คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 กำหนดวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา
และผุ้บริหารการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา เป้นวิชาชีพควบคุม ผุ้ประกอบวิชาชีพควบคุม
ที่จัดการศึกษาในสถานศึกษาปฐมวัย การศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา
ที่ตำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชนจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากคุรุสภา จึงจะมีสิทธิประกอบ
วิชาชีพได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจะเป็นหลักประกันความมีมาตรฐานและคุณภาพของการประกอบวิชาชีพ
และเป้นการยกระดับมาตรฐานวิชาชีพครูให้สูงขึ้น นอกจากนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มี
ีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะได้รับเงินเดือน เงินวิทยฐานะตาม พรบ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำ
ตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ด้วย
และผุ้บริหารการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา เป้นวิชาชีพควบคุม ผุ้ประกอบวิชาชีพควบคุม
ที่จัดการศึกษาในสถานศึกษาปฐมวัย การศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา
ที่ตำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชนจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากคุรุสภา จึงจะมีสิทธิประกอบ
วิชาชีพได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจะเป็นหลักประกันความมีมาตรฐานและคุณภาพของการประกอบวิชาชีพ
และเป้นการยกระดับมาตรฐานวิชาชีพครูให้สูงขึ้น นอกจากนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มี
ีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ จะได้รับเงินเดือน เงินวิทยฐานะตาม พรบ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำ
ตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ด้วย
แสดงความคิดเห็น
ถ้าไม่ได้เรียนจบสายครูมา แต่อยากจะเป็นครูโรงเรียนประถม (เอกชน) ไม่ต้องไปสอบอะไรใช่มั้ย
อยากเป็นคุณครูสอนวิชาประวัติศาสตร์และนักเขียนด้วย
เพราะว่าอยากให้พวกเด็กๆรู้จักประวัติศาสตร์ชาติไทย (อันนี้สำคัญมากๆกับเด็กไทย) กับประวัติศาสตร์ของประเทศอื่นๆตั้งแต่ป.1
ตอนเด็กๆอยากจะเป็นครูอยู่แล้ว (แต่ไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของเด็กบางคนที่ทำตัวไม่ดีและไม่เคารพผู้ใหญ่โดยเฉพาะกับคุณครู)
เนื่องจากตัวเองเรียนอยู่โรงเรียนเอกชนมาตลอดตั้งแต่อนุบาล 3-ม.3 ส่วนตอนอนุบาล 1-2 ไม่ได้เรียน
สมัยที่เราเรียนอยู่ ค่าเทอมถูกมาก เพราะค่าใช้จ่ายของทัศนศึกษารวมเอาไว้กับค่าเทอมหมดแล้ว
อยากจะไปเป็นคุณครูสอนพวกรุ่นน้องที่โรงเรียนเอกชนที่เคยเรียนมาก่อน
น่าเสียดายที่โรงเรียนประถมเอกชนที่เราเรียนตั้งแต่อนุบาล 3-ป.3 โดนยุบไป 13 ปีแล้ว เพราะว่านักเรียนน้อย
(มีตั้งแต่เนอสเซอรี่ไปจนถึงป.6) เราชอบโรงเรียนนี้มากๆ ตอนที่เรียนอนุบาล 3-ป.2 คุณครูกับนักเรียนเยอะมากๆ
แต่พอขึ้นป.3 คุณครูกับนักเรียนน้อยลงไปมาก นักเรียนในห้องของแต่ละระดับชั้นมีไม่ถึง 10 คน
คุณครู 1 คนต้องสอนควบทีเดียว 2 ระดับชั้น แต่บรรยากาศภายในโรงเรียนน่าเรียนมาก อยู่ใกล้กับสวนผลไม้และคลองด้วย
(บรรยากาศตอนกลางคืนน่ากลัวมากโดยเฉพาะตรงดงต้นกล้วย) เราไปเรียนต่อป.4 ที่โรงเรียนเอกชนแถวบ้าน มีตั้งแต่อนุบาล 1-ป.6
พอจบป.6 ก็ไปเรียนต่อม.1 ที่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนสหศึกษาที่มีตั้งแต่อนุบาล 1-ม.3 (มีเนอสเซอรี่ด้วย)
แต่ถ้าไม่ได้เป็นครูก็อยากจะขอเป็นครูพี่เลี้ยงประจำรถโรงเรียนก็ได้ เพราะว่าเราเป็นเด็กรถโรงเรียนมาตั้งแต่อนุบาล 3-ป.6
แต่พอเรียนจบม.3 ก็ไปสอบเข้าม.4 ที่โรงเรียนรัฐแทน ถ้าไปสอบเข้าม.4 ที่โรงเรียนเอกชนก็ต้องเสียค่าเทอมแพงมากๆ
ตอนที่เรียนอยู่ม.ปลาย เราสนิทกับคุณครูในหมวดวิชาสังคมศึกษา