ผลงานประจานตัว...นงนุช สิงหเดชะ กับ ความบกพร่องของสมองส่วน “ต่อมประชาธิปไตย”
“ค่าของคน...อยู่ที่ผลของงาน” นี่คือประโยคที่อยู่คู่กับ
สังคมไทยมาเป็น
เวลายาวนาน ซึ่งตัวผมเองก็เห็นด้วย
กับประโยคดังกล่าวทุกประการ
เพราะผลของงาน หรือ
“ผลงาน” ย่อมถูกผลิตขึ้นผ่านความเป็นตัวตน
ของเจ้าของ
ผลงานชิ้นนั้นๆ ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อที่ผมขึ้นต้นไว้ว่า
“ผลงานประจานตัว” ได้เป็นอย่างดี โดยในวันนี้เราจะมาดูกัน
ว่าใคร?
จะมาประจานตัวเองอย่างไร..? โปรดติดตามครับ
เมื่อวานนี้ ผมเพิ่งได้มีโอกาสอ่านคอลัมน์ในมติชนรายสัปดา
ในหัวข้อ
“...ประชาธิปไตย ‘พิลึก’ โดย นงนุช สิงหเดชะ...”
ตาม Link นี้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1369240684&grpid=01&catid=&subcatid=
ซึ่งเมื่อผมอ่านจบ ก็ถึงกับต้องมานั่งถอนหายใจอยู่เฮือกใหญ่
เพราะไม่นึก
มาก่อนว่าจะได้เห็นผลงานการเขียนที่มีตรรกะ
พิลึกพิลั่น เต็มไปด้วยความ
บิดเบือน และบิดเบี้ยว ที่เชื่อมโยง
อคติของตัวผู้เขียน เข้ากับกรอบความ
คิดแบบ “ไร้ซึ่งการพัฒนา”
ได้อย่างลงตัว และแสดงให้เห็นถึงความบก
พร่องของสมองส่วน
“ต่อมประชาธิปไตย” ของคุณนงนุชฯ หลายประการ
กล่าวคือ....
ประการที่ 1
คุณนงนุชฯ กล่าวในตอนหนึ่งของบทความว่า...
“...คนกลุ่มหนึ่งของประเทศกำลังท่องคาถาประชาธิปไตยวันละ
3 เวลา
หลังอาหาร...”
(ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด คำว่า “คนกลุ่มหนึ่ง” ของคุณนงนุชฯ
น่าจะ
หมายความถึง คนเสื้อแดง) พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า...
“...ประชาธิปไตย เมืองไทยยุคนี้ แปลกตรงที่เมื่อรัฐบาล
ทำอะไรล้มเหลว
ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เพราะจะมีเครือข่าย
มวลชนของรัฐบาลคอยสร้าง
ข่าวโยนให้เป็นความผิดของอำมาตย์
และการรัฐประหาร...เช่น น้ำท่วม
ก็เป็นฝีมืออำมาตย์ เมื่อถูกติง
เตือนเรื่องจำนำข้าวก็หาว่าเป็นพวก
อำมาตย์มาคอยขัดขวาง...”
โอย...แค่เปิดประเด็นแรกมา ผมก็เริ่ม “ไม่ไหวจะเคลียร์” กับตรรกะของ
คุณนงนุชฯ เสียแล้ว...!!! เพราะเธอกำลังบอกว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ไม่รับผิดชอบต่อกรณีน้ำท่วม...??? แล้วที่เขาจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ประสบ
ภัยน้ำท่วมนั่นไม่เรียกว่า “ความรับผิดชอบ” หรืออย่างไร???
นายกฯยิ่งลักษณ์ลงพื้นที่ไปดูแลผู้ประสบภัยด้วยตัวเองในฐานะที่
เป็น
ผู้นำประเทศ อย่างนั้นไม่เรียกว่า “ความรับผิดชอบ”
แล้วจะเรียกว่าอะไร?
จะบอกว่าให้รับผิดชอบโดยการลาออกเพราะปล่อยให้น้ำท่วม
กระนั้นหรือ?
...แล้วถ้าใช้ตรรกะแบบเดียวกันนี้ เท่ากับว่า
นายกรัฐมนตรีของประเทศ
ออสเตรเลีย (เกิดมหาอุทกภัย
เช่นเดียวกับไทย) ก็คงมีอันต้องลาออก
ไปด้วยใช่หรือไม่...???
ผมก็ยังไม่เคยเห็นชาวออสเตรเลียเขาเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก
หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในบ้านเมืองเขานะครับ
หรือว่า
ตรรกะของชาวออสเตรเลียมันไม่ใช่ตรรกะแบบประชาธิปไตย
เหมือนที่คุณนงนุชฯ กำลังใช้อยู่...??? อย่าลืมว่า..ในยุครัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ฯ
ก็เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่เช่นกัน...ถึงจะไม่ใช่มหาอุทกภัย
แต่ก็เสียหายไม่น้อย
ซึ่งในครั้งนั้น ถ้าผมจำไม่ผิด พายุเข้าแค่ 2 ลูก
เองนะครับ คุณนงนุชเคย
ไปถามหาความรับผิดชอบของนาย
อภิสิทธิ์ฯ บ้างไหม???
น้ำท่วมนั่นมันเป็นภัยธรรมชาติอย่างหนึ่งนะครับ
ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วม
ครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีพายุ
ลูกใหญ่โหมกระหน่ำ
ประเทศไทยถึง 4 ลูก ภายในเดือนเดียว
อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะการ
บริหารน้ำในเขื่อนที่กักเก็บน้ำไว้ในปริมาณมาก
ไม่ยอมระบายน้ำออก
ไปก่อนหน้านี้ เมื่อพายุซัดหนักเข้า ก็ต้องเร่งระบาย
มีเท่าไหร่ต้อง
ปล่อยออกมาก่อนที่เขื่อนจะแตก
ประกอบกับช่วงที่เกิดน้ำท่วมก็เป็น
ช่วงหลังจากที่จัดตั้งรัฐบาล
เสร็จไม่นาน
หากจะพูดถึงการจัดการเรื่องน้ำในเขื่อนที่ผิดพลาด
มันก็ต้องย้อนไป
ดูข้อมูลการปล่อยน้ำตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย
จะเข้ามา
บริหารประเทศ เพราะการที่จะระบายน้ำในเขื่อนออก
ต้องใช้เวลา
และต้องวางแผนกันเป็นเดือนๆ ซึ่งเมื่อค้นข้อมูลดูแล้ว
ก็ปรากฏ
ชัดเจน ว่าไม่มีการระบายน้ำในเขื่อนออกไปก่อนหน้านี้
และปริมาณ
น้ำที่กักเก็บในเขื่อนก็สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
มันหมายความว่า
อย่างไร...??? คุณนงนุชฯ ช่วยตอบที
ผลงานประจานตัว...นงนุช สิงหเดชะ กับ ความบกพร่องของสมองส่วน “ต่อมประชาธิปไตย”
“ค่าของคน...อยู่ที่ผลของงาน” นี่คือประโยคที่อยู่คู่กับ สังคมไทยมาเป็น
เวลายาวนาน ซึ่งตัวผมเองก็เห็นด้วย กับประโยคดังกล่าวทุกประการ
เพราะผลของงาน หรือ “ผลงาน” ย่อมถูกผลิตขึ้นผ่านความเป็นตัวตน
ของเจ้าของ ผลงานชิ้นนั้นๆ ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อที่ผมขึ้นต้นไว้ว่า
“ผลงานประจานตัว” ได้เป็นอย่างดี โดยในวันนี้เราจะมาดูกัน ว่าใคร?
จะมาประจานตัวเองอย่างไร..? โปรดติดตามครับ
เมื่อวานนี้ ผมเพิ่งได้มีโอกาสอ่านคอลัมน์ในมติชนรายสัปดา ในหัวข้อ
“...ประชาธิปไตย ‘พิลึก’ โดย นงนุช สิงหเดชะ...” ตาม Link นี้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1369240684&grpid=01&catid=&subcatid=
ซึ่งเมื่อผมอ่านจบ ก็ถึงกับต้องมานั่งถอนหายใจอยู่เฮือกใหญ่ เพราะไม่นึก
มาก่อนว่าจะได้เห็นผลงานการเขียนที่มีตรรกะ พิลึกพิลั่น เต็มไปด้วยความ
บิดเบือน และบิดเบี้ยว ที่เชื่อมโยง อคติของตัวผู้เขียน เข้ากับกรอบความ
คิดแบบ “ไร้ซึ่งการพัฒนา” ได้อย่างลงตัว และแสดงให้เห็นถึงความบก
พร่องของสมองส่วน “ต่อมประชาธิปไตย” ของคุณนงนุชฯ หลายประการ
กล่าวคือ....
ประการที่ 1
คุณนงนุชฯ กล่าวในตอนหนึ่งของบทความว่า...
“...คนกลุ่มหนึ่งของประเทศกำลังท่องคาถาประชาธิปไตยวันละ 3 เวลา
หลังอาหาร...” (ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด คำว่า “คนกลุ่มหนึ่ง” ของคุณนงนุชฯ
น่าจะ หมายความถึง คนเสื้อแดง) พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า...
“...ประชาธิปไตย เมืองไทยยุคนี้ แปลกตรงที่เมื่อรัฐบาล ทำอะไรล้มเหลว
ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร เพราะจะมีเครือข่าย มวลชนของรัฐบาลคอยสร้าง
ข่าวโยนให้เป็นความผิดของอำมาตย์ และการรัฐประหาร...เช่น น้ำท่วม
ก็เป็นฝีมืออำมาตย์ เมื่อถูกติง เตือนเรื่องจำนำข้าวก็หาว่าเป็นพวก
อำมาตย์มาคอยขัดขวาง...”
โอย...แค่เปิดประเด็นแรกมา ผมก็เริ่ม “ไม่ไหวจะเคลียร์” กับตรรกะของ
คุณนงนุชฯ เสียแล้ว...!!! เพราะเธอกำลังบอกว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย
ไม่รับผิดชอบต่อกรณีน้ำท่วม...??? แล้วที่เขาจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ประสบ
ภัยน้ำท่วมนั่นไม่เรียกว่า “ความรับผิดชอบ” หรืออย่างไร???
นายกฯยิ่งลักษณ์ลงพื้นที่ไปดูแลผู้ประสบภัยด้วยตัวเองในฐานะที่ เป็น
ผู้นำประเทศ อย่างนั้นไม่เรียกว่า “ความรับผิดชอบ” แล้วจะเรียกว่าอะไร?
จะบอกว่าให้รับผิดชอบโดยการลาออกเพราะปล่อยให้น้ำท่วม กระนั้นหรือ?
...แล้วถ้าใช้ตรรกะแบบเดียวกันนี้ เท่ากับว่า นายกรัฐมนตรีของประเทศ
ออสเตรเลีย (เกิดมหาอุทกภัย เช่นเดียวกับไทย) ก็คงมีอันต้องลาออก
ไปด้วยใช่หรือไม่...???
ผมก็ยังไม่เคยเห็นชาวออสเตรเลียเขาเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก
หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในบ้านเมืองเขานะครับ หรือว่า
ตรรกะของชาวออสเตรเลียมันไม่ใช่ตรรกะแบบประชาธิปไตย
เหมือนที่คุณนงนุชฯ กำลังใช้อยู่...??? อย่าลืมว่า..ในยุครัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ฯ ก็เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่เช่นกัน...ถึงจะไม่ใช่มหาอุทกภัย
แต่ก็เสียหายไม่น้อย ซึ่งในครั้งนั้น ถ้าผมจำไม่ผิด พายุเข้าแค่ 2 ลูก
เองนะครับ คุณนงนุชเคย ไปถามหาความรับผิดชอบของนาย
อภิสิทธิ์ฯ บ้างไหม???
น้ำท่วมนั่นมันเป็นภัยธรรมชาติอย่างหนึ่งนะครับ ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วม
ครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีพายุ ลูกใหญ่โหมกระหน่ำ
ประเทศไทยถึง 4 ลูก ภายในเดือนเดียว อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะการ
บริหารน้ำในเขื่อนที่กักเก็บน้ำไว้ในปริมาณมาก ไม่ยอมระบายน้ำออก
ไปก่อนหน้านี้ เมื่อพายุซัดหนักเข้า ก็ต้องเร่งระบาย มีเท่าไหร่ต้อง
ปล่อยออกมาก่อนที่เขื่อนจะแตก ประกอบกับช่วงที่เกิดน้ำท่วมก็เป็น
ช่วงหลังจากที่จัดตั้งรัฐบาล เสร็จไม่นาน
หากจะพูดถึงการจัดการเรื่องน้ำในเขื่อนที่ผิดพลาด มันก็ต้องย้อนไป
ดูข้อมูลการปล่อยน้ำตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จะเข้ามา
บริหารประเทศ เพราะการที่จะระบายน้ำในเขื่อนออก ต้องใช้เวลา
และต้องวางแผนกันเป็นเดือนๆ ซึ่งเมื่อค้นข้อมูลดูแล้ว ก็ปรากฏ
ชัดเจน ว่าไม่มีการระบายน้ำในเขื่อนออกไปก่อนหน้านี้ และปริมาณ
น้ำที่กักเก็บในเขื่อนก็สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน มันหมายความว่า
อย่างไร...??? คุณนงนุชฯ ช่วยตอบที