สวัสดีค่ะ ชื่อฟิล์มนะคะ ขออนุญาตนำผลงานชิ้นแรกมาฝากอ่านค่ะ
เป็นจินตนิยายที่เกิดขึ้นหลังจากการเดินทางไปหลวงพระบาง ฟิล์มลองเขียนตามคำแนะนำมือใหม่หัดเขียนหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัย ณ ที่นี้ นิยายเรื่องนี้เขียนจบแล้วฝากติชมด้วยค่ะ
การมาถึงของความรักนั้นน่ารอคอยและจดจำมากที่สุด
ความรักเมื่อวนเวียนมาบรรจบกันอีกครั้งไม่ว่าการเริ่มต้นหรือเกิดขึ้นเพราะอะไร
หากรักคือรัก รักที่ไม่ต้องการข้อแม้ใดใด
อัฌชาพบแล้วว่าการรอคอยอย่างเงียบๆของเขาทำให้สุดท้ายแสงอุษาก็ได้เห็นและรับรักนั้นไปอย่างไร้ข้อแม้
เมื่อการทำงานข้ามแม่น้ำโขงสู่หลวงพระบางนำพารักมาให้กับคนทั้งคู่อย่างเรื่อยเย็นและอิ่มเต็ม
หากอีกคู่หนึ่งเฌอปรางและภัทรภาส
แม่น้ำทำให้ทั้งคู่ได้พบกัน หากเรื่องราวมากมายทำให้ทั้งคู่ต้องพบเจออุปสรรคเหมือนแม่น้ำยามน้ำหลาก รุนแรงและหลอกล่อ
ความรักต่างฤดูของทั้งสองคู่แทบไม่น่าจะเกี่ยวพันกันหากอะไรก็เกิดขึ้นได้บนผืนดินนี้ ใต้ฟ้าที่พระจันทร์ยังพรายแสงส่องทางรักให้
ตอนที่ 1 การเดินทาง
สายละอองหมอกยาวดึกลอยเรื่อยตามลำน้ำกว้างใหญ่เบื้องหน้า กลางดึกสงัดหากทุกสรรพสิ่งสว่างราวยามเช้าตรู่ เหนือขึ้นไปบนเวิ้งฟ้าพระจันทร์ดวงสีน้ำเงินส่งแสงสว่างกระจ่างนัก ไร้ซึ่งเสียงอื่นใดนอกจากเสียงน้ำโขงที่ไหลกระซัดส่ายต้องโขดหินที่มีอยู่มากมายเหมือนเกาะแก่งกลางลำน้ำ ใบไม้สงบนิ่งราวหลับใหลไม่คล้อยตามลมหนาวที่เคลื่อนผ่าน นกกลางคืนยังสงบคำไม่ร้องเรียกหากัน ณ พื้นทรายริมน้ำสองร่างตระคองกอดกันไว้แน่น
“พี่รอคอยยามเมื่อแสงดาวเลือนหายเหลือเพียงนวลจันทราแห่งพระจันทร์พรายส่องแสง เมื่อเจ้าเงยหน้าจ้องมองมาที่พี่เพียงผู้เดียว พี่รู้โดยทันทีว่าความรักนั้นเกิดขึ้นแล้วถึงแม้นเราต่างพงศ์พันธุ์ หากเมื่อรักแล้วพี่ยอมสิ้นทั้งวิญญา ดูเอาเถิดน้องแก้ว ณ ที่นี้พี่จะสร้างบ้านแปลงเมืองเพื่ออยู่กับเจ้า แม้นอาญาเมืองแถนจะตกถึง พี่ก็ยินดี” ศิขรินทร์ตระคองกอดจันทรมาสไว้แน่น ด้วยรู้ว่าสิ้นคืนนี้อีกนานนักกว่าจะพบกัน
“น้องเพียงจงรักแต่เจ้าพี่ ด้วยความรักทั้งหมดที่น้องมี หากแม้นสิ้นคืนนี้น้องพี่ต้องสิ้นกัน น้องก็จักขอรอไม่ว่ากี่ภาพกี่ชาติ ณ ที่นี้น้องจักรอจนกว่าพระจันทร์พรายจะกลับมา น้องขอให้สัจสัญญาต่อหน้าพระพรหม เมื่อทรงบันดานให้เราสองครองรักกันแล้วในชาตินี้ แม้น้องเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดามิใช้ชาวฟ้าเช่นพี่ท่าน อันบุญที่น้องกระทำด้วยดีนั้นจงนำพาให้เราสองได้พบและครองรักกันอีกครั้งเถิด”จันทรมาสเปล่งคำสัญญามั่นคงนัก
“พี่จะรอคอยวันพระจันทร์พรายครั้งหน้า สามสิบปีมนุษย์เท่านั้นจันทรมาส แล้วเราจะพบกันอีกครา ไม่ว่าจะด้วยร่างกายใดหากวิญญาเดิมแห่งความรักเจ้าจะปรากฏในดวงตาพี่เสมอ แสงอุษาใกล้มาแล้ว จงรอพี่จันทรมาส เจ้าจันทร์ของพี่”
“พระอาทิตย์ชักราชรถใกล้ถึงขอบฟ้าแล้ว เจ้าพี่ไปเถิด น้องสัญญาจะรอคอยและติดตามรักเจ้าพี่ทุกชาติไป ณ ที่นี้ น้องจะกลับมารอเจ้าพี่เสมอ"
ทั้งสองสบตากันก่อนที่แสงแรกของวันจะสาดส่องทั่วคุ้งน้ำแห่งนี้ที่ซึ่งเมืองจันทร์ที่เจ้าศิขรินทร์เนรมิตไว้เพื่อครองรักกับเจ้าจันทรมาสปรกฏอยู่ คำของเจ้าแสนเมืองฟ้าบิดาแห่งศิขรินทร์ผู้ตั้งอาญาไว้หากผู้ใดใฝ่รักในมนุษย์โดยมิรั้งรอคำอนุญาตของท่านเสียก่อนก็ผุดขึ้นในมโนสติของทั้งสอง ว่าผู้นั้นจักต้องโทษพลัดพรากจากกัน
‘หากแม้นต้องประสงค์รักกันทุกภพชาติ เจ้าต้องแลกด้วยชะตาชีวิตแสนสั้นเจ้าจันทรมาส ด้วยอำนาจพรหมลิขิตนำพาเจ้าทั้งสองมาพบกัน หากเราได้เอ่ยแล้วว่าเพียงคืนเดียวแห่งพระจันทร์พรายเท่านั้นที่เจ้าจักได้พบกัน’
‘นางมนุษย์เอย จันทรมาสแม้เจ้าจักเคยเป็นเทพธิดามาก่อน หากรักของเจ้ากับศิขรินทร์ผิดอาญาเมืองแถน ศิขรินทร์เป็นพระจันทร์เสี้ยวประดับปิ่นปักพระโมลีองค์พระศิวะ มิควรเลยต้องมัวหมองเพราะรัก กิเลศแห่งกามาพจร รักของเจ้ามิควรจะเกิดขึ้น’
‘ด้วยเหตุนี้ ศิขรินทร์จักมิอาจกลับคืนร่างเป็นดั่งเดิมได้อีก ตั้งแต่บัดนี้ไปเจ้าจะเป็นเพียงพระจันทร์ลอยเลื่อนประดับพระโมลีองค์อิศเรศ และเจ้าเองจันทร์มาสชีวิตเจ้าจะจบสิ้นลงเมื่อถึงเบญจเพส เช่นนี้ทุกชาติมนุษยภพ’
‘พ่อทำได้เพียงให้เจ้าพบกันในวันพระจันทร์พรายเท่านั้น หากเมื่ออนาคตเจ้าทั้งสองแบ่งอณูเทวะเกิดใหม่ พรหมลิขิตเจ้าไว้แล้วให้ได้พบและรักกัน หากเจ้าต้องได้รักกันในคืนพระจันทร์พรายพร้อมหลั่งเลือดเป็นพลีกรรม เมื่อนั้นอาญาของพ่อจึงสิ้นสุดลง’
‘หากจำไว้ให้มั่น จันทรมาสจะมีอายุขัยแค่เพียงเบญจเพสเท่านั้น หากเจ้ามิแก้คำสาปนี้ก่อนหน้า จันทรมาสจะคืนกลับวัฏสงสารและเจ้าด้วยเช่นกัน’ ‘จงไปเถิดทั้งคู่ ณ ที่นี้พ่อจักรักษาไว้ เพื่อเจ้าทั้งคู่’
[นิยาย] แสงอุษา : พระจันทร์พราย
สวัสดีค่ะ ชื่อฟิล์มนะคะ ขออนุญาตนำผลงานชิ้นแรกมาฝากอ่านค่ะ
เป็นจินตนิยายที่เกิดขึ้นหลังจากการเดินทางไปหลวงพระบาง ฟิล์มลองเขียนตามคำแนะนำมือใหม่หัดเขียนหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัย ณ ที่นี้ นิยายเรื่องนี้เขียนจบแล้วฝากติชมด้วยค่ะ
การมาถึงของความรักนั้นน่ารอคอยและจดจำมากที่สุด
ความรักเมื่อวนเวียนมาบรรจบกันอีกครั้งไม่ว่าการเริ่มต้นหรือเกิดขึ้นเพราะอะไร
หากรักคือรัก รักที่ไม่ต้องการข้อแม้ใดใด
อัฌชาพบแล้วว่าการรอคอยอย่างเงียบๆของเขาทำให้สุดท้ายแสงอุษาก็ได้เห็นและรับรักนั้นไปอย่างไร้ข้อแม้
เมื่อการทำงานข้ามแม่น้ำโขงสู่หลวงพระบางนำพารักมาให้กับคนทั้งคู่อย่างเรื่อยเย็นและอิ่มเต็ม
หากอีกคู่หนึ่งเฌอปรางและภัทรภาส
แม่น้ำทำให้ทั้งคู่ได้พบกัน หากเรื่องราวมากมายทำให้ทั้งคู่ต้องพบเจออุปสรรคเหมือนแม่น้ำยามน้ำหลาก รุนแรงและหลอกล่อ
ความรักต่างฤดูของทั้งสองคู่แทบไม่น่าจะเกี่ยวพันกันหากอะไรก็เกิดขึ้นได้บนผืนดินนี้ ใต้ฟ้าที่พระจันทร์ยังพรายแสงส่องทางรักให้
ตอนที่ 1 การเดินทาง
สายละอองหมอกยาวดึกลอยเรื่อยตามลำน้ำกว้างใหญ่เบื้องหน้า กลางดึกสงัดหากทุกสรรพสิ่งสว่างราวยามเช้าตรู่ เหนือขึ้นไปบนเวิ้งฟ้าพระจันทร์ดวงสีน้ำเงินส่งแสงสว่างกระจ่างนัก ไร้ซึ่งเสียงอื่นใดนอกจากเสียงน้ำโขงที่ไหลกระซัดส่ายต้องโขดหินที่มีอยู่มากมายเหมือนเกาะแก่งกลางลำน้ำ ใบไม้สงบนิ่งราวหลับใหลไม่คล้อยตามลมหนาวที่เคลื่อนผ่าน นกกลางคืนยังสงบคำไม่ร้องเรียกหากัน ณ พื้นทรายริมน้ำสองร่างตระคองกอดกันไว้แน่น
“พี่รอคอยยามเมื่อแสงดาวเลือนหายเหลือเพียงนวลจันทราแห่งพระจันทร์พรายส่องแสง เมื่อเจ้าเงยหน้าจ้องมองมาที่พี่เพียงผู้เดียว พี่รู้โดยทันทีว่าความรักนั้นเกิดขึ้นแล้วถึงแม้นเราต่างพงศ์พันธุ์ หากเมื่อรักแล้วพี่ยอมสิ้นทั้งวิญญา ดูเอาเถิดน้องแก้ว ณ ที่นี้พี่จะสร้างบ้านแปลงเมืองเพื่ออยู่กับเจ้า แม้นอาญาเมืองแถนจะตกถึง พี่ก็ยินดี” ศิขรินทร์ตระคองกอดจันทรมาสไว้แน่น ด้วยรู้ว่าสิ้นคืนนี้อีกนานนักกว่าจะพบกัน
“น้องเพียงจงรักแต่เจ้าพี่ ด้วยความรักทั้งหมดที่น้องมี หากแม้นสิ้นคืนนี้น้องพี่ต้องสิ้นกัน น้องก็จักขอรอไม่ว่ากี่ภาพกี่ชาติ ณ ที่นี้น้องจักรอจนกว่าพระจันทร์พรายจะกลับมา น้องขอให้สัจสัญญาต่อหน้าพระพรหม เมื่อทรงบันดานให้เราสองครองรักกันแล้วในชาตินี้ แม้น้องเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดามิใช้ชาวฟ้าเช่นพี่ท่าน อันบุญที่น้องกระทำด้วยดีนั้นจงนำพาให้เราสองได้พบและครองรักกันอีกครั้งเถิด”จันทรมาสเปล่งคำสัญญามั่นคงนัก
“พี่จะรอคอยวันพระจันทร์พรายครั้งหน้า สามสิบปีมนุษย์เท่านั้นจันทรมาส แล้วเราจะพบกันอีกครา ไม่ว่าจะด้วยร่างกายใดหากวิญญาเดิมแห่งความรักเจ้าจะปรากฏในดวงตาพี่เสมอ แสงอุษาใกล้มาแล้ว จงรอพี่จันทรมาส เจ้าจันทร์ของพี่”
“พระอาทิตย์ชักราชรถใกล้ถึงขอบฟ้าแล้ว เจ้าพี่ไปเถิด น้องสัญญาจะรอคอยและติดตามรักเจ้าพี่ทุกชาติไป ณ ที่นี้ น้องจะกลับมารอเจ้าพี่เสมอ"
ทั้งสองสบตากันก่อนที่แสงแรกของวันจะสาดส่องทั่วคุ้งน้ำแห่งนี้ที่ซึ่งเมืองจันทร์ที่เจ้าศิขรินทร์เนรมิตไว้เพื่อครองรักกับเจ้าจันทรมาสปรกฏอยู่ คำของเจ้าแสนเมืองฟ้าบิดาแห่งศิขรินทร์ผู้ตั้งอาญาไว้หากผู้ใดใฝ่รักในมนุษย์โดยมิรั้งรอคำอนุญาตของท่านเสียก่อนก็ผุดขึ้นในมโนสติของทั้งสอง ว่าผู้นั้นจักต้องโทษพลัดพรากจากกัน
‘หากแม้นต้องประสงค์รักกันทุกภพชาติ เจ้าต้องแลกด้วยชะตาชีวิตแสนสั้นเจ้าจันทรมาส ด้วยอำนาจพรหมลิขิตนำพาเจ้าทั้งสองมาพบกัน หากเราได้เอ่ยแล้วว่าเพียงคืนเดียวแห่งพระจันทร์พรายเท่านั้นที่เจ้าจักได้พบกัน’
‘นางมนุษย์เอย จันทรมาสแม้เจ้าจักเคยเป็นเทพธิดามาก่อน หากรักของเจ้ากับศิขรินทร์ผิดอาญาเมืองแถน ศิขรินทร์เป็นพระจันทร์เสี้ยวประดับปิ่นปักพระโมลีองค์พระศิวะ มิควรเลยต้องมัวหมองเพราะรัก กิเลศแห่งกามาพจร รักของเจ้ามิควรจะเกิดขึ้น’
‘ด้วยเหตุนี้ ศิขรินทร์จักมิอาจกลับคืนร่างเป็นดั่งเดิมได้อีก ตั้งแต่บัดนี้ไปเจ้าจะเป็นเพียงพระจันทร์ลอยเลื่อนประดับพระโมลีองค์อิศเรศ และเจ้าเองจันทร์มาสชีวิตเจ้าจะจบสิ้นลงเมื่อถึงเบญจเพส เช่นนี้ทุกชาติมนุษยภพ’
‘พ่อทำได้เพียงให้เจ้าพบกันในวันพระจันทร์พรายเท่านั้น หากเมื่ออนาคตเจ้าทั้งสองแบ่งอณูเทวะเกิดใหม่ พรหมลิขิตเจ้าไว้แล้วให้ได้พบและรักกัน หากเจ้าต้องได้รักกันในคืนพระจันทร์พรายพร้อมหลั่งเลือดเป็นพลีกรรม เมื่อนั้นอาญาของพ่อจึงสิ้นสุดลง’
‘หากจำไว้ให้มั่น จันทรมาสจะมีอายุขัยแค่เพียงเบญจเพสเท่านั้น หากเจ้ามิแก้คำสาปนี้ก่อนหน้า จันทรมาสจะคืนกลับวัฏสงสารและเจ้าด้วยเช่นกัน’ ‘จงไปเถิดทั้งคู่ ณ ที่นี้พ่อจักรักษาไว้ เพื่อเจ้าทั้งคู่’