วันนี้ ( 26 พ.ค.) เวลา 09.30 น.บ้านหัวหนอง หมู่ 2 ต.โนนแดง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม นายยศ เหล่าอัน ประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยถึงโครงการบริจาคอังคารของผู้วายชนม์ ว่า อังคาร ในที่นี้ หมายถึง เถ้าถ่านของศพที่เผาแล้ว พิธีลอยอังคาร จึงหมายถึง การนำเถ้าถ่านที่เหลือจากการเผาศพไปลอยในแม่น้ำ ด้วยความเชื่อและคตินิยมของคนไทยที่มีมาช้านานว่า การลอยอังคาร จะช่วยส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไปสู่ภพภูมิที่ดี ที่ที่มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข เหมือนดั่งสายน้ำที่มีความชุ่มเย็นอยู่เป็นนิจ นอกจากนี้ ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีการสร้างเมรุหรือตะกอนเผาศพ เถ้าถ่านและกระดูกที่เหลือจากการเผาศพนั้น หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะขาวโพลนอยู่กลางลานวัดหรือป่าช้า ถูกผู้คนเหยียบย่ำและถูกสัตว์คุ้ยเขี่ยเป็นที่อุจาดตา จึงต้องเก็บให้เรียบร้อยแล้วนำไป ลอยในแม่น้ำทั้งหมด บ้างก็ลอยแค่ส่วนหนึ่งและเก็บไว้บูชาส่วนหนึ่ง ส่วนที่เก็บไว้บูชานี้ ก็คือกระดูกหรือที่เรียกว่า อัฐิ โดยจะเก็บไว้ในโกฐ และส่วนที่นำไปลอยน้ำ ก็คือขี้เถ้า หรือที่เรียกว่า อังคาร
นายยศ กล่าวต่อว่า แต่เถ้ากระดุกนั้นยังมีประโยชน์อีกมากมาย ถ้านำไปลอยในแม่น้ำอาจเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เถ้าถ่านนั้นมีคุณค่าอย่างหนึ่งที่ส่งผลให้ให้กับต้นไม้เจริญงอกงาม จึงได้เกิดความคิดขึ้นมา และได้เปิดขอรับบริจาคเถ้าถ่านกระดูกของผู้วายชนม์ นำมาปลูกต้นไม้แทนการนำไปลอยอังคารตามแม่น้ำ โดยดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2551 ตลอดเวลาได้มีการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทั่วไปนำเถ้าถ่านกระดูกของผู้มีพระคุณหรือของญาติพี่น้องเคารพนับถือมาบริจาคให้กับทางชมรมฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดอรัญญาวาส บ้านหัวหนอง หมู่ 2 ต.โนนแดง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการปลูกต้นไม้เพื่อชีวิต เถ้าถ่านกระดูกผู้ตายที่รับบริจาคมาปลูกต้นไม้ จะสร้างแรงจูงใจให้เรารักต้นไม้ ต้นนั้นเพราะต้นไม้ต้นนั้นเจริญเติบโตงอกงามขึ้นได้เพราะจากเถ้ากระดูกของคนที่เราเคารพ เป็นการนำเถ้าถ่านผู้สิ้นชีวิตไปแล้วมาให้ชีวิตกับต้นไม้มาสร้างสีเขียวให้กับโลก
นายยศ กล่าวว่า สำหรับเถ้ากระดูกทางชมรมฯจะนำไปปลูกต้นไม้เฉพาะภายในวัดหรือสถานที่สำคัญทางศาสนาเท่านั้น โดยได้ดำเนินกิจกรรมมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันปรากฏว่ามีประชาชนเห็นชอบให้การสนับสนุนโครงการนี้บริจาคเถ้ากระดูกมามากกว่า 600 ราย โดยมีการทยอยนำเถ้ากระดูกที่ได้รับบริจาคไปปลูกต้นไม้หลายแห่งอาทิ วัดบ้านโคกกู่ ต.หนองคูขาด อ.บรบือ จ.มหาสารคาม จำนวน 327 ราย ปลูกที่วัดอรัญญาวาส บ้านหัวหนอง หมู่ 2 ต.โนนแดง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม จำนวนกว่า 200 ราย สำหรับโครงการปลูกต้นไม้เพื่อชีวิตนี้ยังคงเปิดรับบริจาคเถ้ากระดูกจากผู้ที่เห็นชอบกับโครงการในการใช้เถ้ากระดูกมาสร้างความเจริญงอกงามให้ต้นไม้ซึ่งเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในชุมชน เพราะต้นไม้แต่ละต้นที่ปลูกจะมีชื่อผู้วายชนม์ติดบอกไว้ด้วย จะทำให้คนที่เคารพนับถือผู้ตายไม่กล้ามาตัดฟันทำลายต้นไม้ต้นนี้ และจะช่วยกันรดน้ำพรวนดินทำให้ต้นไม้เจริญงอกงามคงอยู่คู่ชุมชนตลอดไป อยากร่วมบริจาคเถ้ากระดูก โทร 089-275 4211
http://www.dailynews.co.th/thailand/207054
จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ ทั้งในทางโลกและในทางความเชื่อแต่ละศาสนา
ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเถ้ากระดูกเติมชีวิตให้ต้นไม้
วันนี้ ( 26 พ.ค.) เวลา 09.30 น.บ้านหัวหนอง หมู่ 2 ต.โนนแดง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม นายยศ เหล่าอัน ประธานชมรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยถึงโครงการบริจาคอังคารของผู้วายชนม์ ว่า อังคาร ในที่นี้ หมายถึง เถ้าถ่านของศพที่เผาแล้ว พิธีลอยอังคาร จึงหมายถึง การนำเถ้าถ่านที่เหลือจากการเผาศพไปลอยในแม่น้ำ ด้วยความเชื่อและคตินิยมของคนไทยที่มีมาช้านานว่า การลอยอังคาร จะช่วยส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไปสู่ภพภูมิที่ดี ที่ที่มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข เหมือนดั่งสายน้ำที่มีความชุ่มเย็นอยู่เป็นนิจ นอกจากนี้ ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีการสร้างเมรุหรือตะกอนเผาศพ เถ้าถ่านและกระดูกที่เหลือจากการเผาศพนั้น หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะขาวโพลนอยู่กลางลานวัดหรือป่าช้า ถูกผู้คนเหยียบย่ำและถูกสัตว์คุ้ยเขี่ยเป็นที่อุจาดตา จึงต้องเก็บให้เรียบร้อยแล้วนำไป ลอยในแม่น้ำทั้งหมด บ้างก็ลอยแค่ส่วนหนึ่งและเก็บไว้บูชาส่วนหนึ่ง ส่วนที่เก็บไว้บูชานี้ ก็คือกระดูกหรือที่เรียกว่า อัฐิ โดยจะเก็บไว้ในโกฐ และส่วนที่นำไปลอยน้ำ ก็คือขี้เถ้า หรือที่เรียกว่า อังคาร
นายยศ กล่าวต่อว่า แต่เถ้ากระดุกนั้นยังมีประโยชน์อีกมากมาย ถ้านำไปลอยในแม่น้ำอาจเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เถ้าถ่านนั้นมีคุณค่าอย่างหนึ่งที่ส่งผลให้ให้กับต้นไม้เจริญงอกงาม จึงได้เกิดความคิดขึ้นมา และได้เปิดขอรับบริจาคเถ้าถ่านกระดูกของผู้วายชนม์ นำมาปลูกต้นไม้แทนการนำไปลอยอังคารตามแม่น้ำ โดยดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2551 ตลอดเวลาได้มีการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทั่วไปนำเถ้าถ่านกระดูกของผู้มีพระคุณหรือของญาติพี่น้องเคารพนับถือมาบริจาคให้กับทางชมรมฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่วัดอรัญญาวาส บ้านหัวหนอง หมู่ 2 ต.โนนแดง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการปลูกต้นไม้เพื่อชีวิต เถ้าถ่านกระดูกผู้ตายที่รับบริจาคมาปลูกต้นไม้ จะสร้างแรงจูงใจให้เรารักต้นไม้ ต้นนั้นเพราะต้นไม้ต้นนั้นเจริญเติบโตงอกงามขึ้นได้เพราะจากเถ้ากระดูกของคนที่เราเคารพ เป็นการนำเถ้าถ่านผู้สิ้นชีวิตไปแล้วมาให้ชีวิตกับต้นไม้มาสร้างสีเขียวให้กับโลก
นายยศ กล่าวว่า สำหรับเถ้ากระดูกทางชมรมฯจะนำไปปลูกต้นไม้เฉพาะภายในวัดหรือสถานที่สำคัญทางศาสนาเท่านั้น โดยได้ดำเนินกิจกรรมมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันปรากฏว่ามีประชาชนเห็นชอบให้การสนับสนุนโครงการนี้บริจาคเถ้ากระดูกมามากกว่า 600 ราย โดยมีการทยอยนำเถ้ากระดูกที่ได้รับบริจาคไปปลูกต้นไม้หลายแห่งอาทิ วัดบ้านโคกกู่ ต.หนองคูขาด อ.บรบือ จ.มหาสารคาม จำนวน 327 ราย ปลูกที่วัดอรัญญาวาส บ้านหัวหนอง หมู่ 2 ต.โนนแดง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม จำนวนกว่า 200 ราย สำหรับโครงการปลูกต้นไม้เพื่อชีวิตนี้ยังคงเปิดรับบริจาคเถ้ากระดูกจากผู้ที่เห็นชอบกับโครงการในการใช้เถ้ากระดูกมาสร้างความเจริญงอกงามให้ต้นไม้ซึ่งเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในชุมชน เพราะต้นไม้แต่ละต้นที่ปลูกจะมีชื่อผู้วายชนม์ติดบอกไว้ด้วย จะทำให้คนที่เคารพนับถือผู้ตายไม่กล้ามาตัดฟันทำลายต้นไม้ต้นนี้ และจะช่วยกันรดน้ำพรวนดินทำให้ต้นไม้เจริญงอกงามคงอยู่คู่ชุมชนตลอดไป อยากร่วมบริจาคเถ้ากระดูก โทร 089-275 4211
http://www.dailynews.co.th/thailand/207054
จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ ทั้งในทางโลกและในทางความเชื่อแต่ละศาสนา