เฮ้อ....เด็กรุ่นใหม่....

กระทู้สนทนา
ก่อนหน้านี้ เคยได้ยินแต่เพื่อนบ่นว่า รุ่นน้องที่บริษัท ทำงานไม่ได้เรื่อง...ซึ่งรุ่นน้องบางคน จบมาจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่เรื่องพื้นฐานบางเรื่องก็ยังไม่รู้.... (เพื่อนผมก็จบจากที่เดียวกันกับน้องเนี่ยแหละ)...

บางคนก็บ่นว่า น้องชอบทำตัวเหมือน น้ำเต็มแก้ว บ้าง....

ตัวผมตอนนั้นก็ยังเรียนอยู่...ก็ยังไม่ได้มีโอกาสมีรุ่นน้องที่ทำงานกับเค้าบ้าง.... เลยได้แต่รับฟัง...

ตอนที่ทำงานที่เก่า...ก็มีลูกน้อง แต่เป็นคนเก่าคนแก่ ทำงานนานกว่าเราเป็น 10-20 ปี.... บางคนความรู้เค้าอาจจะไม่ถึง แต่ใจเค้าได้ ผมก็แค่เสริมในส่วนที่พวกเค้าขาดไป.... ปัญหาก็มีบ้างประปราย.... แต่เพราะพวกนั้น ประสบการณ์สูง ปัญหาที่เกิดสำหรับเค้า มันคือเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งวิธีการแก้ อาจจะปรับไปตามสถานการณ์ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ซึ่งผมก็ช่วยพวกเค้าได้ในส่วนของการติดต่อประสานงาน เพื่อหาวิธีที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุด ณ จุดนั้นๆ...... แล้วก็เสริมในส่วนของการแก้ปัญหาให้มันไม่เกิดขึ้นมาอีก....

พอเปลี่ยนที่ทำงานใหม่...ที่นี่ บริษัทเน้นรับเด็กจบใหม่....
ทำให้ผมเริ่มมีรุ่นน้องกับเค้าบ้างละ....
หลายๆ คน จบมาจากสถาบันชื่อดัง.... แน่นอนว่า เพิ่งจบใหม่.... หรือทำงานมาได้ไม่ถึงปี....

สิ่งที่สังเกตได้คือ....
1. ความรู้ น้องไม่ได้แน่นไปกว่าผม ที่จบมาแล้ว(ระดับ ป.ตรี) ประมาณ 6 ปี...

2. ความกระตือรือร้นในการทำงาน สำหรับน้องที่ผมดูๆ อยู่ 4 คน...ผมให้สอบตกไปสองคน.... คือน้องนิ่งเกินไป คือไม่วิ่งเข้าหางาน ว่างก็เข้าเฟซ เล่นไลน์ แต่ไม่ถามว่า พี่มีงานให้ช่วยอะไรเปล่า ทั้งๆ ที่งานพวกพี่ เต็มมือเลย.

3. ความใส่ใจในการทำงาน.... ยกตัวอย่าง อย่างผม ปกติ เวลาที่หัวหน้าสั่งงานอะไร ผมจะนึกตาม แล้วจะถามวัตถุประสงค์ของการทำงานนั้นๆ หรือพยายามเข้าใจวัตถุประสงค์ แล้วพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่คิดว่ามันน่าจะสนับสนุน หรือทำเพิ่มมากกว่าที่เค้าสั่ง หรือทำแบบสร้างทางเลือก (ถ้ามีเวลาพอ) เค้าจะเอา หรือไม่เอาก็อีกเรื่อง แต่เราได้คิด ได้หาข้อมูล ได้ทำ ก็ช่วยในส่วนของการพัฒนาตัวเอง....
แต่ที่น้องผมทำมา... ยังทำได้น้อยกว่าที่บอกเลย....

4. ภาษาไทย ไม่ค่อยดี พิมพ์ผิดบ่อย.... ภาษาอังกฤษ ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่..... ตอนแรกนึกว่า เด็กรุ่นใหม่ จะเก่งภาษากว่าที่ผมคิด (หรือเก่งกว่าผมสมัยที่ผมเพิ่งจบ)

5. จริงๆ ตัวผมก็เพิ่งเข้างานพอๆ กับน้องแหละครับ เข้าทีหลังด้วย.... (ซึ่งบริษัทเก่ากับใหม่ คนละธุรกิจกันเลย) ซึ่งตอนแรก ผมก็บอกเลยว่า อึ้ง โง่มาก พอทำมาได้เดือนกว่าๆ ผมพอจะสามารถสอนน้องได้แล้ว....คือน้องรอให้คนมาสอนอย่างเดียว แต่ไม่พยายามหาความรู้ ไม่พยายามจดจำ อย่างเช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ ทำงานมาเกือบ สองเดือนแล้ว ยังจำชื่อผลิตภัณฑ์ ผิดๆ ถูกๆ อยู่เลย....

อย่างที่บอก... น้อง 4 คน ผมเจอ 2 คนที่รู้สึกว่า ไม่ดีพอ ในส่วนของการทำงานนะครับ แต่นิสัยใจคอ ก็โอเคครับ ว่านอนสอนง่าย บอกอะไรก็ทำ อาจจะไม่ได้ดีถึงขนาดพึงพอใจ (ตัวผมเองแน่นอนก็ยังไม่ถึงระดับที่ผู้จัดการจะพอใจ แต่ก็ต้องให้มาแก้ประจำ)
แต่ก็ไม่ได้โชคร้ายขนาด เจอน้ำเต็มแก้ว.....

บางที ตอนผมทำงานแรกๆ รุ่นพี่กว่าผม สัก 4-6 ปี อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับที่ผมรู้สึกตอนนี้ก็ได้.....  อ้อ แต่หัวหน้าเก่าผม ตอนผมลาออก  แกบอกผมเลยนะว่าดีใจมาก ที่ตัดสินใจรับผมเข้ามาทำงาน (ตอนแรก แกนึกว่าผมเป็นพวกไม่สู้งาน เห็นหน้าติ๋มๆ นึกว่าจะไม่สู้งาน แต่แกรับเพราะ คนที่แกรับคนแรก ทำงานได้วันเดียวก็หายไปเลย เลยต้องรับผมแทน....)

จริงๆ ก็เข้ามาบ่นเฉยๆ ครับ.... เพราะไม่ได้คิดจะแบ่งแยกอะไร แล้วก็ไม่ได้คิดว่า การแบ่งแยกยุคสมัย จะสามารถแบ่งแยกลักษณะของคนได้อย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับการแบ่งแยกสถาบัน ที่หลายๆ กระทู้พูดถึงกัน...

ถือว่าเป็นดวงละกัน ดวงดีก็ได้ลูกน้องดี...ดวงไม่ดีก็ได้ลูกน้องแย่....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่