เป็นความเห็นส่วนตัว เห็นไม่ว่า สื่อทางไหนจำนวนมาก
รวมทั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ออกมา พูด
เรื่องพระพุทธเจ้าน้อย ที่ไม่พูด เปล่า จัดสร้าง ออกไป
เผยแพร่ นัยว่า ไปถึง ศรีลังกา เลย
ผมเป็นเด้กวัด ตั้งแต่ ปี 2499 จนถึง ปี 2508 ตั้งแต่เรียนมัธยม
จน ถึง ปวส อยู่กับ พระมาตลอด ในวิชาเรียน สมัยก่อน
จะมี พระมาสอน วิชาพุทธศาสนา หลักสูตร สมัยก่อน มีวิชานี้ด้วย
รวมทั้ง ไปบวชเรียน ที่วัดบวรนิเวศ วัดที่ผม อาศัย ข้าวก้นบาตร มากว่า
8 ปี รวมทั้ง ที่เป็นคนพุทธ มากว่า 60 ปี ไม่เคยได้ยิน เรื่องนี้ มาก่อนเลย
จนกระทั่ง ปี สองปี มานี้ ได้ยิน คำนี้ จาก คุณหญิง แล้วสื่อเอา มาโฆษณาต่อ
ครับ ชื่อพระพุทธเจ้า พระองค์ ทรง ได้รับ มาตั้งแต่ พระองค์ ทรงตรัสรู้ ในวัน
เพ็ญ เดือน 6 35 ปีหลัง เสด็จ ทรงผนวช คำนี้ หมายถึง พระองค์ทรง ตรัสรู้ ด้วย
พระองค์เอง สี่งที่พระองค์ ทรง รู้ด้วย ตนเอง คือ ทุกข์ สมุหทัย นิโรธ มรรค ที่เรา
เรียกว่า อริยสัจสี่ และพระองค์ ทรง เผยแพร่ คำว่า หัวใจของพระพุทธ ศาสนา
นั่นคือ การไม่ทำบาป ทำความดี และ ทำจิตใจให้ผ่องใส ที่เราเรียกว่า โอวาปฏิโมกข์
นี่คือหัวใจ ของพุทธศาสนา ส่วน พระพุทธรูป เป็น การแสดง สัญญลักษณ์ ของ พระองค์
ให้ ชาวพุทธ ได้กราบไหว้ บูชา ผมไม่ทราบ ที่มาที่ไป ของ ของ พระพุทธรูปน้อย ว่า
เหตุใด ต้องมี สี่งนี้เสริม เข้าไป ในการแสดง บารมี ของ ศาสนาพุทธ เพราะ พระที่ สอนผม
มาตลอด ก้ไม่ให้ยึดติด กับ รูปลักษณ์ ให้ยึก ติดคำสอน มาเป็น แก่นแท้ ของความนับถือ
ความคิด คำว่าพระพุทธเจ้าน้อย ท่านไม่เคยสอนผม
ในภาวะปัจจุบันที่เรามีเยาวชน ที่ บางครั้งไม่เข้าใจ ในแก่นของ พระพุทธศาสนา เราสอนให้คนเป็นคนดี
แต่เราไม่ทำ ให้ความดี นั้น เป็นที่ยอมรับ จากการพิสูจน์ ด้วยการกระทำ เราแข่งกันสร้าง เสนาสนะ
ขนาดใหญ่ เราแข่งกันสร้าง วัดสร้างโบสถ์ สร้างเจดีย์ ขนาดใหญ่ แต่เราไม่ได้สร้างคนให้ ถึงแก่นแท้
ของพระพุทธสาสนา
หลังวัน วิสาขะบูชา มาหนึ่งวัน ผม ก้อยากเสนอสี่งที่ เราต้องยึดเหนี่ยว ให้หัวใจของเรา
ร่มเย็นลง ด้วย หัวใจของ พระพุทธศาสนา ที่เราอาจลืม ไปหลงไหลกับ สี่งแปลกปลอม ทาง
ศาสนา ที่ปรุงแต่ง ด้วยความศรัทธา ที่หลายคนยังไม่เข้าใจ ว่า ที่ทำไปนั้น เพื่อเสริมจิตใจ หรือ
เสริม ความเชื่อ ที่ งมงาย บ้านเมืองของเราจึง พบเห็นพระที่ทำผิดวินัย อยู่ เสมอ ฆารวาสที่เชื่อ
ในสี่งที่เมือ่ตัวเองเชื่อจะต้งอ โฆษณา นำพาความเชื่อ ให้ เป็นไปตามที่ ตัวเองเชื่อ
เราหลงทางกันหรือเปล่าครับ
พระพุทธเจ้าน้อย
รวมทั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ออกมา พูด
เรื่องพระพุทธเจ้าน้อย ที่ไม่พูด เปล่า จัดสร้าง ออกไป
เผยแพร่ นัยว่า ไปถึง ศรีลังกา เลย
ผมเป็นเด้กวัด ตั้งแต่ ปี 2499 จนถึง ปี 2508 ตั้งแต่เรียนมัธยม
จน ถึง ปวส อยู่กับ พระมาตลอด ในวิชาเรียน สมัยก่อน
จะมี พระมาสอน วิชาพุทธศาสนา หลักสูตร สมัยก่อน มีวิชานี้ด้วย
รวมทั้ง ไปบวชเรียน ที่วัดบวรนิเวศ วัดที่ผม อาศัย ข้าวก้นบาตร มากว่า
8 ปี รวมทั้ง ที่เป็นคนพุทธ มากว่า 60 ปี ไม่เคยได้ยิน เรื่องนี้ มาก่อนเลย
จนกระทั่ง ปี สองปี มานี้ ได้ยิน คำนี้ จาก คุณหญิง แล้วสื่อเอา มาโฆษณาต่อ
ครับ ชื่อพระพุทธเจ้า พระองค์ ทรง ได้รับ มาตั้งแต่ พระองค์ ทรงตรัสรู้ ในวัน
เพ็ญ เดือน 6 35 ปีหลัง เสด็จ ทรงผนวช คำนี้ หมายถึง พระองค์ทรง ตรัสรู้ ด้วย
พระองค์เอง สี่งที่พระองค์ ทรง รู้ด้วย ตนเอง คือ ทุกข์ สมุหทัย นิโรธ มรรค ที่เรา
เรียกว่า อริยสัจสี่ และพระองค์ ทรง เผยแพร่ คำว่า หัวใจของพระพุทธ ศาสนา
นั่นคือ การไม่ทำบาป ทำความดี และ ทำจิตใจให้ผ่องใส ที่เราเรียกว่า โอวาปฏิโมกข์
นี่คือหัวใจ ของพุทธศาสนา ส่วน พระพุทธรูป เป็น การแสดง สัญญลักษณ์ ของ พระองค์
ให้ ชาวพุทธ ได้กราบไหว้ บูชา ผมไม่ทราบ ที่มาที่ไป ของ ของ พระพุทธรูปน้อย ว่า
เหตุใด ต้องมี สี่งนี้เสริม เข้าไป ในการแสดง บารมี ของ ศาสนาพุทธ เพราะ พระที่ สอนผม
มาตลอด ก้ไม่ให้ยึดติด กับ รูปลักษณ์ ให้ยึก ติดคำสอน มาเป็น แก่นแท้ ของความนับถือ
ความคิด คำว่าพระพุทธเจ้าน้อย ท่านไม่เคยสอนผม
ในภาวะปัจจุบันที่เรามีเยาวชน ที่ บางครั้งไม่เข้าใจ ในแก่นของ พระพุทธศาสนา เราสอนให้คนเป็นคนดี
แต่เราไม่ทำ ให้ความดี นั้น เป็นที่ยอมรับ จากการพิสูจน์ ด้วยการกระทำ เราแข่งกันสร้าง เสนาสนะ
ขนาดใหญ่ เราแข่งกันสร้าง วัดสร้างโบสถ์ สร้างเจดีย์ ขนาดใหญ่ แต่เราไม่ได้สร้างคนให้ ถึงแก่นแท้
ของพระพุทธสาสนา
หลังวัน วิสาขะบูชา มาหนึ่งวัน ผม ก้อยากเสนอสี่งที่ เราต้องยึดเหนี่ยว ให้หัวใจของเรา
ร่มเย็นลง ด้วย หัวใจของ พระพุทธศาสนา ที่เราอาจลืม ไปหลงไหลกับ สี่งแปลกปลอม ทาง
ศาสนา ที่ปรุงแต่ง ด้วยความศรัทธา ที่หลายคนยังไม่เข้าใจ ว่า ที่ทำไปนั้น เพื่อเสริมจิตใจ หรือ
เสริม ความเชื่อ ที่ งมงาย บ้านเมืองของเราจึง พบเห็นพระที่ทำผิดวินัย อยู่ เสมอ ฆารวาสที่เชื่อ
ในสี่งที่เมือ่ตัวเองเชื่อจะต้งอ โฆษณา นำพาความเชื่อ ให้ เป็นไปตามที่ ตัวเองเชื่อ
เราหลงทางกันหรือเปล่าครับ