เบื้องหลัง"เกมพลิก" "บัญญัติ"คว้าชัย นั่งหัวหน้า"ปชป."
ภายหลังจากรู้ผลคะแนนเลือกตั้งหัวหน้าพรรคว่าพ่ายแพ้ต่อ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อย่างเฉียดฉิว ด้วยคะแนนรวมร้อยละ 45.2679 ต่อ ร้อยละ 48.0530 ทีมงานของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ทำการประเมินรายชื่อของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง สรุปว่าคะแนนเสียงที่ประเมินไว้ตั้งแต่ต้นไม่เป็นไปตามคาด
โดยเฉพาะผู้มีสิทธิลงคะแนนในสัดส่วนของ ส.ส. ที่เดิมคาดว่าจะได้ 70 เสียง แต่ได้มาเพียง 59 เสียง หายไปกว่า 10 เสียง
ทีมงานประเมินว่า หากผู้ใช้สิทธิในสัดส่วน ส.ส.ลงให้นายอภิสิทธิ์อีก 4 คน ก็จะทำให้คะแนนฝั่งนายบัญญัติหายไป 4 คน เมื่อนำสัดส่วนมาคำนวณจะทำให้คะแนนนายอภิสิทธิ์ชนะนายบัญญัติ ทำให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กุนซือคนสำคัญของนายอภิสิทธิ์แสดงความไม่พอใจ จึงพยายามเช็กจำนวน ส.ส.ที่รับปากว่าจะลงคะแนนให้นายอภิสิทธิ์ แต่กลับไม่ยอมทำตามคำสัญญาว่ามีใครบ้าง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบคาดว่าผู้ที่เปลี่ยนใจไปลงคะแนนให้นายบัญญัติ ประกอบด้วย พ.ต.ท.วิจิตร สุวิทย์ ส.ส.สงขลา นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิษฐ์ถาวร ส.ส.กาญจนบุรี นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง นายสุวรรณ กู้สุจริต ส.ส.ตรัง นอกจากนั้น ส.ส.ชุมพรที่รับปากไว้ก็เปลี่ยนใจ ประกอบด้วย นายสุวโรช พะลัง นายสุชาติ แก้วนาโพธิ์ นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย
นอกจากนั้น ทีมงานนายอภิสิทธิ์ยังประเมินด้วยว่า ในส่วนบัตรเสียในสัดส่วนของ ส.ส.จำนวน 3 ใบ ซึ่งคาดว่าเกิดการเปลี่ยนใจ แต่ไม่กล้าลงคะแนนจึงทำให้บัตรเสีย คาดว่าจะเป็นของ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร น.ส.นริศรา อดิเทพวรพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และยังมี ส.ส.ปัตตานีอีก 3 คนที่หันไปเทคะแนนให้นายอาทิตย์ คือ นายสามารถ เจ๊ะนา พ.ต.ท.เจ๊ะอิสมาแอ เจ๊ะโมง นายวัยโรจน์ พิพิธภักดี
ในสัดส่วนของประธานสาขาพรรคที่ทีมงานนายอภิสิทธิ์ประเมินไว้ 80 เสียง และได้คะแนนมา 79 เสียง ถือว่าใกล้เคียง เพียงแต่สาขาพรรคที่จะเลือก นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ กลับตัดสินใจเทคะแนนให้นายบัญญัติ จนทำให้คะแนนเสียงของนายอาทิตย์ลดลงกว่าที่ประเมินไว้ และไปเพิ่มสัดส่วนให้นายบัญญัติเกินกว่าที่ประเมินไว้ตั้งแต่ต้น
หลังทราบผลคะแนน นายอาทิตย์ที่ได้รับคะแนนเสียงต่ำกว่าที่ประเมินถึงกับอารมณ์เสียและเดินออกจากห้องประชุม ก่อนจะเดินทางออกจากศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในทันที พร้อมแจ้งนายอภิสิทธิ์ว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในพรรค
นายอาทิตย์ระบายความรู้สึกกับเพื่อน ส.ส.ว่า "ผมรับไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ไม่ต้องมาแสดงวิสัยทัศน์ หรือเสนอนโยบายกันแล้ว เพราะการแข่งขันสองฝ่ายคิดแต่จะเอาชนะกัน แต่ชนะกันด้วยวิธีการอุ้มกักตัว ยิงกระสุน"
นอกจากนี้ เมื่อคืนวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวระบุว่า ทีมงานของนายบัญญัติได้พยายามดึงคะแนนสัดส่วนประธานสาขาพรรคจากนายอาทิตย์โดยเฉพาะภาคกลางไปเก็บตัวที่โรงแรมแมนดาริน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ
โดย นายมนตรี ปานน้อย ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และประธานสาขาพรรคบางส่วน ได้ยอมรับกับนายสุเทพ นายอาทิตย์ว่า ถูกทีมของนายบัญญัติดึงตัวไปจริง ทำให้นายอาทิตย์ถึงกับอารมณ์เสียอย่างมาก และประกาศว่าจะถอนตัว
แต่ทีมงานของนายอภิสิทธิ์ได้ขอร้องไว้!!
.....................................
จุดประสงค์เพื่อ .. นำมาให้ดู ลีลา ลูกเล่น การเลือกตั้งภายในของพรรคการเมืองเก่าแก่ครับ


นักการเมืองท้องถิ่นท่านใด เห็นควรต่อยอดก็เชิญครับ

ลืมอ้างอิง : มติชน - วันจันทร์ ที่ 21 เมษายน 2003
เก็บตกข่าวเก่า ..เบื้องหลัง"เกมพลิก" "บัญญัติ"คว้าชัย นั่งหัวหน้า"ปชป."
ภายหลังจากรู้ผลคะแนนเลือกตั้งหัวหน้าพรรคว่าพ่ายแพ้ต่อ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อย่างเฉียดฉิว ด้วยคะแนนรวมร้อยละ 45.2679 ต่อ ร้อยละ 48.0530 ทีมงานของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ทำการประเมินรายชื่อของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง สรุปว่าคะแนนเสียงที่ประเมินไว้ตั้งแต่ต้นไม่เป็นไปตามคาด
โดยเฉพาะผู้มีสิทธิลงคะแนนในสัดส่วนของ ส.ส. ที่เดิมคาดว่าจะได้ 70 เสียง แต่ได้มาเพียง 59 เสียง หายไปกว่า 10 เสียง
ทีมงานประเมินว่า หากผู้ใช้สิทธิในสัดส่วน ส.ส.ลงให้นายอภิสิทธิ์อีก 4 คน ก็จะทำให้คะแนนฝั่งนายบัญญัติหายไป 4 คน เมื่อนำสัดส่วนมาคำนวณจะทำให้คะแนนนายอภิสิทธิ์ชนะนายบัญญัติ ทำให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กุนซือคนสำคัญของนายอภิสิทธิ์แสดงความไม่พอใจ จึงพยายามเช็กจำนวน ส.ส.ที่รับปากว่าจะลงคะแนนให้นายอภิสิทธิ์ แต่กลับไม่ยอมทำตามคำสัญญาว่ามีใครบ้าง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบคาดว่าผู้ที่เปลี่ยนใจไปลงคะแนนให้นายบัญญัติ ประกอบด้วย พ.ต.ท.วิจิตร สุวิทย์ ส.ส.สงขลา นายไพบูลย์ พิมพ์พิสิษฐ์ถาวร ส.ส.กาญจนบุรี นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง นายสุวรรณ กู้สุจริต ส.ส.ตรัง นอกจากนั้น ส.ส.ชุมพรที่รับปากไว้ก็เปลี่ยนใจ ประกอบด้วย นายสุวโรช พะลัง นายสุชาติ แก้วนาโพธิ์ นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย
นอกจากนั้น ทีมงานนายอภิสิทธิ์ยังประเมินด้วยว่า ในส่วนบัตรเสียในสัดส่วนของ ส.ส.จำนวน 3 ใบ ซึ่งคาดว่าเกิดการเปลี่ยนใจ แต่ไม่กล้าลงคะแนนจึงทำให้บัตรเสีย คาดว่าจะเป็นของ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร น.ส.นริศรา อดิเทพวรพันธุ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และยังมี ส.ส.ปัตตานีอีก 3 คนที่หันไปเทคะแนนให้นายอาทิตย์ คือ นายสามารถ เจ๊ะนา พ.ต.ท.เจ๊ะอิสมาแอ เจ๊ะโมง นายวัยโรจน์ พิพิธภักดี
ในสัดส่วนของประธานสาขาพรรคที่ทีมงานนายอภิสิทธิ์ประเมินไว้ 80 เสียง และได้คะแนนมา 79 เสียง ถือว่าใกล้เคียง เพียงแต่สาขาพรรคที่จะเลือก นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ กลับตัดสินใจเทคะแนนให้นายบัญญัติ จนทำให้คะแนนเสียงของนายอาทิตย์ลดลงกว่าที่ประเมินไว้ และไปเพิ่มสัดส่วนให้นายบัญญัติเกินกว่าที่ประเมินไว้ตั้งแต่ต้น
หลังทราบผลคะแนน นายอาทิตย์ที่ได้รับคะแนนเสียงต่ำกว่าที่ประเมินถึงกับอารมณ์เสียและเดินออกจากห้องประชุม ก่อนจะเดินทางออกจากศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในทันที พร้อมแจ้งนายอภิสิทธิ์ว่าจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในพรรค
นายอาทิตย์ระบายความรู้สึกกับเพื่อน ส.ส.ว่า "ผมรับไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ไม่ต้องมาแสดงวิสัยทัศน์ หรือเสนอนโยบายกันแล้ว เพราะการแข่งขันสองฝ่ายคิดแต่จะเอาชนะกัน แต่ชนะกันด้วยวิธีการอุ้มกักตัว ยิงกระสุน"
นอกจากนี้ เมื่อคืนวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา มีรายงานข่าวระบุว่า ทีมงานของนายบัญญัติได้พยายามดึงคะแนนสัดส่วนประธานสาขาพรรคจากนายอาทิตย์โดยเฉพาะภาคกลางไปเก็บตัวที่โรงแรมแมนดาริน ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ
โดย นายมนตรี ปานน้อย ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และประธานสาขาพรรคบางส่วน ได้ยอมรับกับนายสุเทพ นายอาทิตย์ว่า ถูกทีมของนายบัญญัติดึงตัวไปจริง ทำให้นายอาทิตย์ถึงกับอารมณ์เสียอย่างมาก และประกาศว่าจะถอนตัว
แต่ทีมงานของนายอภิสิทธิ์ได้ขอร้องไว้!!
.....................................
จุดประสงค์เพื่อ .. นำมาให้ดู ลีลา ลูกเล่น การเลือกตั้งภายในของพรรคการเมืองเก่าแก่ครับ
นักการเมืองท้องถิ่นท่านใด เห็นควรต่อยอดก็เชิญครับ
ลืมอ้างอิง : มติชน - วันจันทร์ ที่ 21 เมษายน 2003