เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 พ.ค. ที่โรงแรมบางกอกชฏา นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา (สนย.) ได้เปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 ในโครงการสำรวจออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนอโศกมนตรี จากถนนพระราม 9 ถึงถนนสุขุมวิท นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้นำเสนอผลการศึกษาโครงการในด้านต่างๆ ซึ่งถนนอโศกมนตรีเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายถนนรัชดาภิเษก ซึ่งปัญหาหลักของถนนอโศกมนตรีคือเป็นคอขวด มี เพียง 4 ช่อง ในขณะที่ถนนวงแหวนรัชดาภิเษกช่วงอื่นๆมี 6-8 ช่อง ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดเกือบตลอดทั้งวันระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร รถสามารถทำความเร็วได้เพียง 7-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งในแต่ละวันมีรถผ่านประมาณ 100,000 คัน แต่ถนนรองรับได้เพียง 35,000 คันเท่านั้น ที่เหลือต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
สำหรับแนวทางแก้ไขที่ศึกษาไว้มีทั้งขยายช่องจราจร หรือทำอุโมงค์ทางลอด ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยมากเพราะค่าเวนคืนสูงมาก ดังนั้นแนวทางที่ดีที่สุด คือ สร้างเส้นทางยกระดับ 4 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง และค่าเวนคืนที่ดินในโครงการนี้รวมประมาณ 4,500 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประชาชนที่ใช้เส้นทางเห็นด้วยกับโครงการ แต่ประชาชนในพื้นที่ยังมีข้อกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดระหว่างก่อสร้าง โดยในเดือนมิ.ย.จะเปิดรับฟังความเห็นครั้งที่ 3 อีกครั้ง จากนั้นจะเร่งทำสรุปผลการศึกษา รับฟังความเห็นให้ผู้บริหาร กทม.ทราบ ใน เดือนต.ค.นี้
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่โรงแรมบางกอกชฎา สำนักการโยธา ก็จัดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่2 โครงการจ้างที่ปรึกษาศึกษาเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายถนนสายหลักกับถนนวงแหวน โดยแก้ปัญหาการจราจรบริเวณ แยก ณ ระนอง และแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา กล่าวว่า เส้นทางถนนวงแหวนรัชดาภิเษก มีจุดตัดมากมายและเป็นแนวเส้นทางสำคัญในการแก้ปัญหาการจราจร โดยเฉพาะ ที่ห้าแยก ณ ระนอง และแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ เป็นแยกจุดตัดมีลักษณะคอขวดขนาดใหญ่ของวงแหวนรัชดาภิเษก รวมทั้งบนแนวถนนอโศกมนตรี โดยทุกโครงการสนย.ได้ศึกษาและคัดเลือกรูปแบบที่จะดำเนินการที่เหมาะสมที่สุด โดยที่แยก ณ ระนอง และแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ เป็น 2 โครงการที่ก่อสร้างบนแนวเขตทางทั้งหมด ไม่มีการเวนคืน โดยจะสรุปรายละเอียดโครงการเพื่อเสนอผู้บริหารพิจารณาได้ประมาณเดือน ต.ค. นี้ จัดลำดับความสำคัญการก่อสร้างต่อไป
ปัจจุบันการจราจรในวงแหวนรัชดาโดยเฉพาะช่วงจากตัดสุขุมวิท ถึงตัดถนนพระราม9 ปริมาณรถหนาแน่นติดขัดมากขึ้น โดยในช่วงเร่งด่วนเช้าใช้ความเร็วได้เพียง 7 – 15 กิโลเมตรต่อชม. ในบางวันรถเดินทางด้วยความเร็วต่ำกว่า 7 กิโลเมตรต่อชม. ซึ่งถือว่าติดขัดความเร็วต่ำกว่ามาตรฐานมาก เพราะความเร็วในการเดินเท้าอยู่ที่ 5 กิโลเมตรต่อชม. จำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต และใน 2 โครงการที่ได้ศึกษานี้ไม่มีการเวนคืน สามารถเริ่มงานได้เร็วเมื่อมีความพร้อมในเรื่องงบประมาณ
สำหรับผลการคัดเลือกรูปแบบที่เหมาะสมมีดังนี้ บริเวณแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ ก่อสร้างเป็นอุโมงค์ลอดทางแยกขนาด 4 ช่อง ระยะทาง 1.5กม. ในแนวของถนนรัชดาภิเษก โดยปากอุโมงค์ด้านเหนือเหลือช่องจราจรข้างปากอุโมงค์ฝั่งละ 3 ช่อง รถที่ขึ้นจากอุโมงค์ไปกลับรถใต้สะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่ ปากอุโมงค์อีกด้านอยู่เลยเดอะมอลล์ออกไป ช่องจราจรบริเวณข้างปากอุโมงค์จะเหลือฝั่งละ 2 ช่อง โดยรถบีอาร์ทีที่ผ่านทางแยกนี้จะยังคงเลี้ยวขวาที่ทางแยกได้เหมือนเดิมเพื่อเข้าสถานีราชพฤกษ์ ค่าก่อสร้างประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่วนที่ แยก ณ ระนอง ก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องความยาว 2.5 กิโลเมตร โดยจากถนนพระราม3 จะเป็นโครงสร้างยกระดับข้ามสะพานข้ามแยกทางรถไฟ ข้ามทางด่วนขั้นที่1 จากนั้นข้ามแยก ณ ระนอง ข้ามแยกสุนทรโกษา ข้ามถนนพระราม4 มาเชื่อมกับสะพานของเดิมที่มีอยู่ (สะพานข้ามแยกสุนทรโกษา-แยกคลองเตย) ถึงศูนย์สิริกิติ์ งบประมาณก่อสร้างราว 2,500 ล้านบาท รวม2โครงการ 4,000 ล้านบาท.
http://www.dailynews.co.th/bkk/206339 
กทม. เตรียมแก้รถติดวงแหวนรัชดาฯ ทำอุโมงค์ลอดแยกราชพฤกษ์ ทำทางยกระดับอโศกแยกณระนอง
ซึ่งในแต่ละวันมีรถผ่านประมาณ 100,000 คัน แต่ถนนรองรับได้เพียง 35,000 คันเท่านั้น ที่เหลือต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น
สำหรับแนวทางแก้ไขที่ศึกษาไว้มีทั้งขยายช่องจราจร หรือทำอุโมงค์ทางลอด ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยมากเพราะค่าเวนคืนสูงมาก ดังนั้นแนวทางที่ดีที่สุด คือ สร้างเส้นทางยกระดับ 4 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร งบประมาณในการก่อสร้าง และค่าเวนคืนที่ดินในโครงการนี้รวมประมาณ 4,500 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาประชาชนที่ใช้เส้นทางเห็นด้วยกับโครงการ แต่ประชาชนในพื้นที่ยังมีข้อกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดระหว่างก่อสร้าง โดยในเดือนมิ.ย.จะเปิดรับฟังความเห็นครั้งที่ 3 อีกครั้ง จากนั้นจะเร่งทำสรุปผลการศึกษา รับฟังความเห็นให้ผู้บริหาร กทม.ทราบ ใน เดือนต.ค.นี้
ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่โรงแรมบางกอกชฎา สำนักการโยธา ก็จัดการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่2 โครงการจ้างที่ปรึกษาศึกษาเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายถนนสายหลักกับถนนวงแหวน โดยแก้ปัญหาการจราจรบริเวณ แยก ณ ระนอง และแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา กล่าวว่า เส้นทางถนนวงแหวนรัชดาภิเษก มีจุดตัดมากมายและเป็นแนวเส้นทางสำคัญในการแก้ปัญหาการจราจร โดยเฉพาะ ที่ห้าแยก ณ ระนอง และแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ เป็นแยกจุดตัดมีลักษณะคอขวดขนาดใหญ่ของวงแหวนรัชดาภิเษก รวมทั้งบนแนวถนนอโศกมนตรี โดยทุกโครงการสนย.ได้ศึกษาและคัดเลือกรูปแบบที่จะดำเนินการที่เหมาะสมที่สุด โดยที่แยก ณ ระนอง และแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ เป็น 2 โครงการที่ก่อสร้างบนแนวเขตทางทั้งหมด ไม่มีการเวนคืน โดยจะสรุปรายละเอียดโครงการเพื่อเสนอผู้บริหารพิจารณาได้ประมาณเดือน ต.ค. นี้ จัดลำดับความสำคัญการก่อสร้างต่อไป
ปัจจุบันการจราจรในวงแหวนรัชดาโดยเฉพาะช่วงจากตัดสุขุมวิท ถึงตัดถนนพระราม9 ปริมาณรถหนาแน่นติดขัดมากขึ้น โดยในช่วงเร่งด่วนเช้าใช้ความเร็วได้เพียง 7 – 15 กิโลเมตรต่อชม. ในบางวันรถเดินทางด้วยความเร็วต่ำกว่า 7 กิโลเมตรต่อชม. ซึ่งถือว่าติดขัดความเร็วต่ำกว่ามาตรฐานมาก เพราะความเร็วในการเดินเท้าอยู่ที่ 5 กิโลเมตรต่อชม. จำเป็นที่จะต้องดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต และใน 2 โครงการที่ได้ศึกษานี้ไม่มีการเวนคืน สามารถเริ่มงานได้เร็วเมื่อมีความพร้อมในเรื่องงบประมาณ
สำหรับผลการคัดเลือกรูปแบบที่เหมาะสมมีดังนี้ บริเวณแยกรัชดา-ราชพฤกษ์ ก่อสร้างเป็นอุโมงค์ลอดทางแยกขนาด 4 ช่อง ระยะทาง 1.5กม. ในแนวของถนนรัชดาภิเษก โดยปากอุโมงค์ด้านเหนือเหลือช่องจราจรข้างปากอุโมงค์ฝั่งละ 3 ช่อง รถที่ขึ้นจากอุโมงค์ไปกลับรถใต้สะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่ ปากอุโมงค์อีกด้านอยู่เลยเดอะมอลล์ออกไป ช่องจราจรบริเวณข้างปากอุโมงค์จะเหลือฝั่งละ 2 ช่อง โดยรถบีอาร์ทีที่ผ่านทางแยกนี้จะยังคงเลี้ยวขวาที่ทางแยกได้เหมือนเดิมเพื่อเข้าสถานีราชพฤกษ์ ค่าก่อสร้างประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่วนที่ แยก ณ ระนอง ก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องความยาว 2.5 กิโลเมตร โดยจากถนนพระราม3 จะเป็นโครงสร้างยกระดับข้ามสะพานข้ามแยกทางรถไฟ ข้ามทางด่วนขั้นที่1 จากนั้นข้ามแยก ณ ระนอง ข้ามแยกสุนทรโกษา ข้ามถนนพระราม4 มาเชื่อมกับสะพานของเดิมที่มีอยู่ (สะพานข้ามแยกสุนทรโกษา-แยกคลองเตย) ถึงศูนย์สิริกิติ์ งบประมาณก่อสร้างราว 2,500 ล้านบาท รวม2โครงการ 4,000 ล้านบาท.
http://www.dailynews.co.th/bkk/206339