<<=== [ ความรู้ ] 20 ขั้นตอน การตรวจสภาพ "รถมือสอง" ===>>

กระทู้สนทนา
รถมือสอง

          เป็นอีกหนึ่งบทความที่น่าสนใจ สำหรับท่านที่คิดจะครอบครองรถมือสอง รู้มาก เสียเปรียบน้อย ครับ รถมือสองสภาพดีดีก็มีเยอะ รถมือสองสภาพแย่ๆ ก็มีไม่น้อยเฉกเช่นเดียวกัน ดังนั้นก่อนที่จะไปเลือกดูรถมือสอง อ่านเก็บเกี่ยวความรู้เยอะๆ ครับ ( การดูรถมือสอง การเลือกรถมือสอง การตรวจสอบรถมือสอง ) มีแต่ได้ ไม่มีเสีย แล้วท่านจะได้ครอบครองรถมือสอง ที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับราคา

              
          20 ขั้นตอน การตรวจสภาพ รถมือสอง
          การตรวจสภาพภายในรถมือสองอย่างละเอียดถี่ถ้วนจะสามารถบอกเราได้ว่า เจ้าของเดิมใช้รถคันนี้อย่างไร หากภายในถูกปล่อยปะละเลยนั้นย่อมหมายความว่าส่วนอื่นๆ ก็คงจะถูกปล่อยปะละเลยเช่นกัน สิ่งที่ควรได้รับการ ตรวจสอบ มีดังต่อไปนี้

          1. เบาะที่นั่ง วัสดุหุ้มแผงประตู พรมปูพื้น เบาะที่นั่งจะบอกเราได้ว่า รถมือสองถูกใช้งานหนักเพียงใด ให้สังเกต ที่ความอ่อนยวบ หรือฉีกขาด หากเบาะที่นั่งถูกหุ้มไว้ควรสำรวจความเสียหายใต้สิ่งที่ห่อหุ้มด้วย โดยปกติเบาะที่นั่งด้าน คนขับจะอ่อนยวบมากที่สุด หากเบาะด้านคนนั่งเป็นเช่นเดียวกันแสดงว่า โดยปกติรถคันนั้นนั่ง 2 คน หากเบาะที่นั่งด้าน หลังมีสภาพยับเยินมาก ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า รถมือสองคันดังกล่าวอาจเคยเป็นรถแท็กซี่มาก่อน ในกรณีเบาะที่นั่งด้านหน้าและ ด้านหลังอ่อนยวบ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ารถมือสองคันดังกล่าวใช้ในครอบครัวใหญ่ นอกเหนือจากเบาะที่นั่งแล้วควรสำรวจ วัสดุหุ้มแผงประตู และพรมปูพื้นและใต้พรมปูพื้นด้วยเช่นกัน

          2. ทดสอบคันบังคับต่างๆ เช่น ลองเหยียบคันเร่ง คันเหยียบเบรก คันเหยียบเกียร์ รู้สึกว่าฝืดหรือหลวมเกินไปหรือไม่ มีเสียงปกติหรือไม่ ก้านปัดน้ำฝนทำงานทุกตำแหน่งหรือไม่ ก้านปรับไฟสูง-ต่ำทำงานปกติหรือไม่

          3.ตรวจสอบมาตรวัดระยะทาง โดยเฉลี่ยรถยนต์จะถูกใช้งานประมาณ 20,000-30,000 กิโลเมตรต่อปี ให้เอาจำนวนปีที่ใช้งานของรถคูณด้วยระยะทางใช้งานเฉลี่ยเปรียบเทียบกับมาตรวัดระยะทาง หากตัวเลข ต่ำผิดปกติ ให้สันนิษฐานว่าตัวเลขอาจถูกหมุนกลับหรือตัวเลขหมุนขึ้นรอบที่สอง ทั้งนี้ควรเปรียบเทียบ กับสภาพของรถยนต์และเครื่องยนต์ด้วย สิ่งหนึ่งที่พึงระลึกไว้เสมอคือรถที่ใช้งานในเมืองอาจมีอัตราการสึกหรอ ของเครื่องยนต์มากว่ารถที่ใช้งานทางไกล โดยอัตราประมาณ 3 ต่อ 1 เมื่อเปรียบเทียบกับระยะทางที่เท่ากัน เนื่องจากรถที่ใช้งานในเมืองต้องประสบปัญหาการจราจรติดขัด

          4.ตรวจการทำงานของอุปกรณ์และสัญญาณเตือนต่างๆ บนแผงหน้าปัทม์ โดยเปิดสวิทช์กุญแจไปตำแหน่ง I ณ ตำแหน่ง นี้นาฬิกา วิทยุ-เทป พร้อมที่จะทำงาน บิดสวิทช์ต่อไปตำแหน่ง II ที่ฉีดน้ำล้างกระจกก้านปัดน้ำฝน ไล่ฝ้ากระจกหลัง พัดลมระบายความเย็นในรถยนต์ พร้อมที่จะทำงาน สัญญาณไฟเตือนต่างๆ สว่างค้าง ยกเว้นสัญญาณไฟเตือน รูปเครื่องยนต์ ABS, SRS จะสว่างชั่งครู่แล้วดับ บิดสวิช์กุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์เมื่อเครื่องยนต์ติดสัญญาณไฟ ต่างๆ จะดับ ยกเว้นสัญญาณไฟบอกตำแหน่งเกียร์แบบอัตโนมัติ

          5.ตรวจสอบภายในลิ้นชักเก็บของ หาดูว่าคู่มือประจำรถและเอกสารสำคัญต่างๆ เช่นประกันภัย คู่มือจดทะเบียน อยู่หรือไม่เงื่อนไขการรับประกันยาวนานแค่ไหน หมดระยะเวลาประกันหรือยัง หากเราไม่ใช่ผู้ซื้อมือที่สองจริงๆ ก็อาจจะลองเก็บข้อมูลไปสอบถามเจ้าของรถมือแรกดูก็ได้ และหากตรวจสอบได้ว่าเป็นรถที่มาจากการเลหลัง หรือจากการประมูล (เนื่องจากถูกยึด) ให้พึงระลึกเอาไว้ว่าเหตุใดเจ้าของรถมือแรกถึงปล่อยให้ถูกยึด ที่สำคัญ ต้องตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถ และหมายเลขเครื่องยนต์ว่าตรงกับในเอกสารประจำรถหรือไม่ หากไม่ อาจ แสดงว่าเป็นรถขโมยมา หรือมาจากการประกอบรถสองคันเข้าด้วยกันก็ได้

          6.พิสูจน์กลิ่นภายในรถมือสองมีกลิ่นดินโคลน หรือกลิ่นสาบอาจหมายถึงมีรอยรั่วผุของห้องโดยสาร หรือที่แย่กว่านั้น  ก็อาจเคยจมน้ำมาก่อน ให้เลิกดูใต้พรมว่าบริเวณนั้นเป็นสนิมหรือไม่ตลอดทั้งควรดูบริเวณใต้เบาะที่นั่งด้วย

          7.ตรวจสอบประตูและหน้าต่างกระจกทุกบาน ตรวจดูว่าประตูแต่ละบานสึกหรอหรือผ่านการใช้งานหนักมาแค่ไหน ขอบบนประตูด้านคนขับซึ่งมักจะเป็นที่พักท้าวแขนคนขับนั้น สีซีดหรือสึกไปแค่ไหน อย่าลืมตรวจดูมือจับด้านใน ว่าผ่านการใช้งานมาแค่ไหน ตัวเลขกิโลบนหน้าปัทม์สัมพันธ์กับสภาพของรถหรือไม่ ถ้าหากต่ำผิดปกติอาจหมายถึง รถถูกใช้มาจนตัวเลขกิโลเมตรครบรอบมาแล้ว หรือมีการแก้ไขเลขวัดระยะทางมาก่อนแล้วก็ได้ ทดสอบหน้าต่าง ทุกบานไม่ว่ากระจกหน้าต่างจะเปิด/ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าหรือไม่กระตาม ให้ทดลองเปิดประตูทุกบานว่าเปิด/ปิด คล่องหรือไม่ มีบานใดค้างไม่สามารถเปิด/ปิดได้หรือไม่ นอกจากนี้ให้ตรวจสอบว่าที่นั่งสามารถเลื่อนเดินหน้า ถอยหลังได้อย่างที่ควร

          8.ตรวจสอบรอยหยดน้ำจากวัสดุบุใต้หลังคา หากมีรอยคราบน้ำตามวัสดุบุใต้หลังคา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า รถมือสองคันดังกล่าวมีการรั่วซึมของน้ำจากหลังคา ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากหลังคาผุเนื่องจากสนิม

          9.การตรวจสภาพภายนอกตัวรถ ดูรอบๆ ตัวรถ แล้วก้มลงดูว่าตัวรถมือสองขนานกับพื้นถนน ในระยะที่เท่ากันหรือไม่..หรือสูงต่ำไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือเอียงไปข้างหนึ่ง นั่นแสดว่าช่วงล่างมีปัญหาแน่นอน เดินตรวจสอบรอบๆ ตัวรถในที่สว่างๆ สังเกตรอบบุบ ระยะห่างของอุปกรณ์ต่างๆ ไฟหน้า ไฟหลัง กันชนหน้า กันชนหลัง ระยะห่างของอุปกรณ์เท่ากันหรือไม่ ถ้าไม่เท่ากันให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ารถคันดังกล่าวได้รับอุบัติเหตุ มาแล้ว และมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ดังกล่าว

          10.ขั้นต่อมาสังเกตดูละอองสี ว่ามีละอองสีติดที่หนึ่งที่ไดหรือไม่ ส่วนมากแล้วรถมือสองที่ทำสีใหม่ จะมีละอองสีติดอยู่ เช่นใต้กันชนหน้า กันชนหลัง ดูรางน้ำฝน สังเกตการผุกร่อน ดูช่องไฟระหว่างขอบประตู หน้าต่างต้องมีความสม่ำเสมอ ไม่ชิด ไม่ห่างไปข้างใด ข้างหนึ่ง

          11.เคาะฟังเสียง โดยการแอบไล่เคาะรถบางส่วนหรือรอบคันเพื่อฟังเสียง รถมือสองที่ทำสีแล้วมักจะมีการโป๊ว การโป๊วหนาย่อมหมายถึงอุบัติเหตุมาก เราสามารถเคาะดูเสียงที่แตกต่างกันได้ โดยการไล่เคาะฟังเสียงไปทั้งๆคัน

           12.ให้สังเกตไฟหน้า-ไฟท้าย ไฟเลี้ยง ไฟถอย ว่ามีความสว่างเท่ากันหรือไม่ ไฟซ้ายไฟขวาเก่าใหม่ต้องเท่ากันหรือไม่ หัวนอตฝาครอบต้องไม่เยิน เปิดฝากระโปงหน้ารถ ให้สังเกตดูว่ามีรอยเชื่อมหรือรอยอ๊อกหรือไม่ ดูหม้อน้ำ ถ้าเกิดการชนมา หม้อน้ำจะใหม่ เข็มขัดหม้อน้ำ พัดลมหม้อน้ำต้องเป็นของเก่า ดูสายพานไดชาจน์-แอร์ เบ้าหัวเทียน ดูตรงเบ้าซอฟเบอร์ โช๊คอัพ ถ้ามีการทำสีหรือรอยซ่อม จะต้องมีการชนมาอย่างรุนแรง ดูว่ามีลอยหยดน้ำมันตรงที่รถจอดหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนประเก็นใหม่ อาจต้องเสียเงินมากพอสมควร จะไม่คุ้มกับคุณที่จะซื้อรถคันนั้นไป

          13. ปิดฝากระโปงหน้า แล้วลองดึงสลักเปิดฝากระโปรง ว่ามีการดีดตัวดีหรือไม่ ถ้าไม่มีการดีดตัวของฝากระโปง ที่ดี รถมือสองคันนั้นผ่านการซ่อมมาอย่างแน่นอน

          14. ตรวจสอบรอบตัวถังให้ละเอียดโดยการจดบันทึก ว่ามีรอบบุบ รอยขีด หรือรอยสนิมหรือไม่ สังเกตุสีของรถมือสอง ว่าลักษณะสีกลมกลืนกันหรือไม่ ถ้าลักษณะของสีรถมือสองไม่มีความกลมกลืนกัน หรือเนื้อสีของตัวถังไม่เหมือนกัน ให้สันนิศฐานก่อนว่า รถมือสองคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุและทำสีรถใหม่

          15. ตรวจสอบโช๊คอัพ โดยกดที่มุมรถมือสองว่ามีการยุบของโช๊คอัพ แล้วค่อยๆ เด้งคืนตัวของโช็คอัพหรือไม่ ถ้ากดลงไปแล้ว โช๊คอัพเด้งขี้นทันที ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า โช๊คของรถมือสองคันดังกล่าวเริ่มเสียแล้ว

          16. ตรวจสอบช่วงล่างด้วยการก้มลงไปดูใต้ท้องรถมือสอง สังเกตแชสซี ว่ามีรอยต่อเติม หรือรอยเชื่อมต่อของเหล็กหรือเปล่า ถ้ามีให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ารถมือสองคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว

          17. ตรวจสอบใต้ท้องรถมือสองให้ละเอียด สังเกตุว่ามีคราบน้ำมัน หรือรอยรั่วซึม หรือไหลเยิ้มของน้ำมันในส่วนต่างๆ หรือเปล่า ถ้ามี ชิ้นส่วนนั้นย่อมเกิดการชำรุด ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนนั้นๆ

          18. การเลือกซื้อรถมือสอง ต้องคำนึงถึงเรื่องสภาพของตัวถังและช่วงล่างด้วย เพราะการซ่อมตัวถังหรือทำสีใหม่ท่านจะต้องใช้งบประมาณมาก ดังนั้นควรเลือกที่สภาพดีๆ มันจะได้ใช้งานได้นานๆ

          19. เครื่องยนต์ ถือเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อน สังเกตหาการซ่อมแซม สตารท์เครื่องฟังเสียง เปิดฝาเติมน้ำมันเครื่อง แล้วสังเกตไอน้ำมันเครื่อง เสียงท่อไอเสีย ควันจากท่อ หรือถ้ามีบุ๊กเซอร์วิสติดมา จะเป็นการดีครับ รองเปิดดูประวัติการซ่อม และดูด้วยว่าต้องต้องตรงกับทะเบียนรถ และเลขไมล์ในตัวรถ

          20. สุดท้าย ข้อนี้สำคัญมากครับ ต้องลองขับดูด้วยตัวเอง!!! เพื่อดูสมรรถภาพของรถมือสองว่าเป็นไปตามคำสาธยายของผู้ขายหรือไม่ อีกอย่างหนึ่ง ดูตัวเลขเรือนไมล์วัดระยะทางว่ามาก-น้อย ผิดปกติหรือไม่ ให้สูตรคำนวณโดยประมาณดังนี้ครับ 1 ปี เท่ากับ 25,000 Km.

          ข้อแนะนำเพิ่มเติม
          การเลือกซื้อรถมือสอง มีรายละเอียดย่อยๆ อีกหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง เช่น การตัดต่อตัวถังรถมือสอง การสวมทะเบียนรถมือสอง การทำเลขตัวถังขึ้นใหม่ การทำทะเบียนปลอม การดัดแปลงรถแท็กซี่ การซ่อมรถมือสองจากซากรถ เป็นต้น แต่การเลือกที่ดีที่สุด คือการหาผู้ที่เชี่ยวชาญดูรถและช่วยตัดสินใจให้ การซื้อจากเจ้าของรถมือสองที่รู้จักกัน เต๊นท์รถมือสองที่มีชื่อเสียงและไว้ใจได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วเต๊นท์รถมือสองส่วนมา มักจะเลือกซื้อรถมือสองที่สภาพดี เพื่อป้องกันการขาดทุน การขายไม่ได้ หรือปัญหาหลังการขายอยู่แล้ว เอาเป็นว่าจะซื้อรถมือสองสักคันต้องใจเย็นๆ เลือกให้ดี พิจารณาให้รอบคอบ ก่อนค่อยซื้อครับ

เรียนรู้เกี่ยวกับรถมือสอง เพื่อจะได้ครอบครองรถมือสองได้อย่างมีคุณภาพ โชคดี ครับ.
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่