การสร้างหรือปรับกลยุทธ์ของรัฐไทยจึงไม่ใช่เรื่องหลักของไทย เรามีปัญญาที่ไม่ต่างจากใครในโลกนักหรอกครับ แต่ปัญหาไทยอยู่ที่ “กรรมสิทธิ์ในรัฐ” ต่างหาก ขณะนี้สภาพของเราคล้ายบริษัทครอบครัวที่ประสบความสำเร็จมาตลอดเวลานับร้อยปี แต่พี่น้องเกิดทะเลาะกันหลังพ่อล้มป่วยลง เราก็เกิดทุ่มเถียงกันว่า ใครจะเป็นผู้กุมบังเหียนบริษัท ในขณะที่คู่แข่งปรับตัวเอาๆ จนบริษัทคู่แข่งที่เราเคยเหยียดหยามว่ากระจอกที่สุด ก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้แล้ว เราจูงมือกันไปหาพ่อเพื่อให้พ่อตัดสิน พ่อก็ไม่ตัดสิน แถมยังเข้าข้างฝ่ายหนึ่งมาร่วมต่อต้านอีกฝ่ายหนึ่งเสียด้วย เราเคยนึกว่าพ่อเลือกอย่างนั้นเพราะพ่อคิดว่าเราไม่ดี เราเคยคิดแบบคนเป็นลูกว่าเราคงเลวเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลักฐานก็ชัดเจนขึ้นว่าวิธีคิดของพ่อมิได้เป็นเช่นนั้นเลย พ่อเลือกเข้าข้างคนที่พ่อถือว่าเป็นลูก และส่งสัญญาณให้กำจัดคนที่พ่อฟันธงลงมาแล้วว่าไม่ใช่ลูก เพราะพ่อร่วมประโยชน์อยู่กับลูกคนนั้น เกมนี้จึงไม่มีกรรมการ มีแต่ผู้เล่น คนที่นั่งคอยนอนคอยให้กรรมการจุติลงมาเกิดเพื่อดับทุกเข็ญในห้วงหลายปีที่ผ่านมานั้น บัดนี้เหงือกแห้งกันไปหมดแล้ว
จากเฟสบุ๊กของเจ๊เพ็ญ
เห็นเฟสบุ๊กของเจ๊เพ็ญ. เรายังจะสนับสนุน พรบ ปรองดองแบบสุดซอยกันอีกหรือ
จากเฟสบุ๊กของเจ๊เพ็ญ