บันทึกนักปั่นในค่ำคืนไฟดับใหญ่ที่ภูเก็ต...(ไม่มีรูปเพราะมันมืด ฮ่าๆๆ)

กระทู้สนทนา
ย้อนหลังกลับไปเกือบสามชั่วโมงกว่าที่ผ่านมา...
..ขณะที่ผมกับลูกๆกำลังขี่จักรยานเล่นกันอยู่หน้าบ้าน แสงสุดท้ายของวันเริ่มหายไปจากท้องฟ้า ผมเรียกเด็กๆเข้าบ้าน
เตรียมอาบน้ำทำการบ้านเหมือนเช่นทุกวัน ในใจหมายมั่นปั้นมือว่าเดี๋ยวพอภรรเมียกลับมาจะบอกว่าขอไปปั่นจักรยาน
เล่นในเมืองซักชั่วโมง แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เสียงของหวานใจจากปลายสายดังมาบอกว่าที่ร้านไฟดับให้ไปรับด้วย
ผมก็รีบเข้าบ้านแล้วก็พบว่าที่บ้านก็ไฟดับเหมือกัน เลยกะว่าเดี๋ยวรับหวานใจเสร็จแล้วจะพากันไปทานข้าวในเมืองแทน

เอาลูกขึ้นรถแล้วก็ออกไปที่ร้าน ตลอดทางมันดูแปลกๆไปกว่าไฟดับทุกครั้ง ดูรถขับกันสะเปะสะปะชอบกล เหมือนตกใจ
กันไปทั่ว รับแม่ของลูกเสร็จก็มุ่งหน้าเข้าไปในเมือง แต่ขับไปได้สักพักก็ยิ่งรับรู้ได้ว่าการจราจรภูเก็ตยามนี้มันสับสนมาก
สับสนจนน่าหนักใจ ตามแยกก็ไม่มีสัญญาณไฟจราจร เมื่อมองเข้าไปในเมือง.."มันมืดสนิท" ไม่มีทีท่าว่าจะมีสักที่ที่มีไฟ
เลยตัดสินใจกลับเข้าบ้านดีกว่า.....

เข้าไปถึงหน้าบ้าน โอ้ว..ราวกับมีงานเทศกาล เด็กๆวิ่งไปมาพร้อมไฟฉาย บรรดาพ่อบ้านมาจับกลุ่มคุยกันเสียงหัวเราะดังไปทั่ว
ผมมีเพียงแท็บเบล็ตกับโทรศัพท์ที่ติดตามข่าวสารจากเพื่อนๆในเฟซบุ๊คว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาคใต้ทั้งหมด อ่านไปเรื่อยๆขณะที่
ลูกๆดูสนุกมากกับการที่ไฟดับ โอ้ เด็กหนอเด็ก ช่างสนุกได้ทุกที่ทุกสถานการณ์..(^^)

ทำนู่นทำนี่อยู่สักพัก ไม่มีทีวี ไม่มีอะไรบันเทิงสักอย่าง มีแต่แสงเทียนแสงไฟฉายของเด็กๆ มันว่างจนน่าตกใจ ผมเอาจักรยาน
ออกมานอกบ้าน กะว่าจะปั่นเล่นมันในหมู่บ้านนี่ล่ะ ขืนออกไปนอกบ้านเดี๋ยวโดนรถชนตาย เปิดไฟหน้า..เฮ๊ย! มันสว่างสะใจ!!!
สว่างกว่าทุกวันเลยวุ๊ย! ฮ่าๆๆ สะใจจริงๆ เปิดไฟหลัง แล้วก็เริ่มปั่นไปตามซอยในหมู่บ้านจัดสรร ณ สถานที่แห่งหนึ่งบนโลกนี้..
ที่ๆเรียกว่า.."ภูเก็ต"

ลมเย็นๆปะทะหน้า..ขณะที่คนและจักรยานวิ่งฝ่าไป บนฟ้าวันนี้ไร้ฝน พระจันทร์ทรงกลดสว่างไปทั่ว บรรยากาศสุดจะแสนสบาย
บ้านเล็กบ้านน้อยที่เรียงรายไปตามแนวซอยมีเพียงไฟดวงน้อย ที่หน้าบ้านมีแม่บ้านออกมานั่งคุยกัน พ่อบ้านก็จับกลุ่มคุยกัน
บางบ้านที่ไม่ได้คุยกันมานานก็ได้ออกมาเสวนากัน นี่ถ้าไฟไม่ดับเราจะได้คุยกันแบบนี้ไหมหนอ? คงจะอยู่บ้านใครบ้านมัน.....

ที่ขาดไม่ได้..บรรดาน้องหมาที่เคยไล่เห่าไล่จองเวรกับผมเป็นประจำ วันนี้กลับดูสงบและเป็นมิตรกับผมอย่างเหลือเชื่อ สงสัย
มันคงจะชอบบรรยากาศแบบยุคหินเช่นนี้....

ปั่นไปสามสี่รอบ ทักทายคนนู้นคนนี้ไปหลายบ้าน ได้พบว่า..คนใต้นี่จิตใจเข้มแข็งสมคำร่ำลือจริงๆ คงเพราะทุกครั้งที่มีเรื่องราว
ร้ายแรงคนใต้มักจะโดนก่อนเสมอ ขนาดไฟดับอันน่ากังวลแบบนี้ยังปล่อยมุขขำๆกันหน้าตาเฉยเลย....

ถึงบ้าน..เช็คข่าวกับแท็บเบล็ตตัวน้อย แล้วหัวเราะก๊ากลั่นบ้าน กับข้อความที่ปรากฏไปในแนวเดียวกัน.."รัฐบาลนี้ดับไฟใต้สำเร็จแล้ว"
จากนี้ไปภาคใต้จะสงบเสียที...55555

อาบน้ำใต้แสงเทียนเสร็จแล้ว ก็มานั่งเล่นกับลูก..คุยกัน..พัดวีลูกให้หายร้อน ถือโอกาสสอนเขาให้เห็นถึงคุณค่าของไฟฟ้า ว่าเวลา
เรามีไฟฟ้าใช้ เราต้องประหยัด สอนเขาให้รู้ว่าไฟฟ้ามาจากไหน ขั้นตอนการผลิตไฟฟ้าเป็นอย่างไร มันเป็นโอกาสอันดีจริงๆ

สี่ทุ่มเศษๆขณะที่ร้อนได้ที่ไฟก็มาพรึ่บ! เสียงเฮ! ดังขึ้นแว่วๆจากหลายๆบ้านที่กำลังร้อนจากอากาศก่อนฝนตก ไฟมาแล้ว!!!
เด็กๆดีใจ คนโตรีบเปิดแอร์ คนกลางรีบเปิดพัดลม ขณะที่คนเล็กก็กระโดดดึ๋งๆอยู่ใกล้ๆ ลูกๆรู้แล้วว่าสิ่งที่มีอยู่ทุกวันจนชินและเฉยๆ
พอวันหนึ่งมันหายไป มันช่างมีคุณค่าเพียงใด.....

และสิ่งแรกที่ภรรเมียสุดเลิฟของผมทำเป็นสิ่งแรกเมื่อไฟมาก็คือเปิดทีวี...และแล้ววิกฤติการณ์ไฟดับครั้งใหญ่ของชาติไทยก็ผ่านพ้น
ไปพร้อมๆกับ..รอยยิ้มของ..พี่เคน..ธีรเดช..(^^)


ขอบคุณ : รูปประกอบจาก internet
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่