หลังจากที่กทม.ลงทุนใช้เงินกว่า200ล้านบาทปรับปรุงสนามหลวง
ผมเห็นเทศกาลงานสัปดาห์วันวิสาขะ มาปีนี้เป็นปีที่สอง ปีที่แล้วจัดงานปูพื้นกระดานตั้งเต๊นต์กัน2สัปดาห์ พื้นหญ้าที่ปูไว้ก็ปูทับด้วยไม้กระดาน เมื่อเลิกงานปีที่แล้วผลก็คือหญ้าตายหมดครับ ต้องใช้เงิน5แสน(ตามข่าว) มาปูหญ้าใหม่(ประมาณครึ่งหนึ่งของฝั่งทิศเหนือ)
ปีนี้มาเต็มกว่าปีก่อนมากครับ จัดงานกันเต็มพื้นที่ทิศเหนือ
ฝั่งทิศใต้ที่ปีที่แล้วจัดงานไม่ได้ เพราะปรับปรุงหลังรื้อพระเมรุ ปีนี้ใช้ได้แล้วก็เอาต่อเลย รุกซะเต็มพื้นที่
หลังจากนี้น่าจะต้องใช้เงินปูหญ้ากันใหม่หลังงานหลายล้านกันเลยทีเดียว
คำถามคือเงินมาจากไหน ไม่ใช่ของกทม.แน่ครับ แต่คนจัดงานเป็นผู้รับผิดชอบ แล้วคนจัดงานมาจากไหน
ก็สำนักงานพระพุทธศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมนั่นแหละ เงินก็จะมาจากไหนก็เอามาจากภาษีประชาชนนี่แหละมาจ่ายค่าเสียหายให้กทม.
ผมก็ไม่รู้ว่างานบุญนี้จะเป็นงานบาปรึเปล่า เพราะทำไปทำมากลายเป็นเบียดเบียนภาษีของพี่น้องประชาชนคนทั่วประเทศ
เราจะปล่อยให้หญ้าตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปีแล้วก็ปูใหม่อย่างนี้หรือ เห็นกทม.ก็อยากจะทำหญ้าเทียม แต่กรมศิลป์ไม่อนุญาต
ผมก็ไม่รู้ว่ากทม.มีสติปัญญาคิดบ้างหรือเปล่าว่าหญ้าเทียมมันดูดและเก็บความร้อน
แล้วเมื่อมันอมความร้อนมากๆ มันก็จะแผ่ความร้อนออกมา อาจจะร้อนกว่าร้อนแดดด้วยซ้ำ
พื้นที่แถบนั้นที่พอจะเย็นสบายตอนเย็นๆ ถ้าทำหญ้าเทียมซะก็ร้อนตายแน่ๆ
ผมไม่รู้จะทำยังไง ถึงจะให้ข้อความนี้ถึงสื่อมวลชน ถึงผู้มีอำนาจช่วยทบทวนสถานที่จัดงานนี้เสียที จะมาเที่ยวซ่อมรื้อหญ้าบนภาษีประชาชนอย่างนี้มันไม่ควร ผมไม่รู้ว่าถ้าไปใช้สถานที่อื่นๆในเมืองที่มันกว้างขวาง และไม่ต้องมาเทียวซ่อมแซมแบบนี้ทุกปีจะเป็นไปได้ไหม เช่นศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หรืออยากจัดกว้างๆนักก็ไปจัดที่สนามบินดอนเมืองก็ได้ ลานจอดเครื่องบินยังเหลือเยอะ
เทศกาลงานวันวิสาขบูชาที่สนามหลวง ให้คนไปทำบุญเลยจะกลายเป็นบาปเพราะต้องเบียดเบียนภาษีมาซ่อมหลังเลิกงาน
ผมเห็นเทศกาลงานสัปดาห์วันวิสาขะ มาปีนี้เป็นปีที่สอง ปีที่แล้วจัดงานปูพื้นกระดานตั้งเต๊นต์กัน2สัปดาห์ พื้นหญ้าที่ปูไว้ก็ปูทับด้วยไม้กระดาน เมื่อเลิกงานปีที่แล้วผลก็คือหญ้าตายหมดครับ ต้องใช้เงิน5แสน(ตามข่าว) มาปูหญ้าใหม่(ประมาณครึ่งหนึ่งของฝั่งทิศเหนือ)
ปีนี้มาเต็มกว่าปีก่อนมากครับ จัดงานกันเต็มพื้นที่ทิศเหนือ
ฝั่งทิศใต้ที่ปีที่แล้วจัดงานไม่ได้ เพราะปรับปรุงหลังรื้อพระเมรุ ปีนี้ใช้ได้แล้วก็เอาต่อเลย รุกซะเต็มพื้นที่
หลังจากนี้น่าจะต้องใช้เงินปูหญ้ากันใหม่หลังงานหลายล้านกันเลยทีเดียว
คำถามคือเงินมาจากไหน ไม่ใช่ของกทม.แน่ครับ แต่คนจัดงานเป็นผู้รับผิดชอบ แล้วคนจัดงานมาจากไหน
ก็สำนักงานพระพุทธศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมนั่นแหละ เงินก็จะมาจากไหนก็เอามาจากภาษีประชาชนนี่แหละมาจ่ายค่าเสียหายให้กทม.
ผมก็ไม่รู้ว่างานบุญนี้จะเป็นงานบาปรึเปล่า เพราะทำไปทำมากลายเป็นเบียดเบียนภาษีของพี่น้องประชาชนคนทั่วประเทศ
เราจะปล่อยให้หญ้าตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปีแล้วก็ปูใหม่อย่างนี้หรือ เห็นกทม.ก็อยากจะทำหญ้าเทียม แต่กรมศิลป์ไม่อนุญาต
ผมก็ไม่รู้ว่ากทม.มีสติปัญญาคิดบ้างหรือเปล่าว่าหญ้าเทียมมันดูดและเก็บความร้อน
แล้วเมื่อมันอมความร้อนมากๆ มันก็จะแผ่ความร้อนออกมา อาจจะร้อนกว่าร้อนแดดด้วยซ้ำ
พื้นที่แถบนั้นที่พอจะเย็นสบายตอนเย็นๆ ถ้าทำหญ้าเทียมซะก็ร้อนตายแน่ๆ
ผมไม่รู้จะทำยังไง ถึงจะให้ข้อความนี้ถึงสื่อมวลชน ถึงผู้มีอำนาจช่วยทบทวนสถานที่จัดงานนี้เสียที จะมาเที่ยวซ่อมรื้อหญ้าบนภาษีประชาชนอย่างนี้มันไม่ควร ผมไม่รู้ว่าถ้าไปใช้สถานที่อื่นๆในเมืองที่มันกว้างขวาง และไม่ต้องมาเทียวซ่อมแซมแบบนี้ทุกปีจะเป็นไปได้ไหม เช่นศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หรืออยากจัดกว้างๆนักก็ไปจัดที่สนามบินดอนเมืองก็ได้ ลานจอดเครื่องบินยังเหลือเยอะ