ที่จริงตั้งใจจะตั้งเมื่อวานแต่พอดีผมหารีรันดูไม่ได้ ท่อก็โดนบล็อก บวกกับอาการเหนื่อยล้าเลยไม่ได้เขียนกระทู้รวบมาเขียนวันนี้เลยแล้วกันครับ
ปล 1 : ผมพยายามใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายนะครับเพราะผมก็ไม่ค่อยแม่นเรื่องศัพท์เฉพาะทางบาสมากนักผิดพลาดตรงไหนก็แนะนำได้ครับ
หลังจากเกมส์ที่แล้วที่ สเปอร์ส เปิดบ้านชนะ กริซลี่ย์ ไปอย่างไม่ยากเย็นมากนักแถมยังสามารถสร้างสถิติยิงสามแต้มได้ด้วยการยิงได้ถึง 14 ลูกเกมส์ที่สองนี้จึงมีความมั่นใจมากขึ้นเกมส์นี้มีความสำคัญพอสมควรเพราะรอบที่ผ่านมา สเปอร์ส เสียเกมส์สองให้กับ โกลเด้นสเตท ไปอย่างน่าอายและอย่างที่รู้กันว่าใครพลาดในบ้านนั่นเป็นข่าวไม่ค่อยดีมากนัก
Q 1 : เกมส์บุกติดขัดแบบเห็นได้ชัด
เริ่มมา ควอร์เตอร์ แรก สเปอร์ส ยังเครื่องร้อนจากเกมส์แรกโดยสามารถรันเกมส์ 0 - 6 และเกมส์รับที่อาศัย บอริส ดิเยาว์ สลับกับ ติอาโก้ สปิตเตอร์ เข้าไปก่อกวน Z - Bo แทบจะตลอดเวลานำมาซึ่งที่ Z - Bo ไม่สามารถเล่นเกมส์โพสเพลย์ที่ตัวเองเล่นได้ถนัด นำมาซึ่งเทรินโอเวอร์ในช่วงแรก โดยสเปอร์ส อาศัยจังหวะแบ็คคัท (การตัดช่องเข้าทำ) จาก คาไวน์ ลีโอนาร์ด ที่ทำได้ดีในช่วงแรกที่ใต้แป้นยังมีพื้นที่อยู่
แต่หลังจาก 4:06 สเปอร์ส กลับไม่สามารถทำคะแนนเพิ่มได้เลย ต้องชมเกมส์รับของ กริซลี่ย์ นำโดย มาร์ค กาซอล ที่ควอร์เตอร์แรกสามารถบล๊อคได้ถึงสามครั้ง ผนวกเข้ากับการยืนตำแหน่งของเกมส์รับ กริซลี่ย์ ที่เหมือนจะสามารถตัดลูกจัมพ์ชู้ตของ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ได้สนิทโดยหลังจากโดนตีตื้นขึ้นมา โค้ชป๊อปโปวิช แก้เกมส์โดยการส่งผู้เล่นที่ยิงระยะกลางได้ดีลง ทั้ง แมต บอนเนอร์ แกรี่ นีล และ มานู จิโนบิลี่ แต่ก็ไม่สามารถเจาะเข้าทำได้และโดนตีตื้นขึ้นมาจนจบ ควอร์เตอร์ แรกที่ 13 : 15
วิเคราะห์ ควอร์เตอร์แรก โค้ชคอลลิน แก้เกมส์มาดีมากโดยการไม่ให้ คอนลี่ย์ หมุนตามแกนตัวสกรีน(โดยให้ยืนรอหลังตัวสกรีน)และให้ตัวประกบคนสกรีนยืน ค้ำเพื่อกันอีกคนจึงสามารถกันการเล่นจัมพ์ชู๊ตระยะกลางได้ (เพราะ ปาร์คเกอร์ ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องยิงสามแต้มอยู่แล้ว)
เกมส์แรก (ปาร์คเกอร์ มีพื้นที่จากสกรีนโดย ดันแคน)
เกมส์สอง (จะเห็นว่า คอนลี่ย์ ไม่ได้หมุนตามตัวสกรีนอีกแล้ว)
เกมส์บุกของ สเปอร์ส จึงค่อนข้างติดขัด โค้ชป๊อปโปวิช แก้เกมส์โดยส่งตัวเลือกมือปืนลงมาแต่ไม่ได้ส่งผลดีกลับกัน กริซลี่ย์ ที่มีผู้เล่นไซส์สูงกว่ากลับใช้ประโยชน์จากส่วนนั้นเล่นงานจน เกมส์รับ สเปอร์ส รวนไปเลย (แต่มีหลายครั้งที่ บอนเนอร์ เล่นเกมส์รับได้ดีอยู่เหมือนกัน)
Q2 : ปาร์คเกอร์ เปิดพื้นที่ได้ดีขึ้น
ขึ้น ควอร์เตอร์สอง เกมส์เปิดแลกมากขึ้น และเป็น ปาร์คเกอร์ ที่เหมือนจะหาทางจนเจอโดยไม่พยายามฝืนเข้ายิงเองโดยดไรฟเข้าไปสร้างช่องว่างและคิ๊กบอลออกมาเพื่อให้เพื่อนยิงได้ดี ทางด้าน กริซลี่ย์ ก็เปลี่ยนไปยิงระยะกลางมากขึ้น (จากควอร์เตอร์แรกที่สกอร์มาจากวงในซะส่วนใหญ่) โดยเฉพาะ เบย์เลส ที่สร้างความแตกต่างได้ดี แต่หลังจาก คอนลี่ย์ โดนฟาล์วครั้งที่สาม (และต้องนั่งเพื่อเซฟตัวเอง) กริซลี่ย์ ก็ไม่สามารถรันเกมส์ตัวเองได้ถนัด (โดยทำเพิ่มได้แค่ 3 คะแนนหลังจาก คอนลี่ย์นั่ง) และเป็นฝั่ง สเปอร์ส เพียงฝั่งเดียวที่อาศัยช่องว่างในเกมส์รับเข้าเล่นงาน โดยเฉพาะสามแต้มจากมือปืนทั้งหลาย และจบควอร์เตอร์นี้ไปด้วยสกอร์นำ 31 : 46
วิเคราะห์ ควอร์เตอร์นี้กรรมการตัดสินผิดพลาดจังหวะ คอนลี่ย์ อย่างเห็นได้ชัดเมื่อ คอนลี่ย์ ต้องนั่ง กริซลี่ย์ ก็รันเกมส์ไม่เป็นระบบและไม่สามารถทำแต้มได้ถึง 5 นาที จาก 14 FG (ได้ลูกโทษจาก เบย์เลส ก่อนหมดเวลาไม่กี่วินาที)
Q3 : สเปอร์ส ยังเครื่องร้อน กริซลี่ย์ พยายามเล่นเกมส์ของตัวเอง
หลังจากได้พัก สเปอร์ส เปิดควอร์เตอร์ได้ดีและเล่นตามทางของตนเอง ทางด้าน กริซลี่ย์ กลับมาเล่นเกมส์โพสเพลย์ที่ถนัดอีกครั้งแต่ควอร์เตอร์นี้กลับกลายเป็น ดันแคน โดนเรียกฟาล์วแบบไร้สาเหตุ (โดนดึงกางเกงเอามือไปปัดโดนฟาล์ว) หลังจากนั้นก็โดนเรียกฟาล์วครั้งที่ 4 จึงต้องลงไปนั่งตามระเบียบ หลังจาก สเปอร์ส เสีย ดันแคน ไปพวกเขาก็โดน กริซลี่ย์ เจาะเข้าทำวงในได้สำเร็จแต่
พื้นที่ที่โดนโจมตีหลังจาก ดันแคน ไม่อยู่
สเปอร์ส ก็ตอบกลับโดยการเล่นลูกสามแต้มจากมือปืนที่มีอยู่ โดยเฉพาะ ปาร์คเกอร์ ที่เล่นได้ดีมากๆโดยควอร์เตอร์นี้เขาทำสถิติจ่ายบอลให้เพื่อนยิงสูงสุด(ในเพลย์ออฟ)ไปแล้วที่ 16 ลูก จบควอร์เตอร์ที่ 64 : 76
วิเคราะห์ สเปอร์ส เสีย ดันแคน ไปเร็วมากในควอร์เตอร์นี้ทำให้ สเปอร์ส เสียเปรียบการรีบาวน์ในเกมส์รุกและการรักษาพื้นที่ในเกมส์รับ แต่ก็ยังดีที่พวกเขาได้เกมส์วงนอกที่ยังร้อนแรงยิงช่วยไม่ให้ทีมโดนไล่ตามมาใกล้มาก
Q4 : ขาด ดันแคน เหมือนขาดใจ (และ มานู ที่เป็น มา มา มา นู นู นู !)
เริ่มควอร์เตอร์นี้มา สเปอร์ส ต้องเจอกับความยากลำบากมากยิ่งขึ้น กริซลี่ย์ พยายามเล่นหนักโดยวงใน โดยเฉพาะ Z - Bo ที่วันนี้รีบาวน์ได้ดีมากและยังมีลูกหนักเข้าทำโดยไล่มาเหลือเพียง 8 คะแนน สเปอร์ส เริ่มมีความผิดพลาดมากขึ้น และยิ่งหนักขึ้นหลังจาก ดันแคน โดนฟาล์วครั้งที่ 5 นั่นบีบให้ สเปอร์ส ต้องเล่นเกมส์วงนอก ซึ่ง ณ ตอนนี้ผู้เล่น สเปอร์ส ต่างดูล้าเพราะต้องเจอกับเกมส์วงในอันหนักหน่วง กริซลี่ย์ เริ่มมีโอกาสยิงวงนอกมากขึ้น (เพราะ ลีโอนาร์ด ต้องเข้าไปช่วยวงในยามไม่มี ดันแคน) เกมส์ยังตึงๆและ กริซลี่ย์ ไล่ตามมาเหลือเพียง 4 แต้มจาก Z - Bo และนั่นนำมาสู่เพลย์ที่แย่ที่สุดของ สเปอร์ส หลังเวลาเหลือไม่เพียง 30 วินาที มานู จิโนบิลี่ ทำเสียเทรินโอเวอร์จากจังหวะพยายามไม่เสีย Shot Clock Violation (ซึ่งจะโทษ มานู เพียงคนเดียวก็ไม่ได้เพราะ ปาร์คเกอร์ ฝืนไดรฟเข้าไปเพื่อจะเรียกฟาล์ว มาร์ค กาซอล แต่ไม่ได้จนต้องคิ๊กบอลมาที่ บอนเนอร์ (และต่อมาที่ มานู อีกที))
หลังจากนั้น มานู ก็ตัดสินใจผิดพลาดอีกครั้งโดยการรวบ โทนี่ อัลเลน จนโดนเรียกฟรีโทล 2 ลูกจาก Flagrant Foul จนโดนไล่มาเหลือ 83 : 85 และหลังจากนั้นยังมาโดน คอนลี่ย์ เลย์อัพสุดสำคัญเป็น 15 : 2 จากฝั่ง กริซลี่ย์ และทำให้เกมส์เสมอกันที่ 85 : 85 (โดย ควอร์เตอร์ สุดท้าย สเปอร์ส ทำได้เพียง 9 แต้มและเสียเทรินโอเวอร์ถึง 5 ครั้ง) สเปอร์ส ยิงปิดเกมส์ไม่ได้นำไปสู่การต่อเวลา
วิเคราะห์ โถ่ มานู
OT : ดันแคน ดันแคน และ ดันแคน
สเปอร์ส เปลี่ยนการเข้าทำจากการที่พวกเขาไม่สามารถยิงสามแต้มได้โดยพยายามจ่ายบอลเข้าวงในเพื่อเอาฟาล์ว มาร์ค กาซอล และ ดันแคน ก็ตอบรับได้เป็นอย่างดี 6 คะแนน 1 ออฟเฟ้นซีฟรีบาวน์ 1 บล๊อค ของ ดันแคน เขานำมาซึ่งชัยชนะแสนสำคัญ และผ่านนัดนี้มาได้อย่างยากลำบาก
โดยรวม
เกมส์นี้ สเปอร์ส เริ่มต้นได้ดีและเครื่องยังร้อนแรงต่อเนื่อง มาจนถึงควอร์เตอร์ 3 อยู่ดีๆพวกเขาก็หยุดเดินเครื่องไปซะอย่างงั้นเล่นเอาผมหายใจไม่ทั่วท้องทั้งๆที่นำมาตลอดจนไปถึงต่อเวลา ถ้าเกมส์นี้ไม่ได้ ทิม ดันแคน มายิงในช่วงท้ายๆเกมส์นี้คงเป็นเหมือนเกมส์ 4 กับ โกลเด้นสเตท แต่มันก็แสดงให้เห็นว่า กริซลี่ย์ สามารถแก้เกมส์ที่ทำแต้มให้ สเปอร์ส ได้มากมายเชื่อเลยว่าเกมส์หน้า ปาร์คเกอร์ จะลำบากขึ้นกว่านี้ และ เกมส์นี้ก็เป็นอีกเกมส์ที่เห็นได้เลยว่ายาม สเปอร์ส เจอเกมส์หนักๆพวกเขามักอ่อนแรงท้ายเกมส์เสมอ เกมส์นี้ผมไม่โทษ มานู นะครับนัดนี้เพราะเขาพยายามทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว การจะโทษคนๆเดียวดูจะเป็นการโหดร้ายเกินไป
ยังไงซีรีย์นี้ก็จบไม่ง่ายแน่ๆ ไม่ว่ายังไงก็ช่วยกันเชียร์ สเปอร์ส เป็นเพื่อนกันด้วยนะครับ ไว้พบกันกระทู้หน้าครับ
SAS : วิเคราะห์เกมส์ 2 WCF
ปล 1 : ผมพยายามใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายนะครับเพราะผมก็ไม่ค่อยแม่นเรื่องศัพท์เฉพาะทางบาสมากนักผิดพลาดตรงไหนก็แนะนำได้ครับ
หลังจากเกมส์ที่แล้วที่ สเปอร์ส เปิดบ้านชนะ กริซลี่ย์ ไปอย่างไม่ยากเย็นมากนักแถมยังสามารถสร้างสถิติยิงสามแต้มได้ด้วยการยิงได้ถึง 14 ลูกเกมส์ที่สองนี้จึงมีความมั่นใจมากขึ้นเกมส์นี้มีความสำคัญพอสมควรเพราะรอบที่ผ่านมา สเปอร์ส เสียเกมส์สองให้กับ โกลเด้นสเตท ไปอย่างน่าอายและอย่างที่รู้กันว่าใครพลาดในบ้านนั่นเป็นข่าวไม่ค่อยดีมากนัก
Q 1 : เกมส์บุกติดขัดแบบเห็นได้ชัด
เริ่มมา ควอร์เตอร์ แรก สเปอร์ส ยังเครื่องร้อนจากเกมส์แรกโดยสามารถรันเกมส์ 0 - 6 และเกมส์รับที่อาศัย บอริส ดิเยาว์ สลับกับ ติอาโก้ สปิตเตอร์ เข้าไปก่อกวน Z - Bo แทบจะตลอดเวลานำมาซึ่งที่ Z - Bo ไม่สามารถเล่นเกมส์โพสเพลย์ที่ตัวเองเล่นได้ถนัด นำมาซึ่งเทรินโอเวอร์ในช่วงแรก โดยสเปอร์ส อาศัยจังหวะแบ็คคัท (การตัดช่องเข้าทำ) จาก คาไวน์ ลีโอนาร์ด ที่ทำได้ดีในช่วงแรกที่ใต้แป้นยังมีพื้นที่อยู่
แต่หลังจาก 4:06 สเปอร์ส กลับไม่สามารถทำคะแนนเพิ่มได้เลย ต้องชมเกมส์รับของ กริซลี่ย์ นำโดย มาร์ค กาซอล ที่ควอร์เตอร์แรกสามารถบล๊อคได้ถึงสามครั้ง ผนวกเข้ากับการยืนตำแหน่งของเกมส์รับ กริซลี่ย์ ที่เหมือนจะสามารถตัดลูกจัมพ์ชู้ตของ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ได้สนิทโดยหลังจากโดนตีตื้นขึ้นมา โค้ชป๊อปโปวิช แก้เกมส์โดยการส่งผู้เล่นที่ยิงระยะกลางได้ดีลง ทั้ง แมต บอนเนอร์ แกรี่ นีล และ มานู จิโนบิลี่ แต่ก็ไม่สามารถเจาะเข้าทำได้และโดนตีตื้นขึ้นมาจนจบ ควอร์เตอร์ แรกที่ 13 : 15
วิเคราะห์ ควอร์เตอร์แรก โค้ชคอลลิน แก้เกมส์มาดีมากโดยการไม่ให้ คอนลี่ย์ หมุนตามแกนตัวสกรีน(โดยให้ยืนรอหลังตัวสกรีน)และให้ตัวประกบคนสกรีนยืน ค้ำเพื่อกันอีกคนจึงสามารถกันการเล่นจัมพ์ชู๊ตระยะกลางได้ (เพราะ ปาร์คเกอร์ ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องยิงสามแต้มอยู่แล้ว)
เกมส์แรก (ปาร์คเกอร์ มีพื้นที่จากสกรีนโดย ดันแคน)
เกมส์สอง (จะเห็นว่า คอนลี่ย์ ไม่ได้หมุนตามตัวสกรีนอีกแล้ว)
เกมส์บุกของ สเปอร์ส จึงค่อนข้างติดขัด โค้ชป๊อปโปวิช แก้เกมส์โดยส่งตัวเลือกมือปืนลงมาแต่ไม่ได้ส่งผลดีกลับกัน กริซลี่ย์ ที่มีผู้เล่นไซส์สูงกว่ากลับใช้ประโยชน์จากส่วนนั้นเล่นงานจน เกมส์รับ สเปอร์ส รวนไปเลย (แต่มีหลายครั้งที่ บอนเนอร์ เล่นเกมส์รับได้ดีอยู่เหมือนกัน)
Q2 : ปาร์คเกอร์ เปิดพื้นที่ได้ดีขึ้น
ขึ้น ควอร์เตอร์สอง เกมส์เปิดแลกมากขึ้น และเป็น ปาร์คเกอร์ ที่เหมือนจะหาทางจนเจอโดยไม่พยายามฝืนเข้ายิงเองโดยดไรฟเข้าไปสร้างช่องว่างและคิ๊กบอลออกมาเพื่อให้เพื่อนยิงได้ดี ทางด้าน กริซลี่ย์ ก็เปลี่ยนไปยิงระยะกลางมากขึ้น (จากควอร์เตอร์แรกที่สกอร์มาจากวงในซะส่วนใหญ่) โดยเฉพาะ เบย์เลส ที่สร้างความแตกต่างได้ดี แต่หลังจาก คอนลี่ย์ โดนฟาล์วครั้งที่สาม (และต้องนั่งเพื่อเซฟตัวเอง) กริซลี่ย์ ก็ไม่สามารถรันเกมส์ตัวเองได้ถนัด (โดยทำเพิ่มได้แค่ 3 คะแนนหลังจาก คอนลี่ย์นั่ง) และเป็นฝั่ง สเปอร์ส เพียงฝั่งเดียวที่อาศัยช่องว่างในเกมส์รับเข้าเล่นงาน โดยเฉพาะสามแต้มจากมือปืนทั้งหลาย และจบควอร์เตอร์นี้ไปด้วยสกอร์นำ 31 : 46
วิเคราะห์ ควอร์เตอร์นี้กรรมการตัดสินผิดพลาดจังหวะ คอนลี่ย์ อย่างเห็นได้ชัดเมื่อ คอนลี่ย์ ต้องนั่ง กริซลี่ย์ ก็รันเกมส์ไม่เป็นระบบและไม่สามารถทำแต้มได้ถึง 5 นาที จาก 14 FG (ได้ลูกโทษจาก เบย์เลส ก่อนหมดเวลาไม่กี่วินาที)
Q3 : สเปอร์ส ยังเครื่องร้อน กริซลี่ย์ พยายามเล่นเกมส์ของตัวเอง
หลังจากได้พัก สเปอร์ส เปิดควอร์เตอร์ได้ดีและเล่นตามทางของตนเอง ทางด้าน กริซลี่ย์ กลับมาเล่นเกมส์โพสเพลย์ที่ถนัดอีกครั้งแต่ควอร์เตอร์นี้กลับกลายเป็น ดันแคน โดนเรียกฟาล์วแบบไร้สาเหตุ (โดนดึงกางเกงเอามือไปปัดโดนฟาล์ว) หลังจากนั้นก็โดนเรียกฟาล์วครั้งที่ 4 จึงต้องลงไปนั่งตามระเบียบ หลังจาก สเปอร์ส เสีย ดันแคน ไปพวกเขาก็โดน กริซลี่ย์ เจาะเข้าทำวงในได้สำเร็จแต่
พื้นที่ที่โดนโจมตีหลังจาก ดันแคน ไม่อยู่
สเปอร์ส ก็ตอบกลับโดยการเล่นลูกสามแต้มจากมือปืนที่มีอยู่ โดยเฉพาะ ปาร์คเกอร์ ที่เล่นได้ดีมากๆโดยควอร์เตอร์นี้เขาทำสถิติจ่ายบอลให้เพื่อนยิงสูงสุด(ในเพลย์ออฟ)ไปแล้วที่ 16 ลูก จบควอร์เตอร์ที่ 64 : 76
วิเคราะห์ สเปอร์ส เสีย ดันแคน ไปเร็วมากในควอร์เตอร์นี้ทำให้ สเปอร์ส เสียเปรียบการรีบาวน์ในเกมส์รุกและการรักษาพื้นที่ในเกมส์รับ แต่ก็ยังดีที่พวกเขาได้เกมส์วงนอกที่ยังร้อนแรงยิงช่วยไม่ให้ทีมโดนไล่ตามมาใกล้มาก
Q4 : ขาด ดันแคน เหมือนขาดใจ (และ มานู ที่เป็น มา มา มา นู นู นู !)
เริ่มควอร์เตอร์นี้มา สเปอร์ส ต้องเจอกับความยากลำบากมากยิ่งขึ้น กริซลี่ย์ พยายามเล่นหนักโดยวงใน โดยเฉพาะ Z - Bo ที่วันนี้รีบาวน์ได้ดีมากและยังมีลูกหนักเข้าทำโดยไล่มาเหลือเพียง 8 คะแนน สเปอร์ส เริ่มมีความผิดพลาดมากขึ้น และยิ่งหนักขึ้นหลังจาก ดันแคน โดนฟาล์วครั้งที่ 5 นั่นบีบให้ สเปอร์ส ต้องเล่นเกมส์วงนอก ซึ่ง ณ ตอนนี้ผู้เล่น สเปอร์ส ต่างดูล้าเพราะต้องเจอกับเกมส์วงในอันหนักหน่วง กริซลี่ย์ เริ่มมีโอกาสยิงวงนอกมากขึ้น (เพราะ ลีโอนาร์ด ต้องเข้าไปช่วยวงในยามไม่มี ดันแคน) เกมส์ยังตึงๆและ กริซลี่ย์ ไล่ตามมาเหลือเพียง 4 แต้มจาก Z - Bo และนั่นนำมาสู่เพลย์ที่แย่ที่สุดของ สเปอร์ส หลังเวลาเหลือไม่เพียง 30 วินาที มานู จิโนบิลี่ ทำเสียเทรินโอเวอร์จากจังหวะพยายามไม่เสีย Shot Clock Violation (ซึ่งจะโทษ มานู เพียงคนเดียวก็ไม่ได้เพราะ ปาร์คเกอร์ ฝืนไดรฟเข้าไปเพื่อจะเรียกฟาล์ว มาร์ค กาซอล แต่ไม่ได้จนต้องคิ๊กบอลมาที่ บอนเนอร์ (และต่อมาที่ มานู อีกที))
หลังจากนั้น มานู ก็ตัดสินใจผิดพลาดอีกครั้งโดยการรวบ โทนี่ อัลเลน จนโดนเรียกฟรีโทล 2 ลูกจาก Flagrant Foul จนโดนไล่มาเหลือ 83 : 85 และหลังจากนั้นยังมาโดน คอนลี่ย์ เลย์อัพสุดสำคัญเป็น 15 : 2 จากฝั่ง กริซลี่ย์ และทำให้เกมส์เสมอกันที่ 85 : 85 (โดย ควอร์เตอร์ สุดท้าย สเปอร์ส ทำได้เพียง 9 แต้มและเสียเทรินโอเวอร์ถึง 5 ครั้ง) สเปอร์ส ยิงปิดเกมส์ไม่ได้นำไปสู่การต่อเวลา
วิเคราะห์ โถ่ มานู
OT : ดันแคน ดันแคน และ ดันแคน
สเปอร์ส เปลี่ยนการเข้าทำจากการที่พวกเขาไม่สามารถยิงสามแต้มได้โดยพยายามจ่ายบอลเข้าวงในเพื่อเอาฟาล์ว มาร์ค กาซอล และ ดันแคน ก็ตอบรับได้เป็นอย่างดี 6 คะแนน 1 ออฟเฟ้นซีฟรีบาวน์ 1 บล๊อค ของ ดันแคน เขานำมาซึ่งชัยชนะแสนสำคัญ และผ่านนัดนี้มาได้อย่างยากลำบาก
โดยรวม
เกมส์นี้ สเปอร์ส เริ่มต้นได้ดีและเครื่องยังร้อนแรงต่อเนื่อง มาจนถึงควอร์เตอร์ 3 อยู่ดีๆพวกเขาก็หยุดเดินเครื่องไปซะอย่างงั้นเล่นเอาผมหายใจไม่ทั่วท้องทั้งๆที่นำมาตลอดจนไปถึงต่อเวลา ถ้าเกมส์นี้ไม่ได้ ทิม ดันแคน มายิงในช่วงท้ายๆเกมส์นี้คงเป็นเหมือนเกมส์ 4 กับ โกลเด้นสเตท แต่มันก็แสดงให้เห็นว่า กริซลี่ย์ สามารถแก้เกมส์ที่ทำแต้มให้ สเปอร์ส ได้มากมายเชื่อเลยว่าเกมส์หน้า ปาร์คเกอร์ จะลำบากขึ้นกว่านี้ และ เกมส์นี้ก็เป็นอีกเกมส์ที่เห็นได้เลยว่ายาม สเปอร์ส เจอเกมส์หนักๆพวกเขามักอ่อนแรงท้ายเกมส์เสมอ เกมส์นี้ผมไม่โทษ มานู นะครับนัดนี้เพราะเขาพยายามทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว การจะโทษคนๆเดียวดูจะเป็นการโหดร้ายเกินไป
ยังไงซีรีย์นี้ก็จบไม่ง่ายแน่ๆ ไม่ว่ายังไงก็ช่วยกันเชียร์ สเปอร์ส เป็นเพื่อนกันด้วยนะครับ ไว้พบกันกระทู้หน้าครับ