพวกน่ารำคาญจริง แต่บางพวกผมว่าก็เป็นสีสรรดี
บางความเห็นบอกว่า แยกห้องหนังเพื่อเอาสาระ ผมอยากจะบอกว่า ที่ผมต้องการให้แยกห้องหนังก็เพื่อให้กระทู้หนังมีที่ยืนครับ แล้วผมไม่สนด้วยว่ากระทู้ในห้องหนังจะมีสาระหรือไม่ มันอาจมีสาระหรือมันอาจเป็นกระทู้ขำขัน ผมว่ามันก็เป็นสีสรรของห้องนะครับ ลองดูห้องหว้ากอ ที่ขึ้นชื่อว่า มีสาระที่สุดแล้วให้พันทิป ยังมีกระทู้ออกทะเลตั้งมากมายอยู่ในนั้น แต่ก็ยังเข้าข่ายเป็นกระทู้ห้องหว้ากอ
สำหรับใครที่บอกว่าแยกห้องแล้วจะเหงา แรกๆผมว่าอาจจะใช่นะครับ แต่ลองดูห้องการ์ตูนตอนนี้สิครับ ครื้นเครง จนอดหมั่นไส้ไม่ได้
อ้อ ถึงแอดมินพันทิป เมเจอร์ เอสเอฟ คนซื้อหนังจากต่างประเทศ ค่ายหนังต่างๆ จะสะดวกใจในการซื้อพื้นที่โฆษณามากขึ้นนะครับ