สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ช่วยตอบให้ในฐานะแม่คนหนึ่งที่เลี้ยงลูก 2 คนจนจบป.ตรีแล้วทั้งคู่
อยากเล่าให้ฟังค่ะ ตอนลูกคนโตอยู่ ม.3 กำลังจะขึ้นม.4 เขาเรียนเก่ง เกรด 3 ขึ้นไปตลอด พ่อแม่อยากให้เขาเรียนสายวิทย์ เพราะดูมีช่องทางเลือกเข้ามหาลัยได้มากกว่า แต่เขายืนกรานจะเรียนสายศิลป์ (เพราะไม่ชอบคณิต แล้วเขาเก่งอังกฤษมาก) เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ลูกเถึยงพ่อแม่ไม่ยอมทำตามในคำแนะนำถึงกับร้องไห้ คุณพ่อก็โกรธมากจะบังคับลูกท่าเดียว เราเป็นแม่ต้องทำตัวเป็นคนกลางคุยกับคุณพ่อว่า เราเลี้ยงลูกมาเราสอนให้เขาคิดให้เป็นเราสอนให้เขาใช้เหตุผลมาตลอดและเราให้ลูกเลือกและทำในสิ่งที่เขาชอบเขารักมาตลอดสนับสนุนลูกในทุกๆเรื่องที่เขารักชอบเพราะเราทั้งคู่คิดตรงกันว่าคนเราจะทำในสิ่งที่ตัวเองรักได้ดีที่สุด แล้วเราจะมาบังคับลูกโดยไม่ฟังเหตุผลของเขา มันจะถูกหรือ งั้นที่สอนเขามาก็จะผิดหมดน่ะซิ คุณพ่อเขาเลยหยุดโกรธหยุดโมโห แล้วเสนอเงื่อนไข โดยบอกให้เขาไปหาเหตุผลว่าทำไมเขาอยากเรียนสายศิลป์เรียนแล้วเขาจะเอาไปทำงานด้านใดได้บ้าง ให้ลูกไปเขียนมา เขาก็ไปทำค่ะ สุดท้ายเมื่อคุณพ่ออ่านที่เขาเขียนแล้ว ก็ต้องอนุญาตให้เขาเลือกเรียนตามใจเขาเพราะเขามีเหตุผลของเขาที่ใช้ได้ค่ะ
เขาก็ได้เรียนในสิ่งที่เขาชอบเขาต้องการ เขาก็เรียนได้ดีมาก เขาเข้ามหาลัยได้ติดมหาลัยธรรมศาสตร์คณะศิลปศาสตร์ สาขาปรัชญา ซึ่งรับแค่ 20 คน ตอนนี้เขาจบตรีแล้ว กำลังทำโทที่จุฬา มาถึงตอนนี้เราลองย้อนถามว่าลูกรักชอบปรัชญาจริงๆหรือ(เพราะวิชาที่เขาเรียนเราว่ามันยากมากๆเข้าใจยากคุยกับคนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีคนรู้เรื่อง) เขาตอบเรามาอย่างนี้ค่ะ
เขาบอกว่า คุณแม่ ไม่จำเป็นต้องรักก็ได้ แต่เมื่อได้เลือกที่จะเรียนแล้วก็ต้องเรียนรู้อย่างเข้าใจ และเมื่อเลือกไปแล้วก็ต้องทำใจให้รักชอบในสิ่งนั้นแล้วเราก็จะรักมันได้เองเมื่อเรารู้จริงในสิ่งที่เราเรียน
อืมอันนี้เราชอบมากค่ะ เพราะเมื่อลูกยังเล็กๆ เราบอกลูกเสมอว่าไม่ต้องเรียนให้ได้ที่ 1 ก็ได้ เกรดเท่าไรก็ไม่สำคัญ แค่ขอให้ลูกได้เรียนรู้อย่างเข้าใจในสิ่งที่เรียนเท่านั้นแม่ก็พอใจแล้ว เพราะถึงวันนี้สิ่งที่เราสอนลูกมันก็ให้ผลอย่างที่เราต้องการแล้วค่ะ
หวังว่าคงมีประโยชน์ต่อคนเป็นพ่อแม่ได้บ้างนะคะ อนาคตเป็นของเขาให้โอกาสเขาได้เลือกด้วยตนเองเถิดค่ะ แล้วเราคอยมองคอยประคองเขาคอยให้คำแนะนำเขาเมื่อสมควรหรือเมื่อเขาต้องการดีที่สุดค่ะ
อยากเล่าให้ฟังค่ะ ตอนลูกคนโตอยู่ ม.3 กำลังจะขึ้นม.4 เขาเรียนเก่ง เกรด 3 ขึ้นไปตลอด พ่อแม่อยากให้เขาเรียนสายวิทย์ เพราะดูมีช่องทางเลือกเข้ามหาลัยได้มากกว่า แต่เขายืนกรานจะเรียนสายศิลป์ (เพราะไม่ชอบคณิต แล้วเขาเก่งอังกฤษมาก) เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ลูกเถึยงพ่อแม่ไม่ยอมทำตามในคำแนะนำถึงกับร้องไห้ คุณพ่อก็โกรธมากจะบังคับลูกท่าเดียว เราเป็นแม่ต้องทำตัวเป็นคนกลางคุยกับคุณพ่อว่า เราเลี้ยงลูกมาเราสอนให้เขาคิดให้เป็นเราสอนให้เขาใช้เหตุผลมาตลอดและเราให้ลูกเลือกและทำในสิ่งที่เขาชอบเขารักมาตลอดสนับสนุนลูกในทุกๆเรื่องที่เขารักชอบเพราะเราทั้งคู่คิดตรงกันว่าคนเราจะทำในสิ่งที่ตัวเองรักได้ดีที่สุด แล้วเราจะมาบังคับลูกโดยไม่ฟังเหตุผลของเขา มันจะถูกหรือ งั้นที่สอนเขามาก็จะผิดหมดน่ะซิ คุณพ่อเขาเลยหยุดโกรธหยุดโมโห แล้วเสนอเงื่อนไข โดยบอกให้เขาไปหาเหตุผลว่าทำไมเขาอยากเรียนสายศิลป์เรียนแล้วเขาจะเอาไปทำงานด้านใดได้บ้าง ให้ลูกไปเขียนมา เขาก็ไปทำค่ะ สุดท้ายเมื่อคุณพ่ออ่านที่เขาเขียนแล้ว ก็ต้องอนุญาตให้เขาเลือกเรียนตามใจเขาเพราะเขามีเหตุผลของเขาที่ใช้ได้ค่ะ
เขาก็ได้เรียนในสิ่งที่เขาชอบเขาต้องการ เขาก็เรียนได้ดีมาก เขาเข้ามหาลัยได้ติดมหาลัยธรรมศาสตร์คณะศิลปศาสตร์ สาขาปรัชญา ซึ่งรับแค่ 20 คน ตอนนี้เขาจบตรีแล้ว กำลังทำโทที่จุฬา มาถึงตอนนี้เราลองย้อนถามว่าลูกรักชอบปรัชญาจริงๆหรือ(เพราะวิชาที่เขาเรียนเราว่ามันยากมากๆเข้าใจยากคุยกับคนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีคนรู้เรื่อง) เขาตอบเรามาอย่างนี้ค่ะ
เขาบอกว่า คุณแม่ ไม่จำเป็นต้องรักก็ได้ แต่เมื่อได้เลือกที่จะเรียนแล้วก็ต้องเรียนรู้อย่างเข้าใจ และเมื่อเลือกไปแล้วก็ต้องทำใจให้รักชอบในสิ่งนั้นแล้วเราก็จะรักมันได้เองเมื่อเรารู้จริงในสิ่งที่เราเรียน
อืมอันนี้เราชอบมากค่ะ เพราะเมื่อลูกยังเล็กๆ เราบอกลูกเสมอว่าไม่ต้องเรียนให้ได้ที่ 1 ก็ได้ เกรดเท่าไรก็ไม่สำคัญ แค่ขอให้ลูกได้เรียนรู้อย่างเข้าใจในสิ่งที่เรียนเท่านั้นแม่ก็พอใจแล้ว เพราะถึงวันนี้สิ่งที่เราสอนลูกมันก็ให้ผลอย่างที่เราต้องการแล้วค่ะ
หวังว่าคงมีประโยชน์ต่อคนเป็นพ่อแม่ได้บ้างนะคะ อนาคตเป็นของเขาให้โอกาสเขาได้เลือกด้วยตนเองเถิดค่ะ แล้วเราคอยมองคอยประคองเขาคอยให้คำแนะนำเขาเมื่อสมควรหรือเมื่อเขาต้องการดีที่สุดค่ะ
ความคิดเห็นที่ 9
จขกท เป็นคุณแม่ แต่อยากให้ลูกเรียนบัญชี
แปลกใจ ... สมัยนี้แล้ว ยังมีพ่อแม่ที่บังคับลูก (ลูกที่อายุ 17-18 ขวบ) อีกหรือ ทำให้คิดไปถึงอดีตที่พ่อแม่ชอบบังคับลูกให้แต่งงานกับคนที่ตัวชอบ โดยไม่ได้คิดเลยว่า หากผิดพลาด คนตกนรก คือ ลูกตัวเองแท้ๆ
คำแนะนำ .. คุณแม่น่าจะไปเรียนบัญชีตามฝันของตัวเองค่ะ อย่าบังคับลูกทำตามฝันของตัวค่ะ

แปลกใจ ... สมัยนี้แล้ว ยังมีพ่อแม่ที่บังคับลูก (ลูกที่อายุ 17-18 ขวบ) อีกหรือ ทำให้คิดไปถึงอดีตที่พ่อแม่ชอบบังคับลูกให้แต่งงานกับคนที่ตัวชอบ โดยไม่ได้คิดเลยว่า หากผิดพลาด คนตกนรก คือ ลูกตัวเองแท้ๆ
คำแนะนำ .. คุณแม่น่าจะไปเรียนบัญชีตามฝันของตัวเองค่ะ อย่าบังคับลูกทำตามฝันของตัวค่ะ
ความคิดเห็นที่ 19
สวัสดีค่ะคุณแม่ ก่อนอื่นต้องแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องให้คุณแม่ทราบก่อนว่า
คณะรัฐศาสตร์ ที่เกษตร ไม่มีนะคะ
มีแต่ “คณะสังคมศาสตร์” ภาควิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โอเค เมื่อเราเข้าใจกันตรงนี้ มาเราของตอบดังนี้ค่ะ
คำตอบแรกในฐานะที่เป็น นิสิตปริญญาโท ของ “คณะสังคมศาสตร์” ภาควิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ ม.เกษตรฯ นี่แหละค่ะ บอกเลยว่า สาขานี้ เรียนยากจริงค่ะ หนังสือ เอกสารประกอบการเรียน ก็70% เป็น ภาษาอังกฤษทั้งนั้น เหมือนอารมณ์ว่า จ่ายเงินเรียนภาคภาษาไทย แต่กำไรได้เรียนอินเตอร์ ยังไงยังงั้น แต่สำหรับสาขานี้ เราคิดว่ามันไม่ได้ยากไปกว่าการเรียนบัญชี หรือ เรียนวิศวะ หรือเรียนหมอ เพราะแต่ละคนมีความถนัดไม่เหมือนกัน ทีนี้มาพูดถึงการเรียน
ตอบในฐานะเด็กที่เคยเป็นลูก และเคยผ่านภาวะแบบนี้มาก่อน – ต้องบอกเลยว่าก่อนที่จะจิตตกคิดมาก คุณแม่เคยเอาหนังสือแนะนำวิชาเรียน หรือ หนังสือที่พูดถึงสโคปการเรียนในแต่ละวิชามานั่งทำความเข้าใจกับคุณลูกไหมคะ ถ้ายัง แนะนำให้ทำ เปิดรายวิชาเลยค่ะ แล้วก็คุยกับคุณลูกว่า ดูวิชานี้สิ วิชานั่นสิ แม่ว่าถ้าเรียนไปแล้วในชีวิตจริงใช้ได้ไหม หรือลูกว่าไง
แล้วทีนี้ก็เอาหนังสือรายละเอียดวิชาเรียนในสาขาบัญชีมาให้ดูอีก ละก็ดูด้วยกัน พูดแบบเดิม ชี้ให้ลูกคุณเห็นค่ะ ว่า วิชาในสาขาใด น่าจะเอาไปใช้ได้
ถ้าไปประกอบสัมมาอาชีพในชีวิตจริง เพราะเราคิดว่า เด็กอายุ 17-18 ต้องการเหตุผล มากกว่าที่จะห้ามแล้วบอกเหตุผลว่า หางานยาก
ลูกไม่เข้าใจหรอกค่ะ หางานยากแล้วยังไงเหรอ? คือเด็กมองภาพไม่ออกค่ะถ้าเราเป็นลูก เราก็คงน้อยใจค่ะ ที่แม่มาบอกลูกไม่เข้าใจแม่ แต่แม่ยังไม่พยายามเข้าใจลูกเลยเหมือนกัน เราเองไม่เคยเป็นแม่คน
แต่สำหรับเราเห็นการกระทำที่ผ่านมาของแม่และพ่อของเรา แล้วรู้สึกว่า
ท่านทั้งสองหนักแน่นและมีเหตุผลมาก และดูไม่จิตตกเหมือน คุณแม่จขกท.(ขอโทษนะคะถ้าพูดแรง)
เนื่องจาก ตอนที่เราเรียน ป.ตรี ในสาขาที่เปิดใหม่ ในม.เกษตร นี่ละ แม่ก็ไม่ปลื้มเท่าไร แต่แม่ บอกว่า
ไหนลูกอธิบายมาสิ ลูกเรียนแล้วได้อะไร ลูกจบไปแล้ว ลูกจะไปทำงานอะไร หรือ มีความคิดจะทำอะไรต่อไป
ทีนี้เราอยากเรียน เราก็ไปหาเหตุผล ไปหาข้อมูลมาอธิบายให้แม่ฟังจนแม่ยอมให้เราเลยจนได้ แล้วแม่ก็ทิ้งท้ายว่า
ถ้าชอบก็เรียน ถ้าเรียนแล้วมีความสุขอะไรดีๆ มันก็จะเข้ามา อีกอย่าง ถ้าลูกเรียนสาขานี้ 4 ปี ต้องจบ และต้องมีงานทำ ไม่งั้นแม่ไม่เลี้ยงนะ เพราะแม่อยากให้ลูกเรียนบริหาร จบมางานหาง่าย ลูกเรียนสาขานี้แม่ไม่รู้จัก แต่จบมาต้องทำงาน “ให้ได้”
พอมาถึงในระดับปริญญาโทก็เช่นกัน เราทำงานเกี่ยวกับทางด้านธุรกิจ
ก็น่าจะเรียนบริหาร MBA หรือ เกี่ยวกับงานที่ทำ แต่เราก็เลือกเรียน IR ค่ะ
แม่ก็ให้เหตุผลเดิม แต่แม่ไม่ติดเรื่องงานทำแล้ว เพราะแม่รู้ว่า เลี้ยงตัวเองทำงานได้แล้ว
สุดท้ายตอบในฐานะแรงงานและคนทำงาน – เราเรียนจบในสาขาที่คนแทบไม่รุ้จัก แถมยังเปิดเป็นปีแรกในปีที่เราเข้า สาขาเราจบมา มีทางเลือกไม่มากค่ะ ไม่ต่อโทเพื่อเป็นอาจารย์ ก็ ต้องทำงานอื่นๆ หรือไม่ก็เตะฝุ่นค่ะ แต่เราก็สามารถเรียนจบ สามปีครึ่ง ได้งานก่อนเรียนจบ 1 เดือน เริ่มทำงานธนาคารเป็นที่แรก และไม่ใช่งานขายหน้าเคาเตอร์ด้วยนะคะ ทำที่สำนักงานใหญ่ในฝ่ายต่างประเทศ ทั้งที่ภาษาอังกฤษก็กะโหลกกะลา แต่ทั้งหมดนี้อยู่ที่ความตั้งใจล้วนๆค่ะ ทำได้สักปี ก็เปลี่ยนงานใน บ.ที่มั่นคง ระดับหนึ่งในประเทศ เงินเดือน มากกว่า 20K ที่พูดมาไม่ได้ตั้งใจจะอวดว่าตัวเองเก่ง แต่แค่จะบอกว่า ขนาดคนกะโหลกกะลาอย่างเรา ยังก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ได้จบสาขาเริ่ดหรู อะไรเลย ยังทำงานดีๆได้ แล้วทำไมคุณลูกของคุณจะทำงานในที่ที่ดีๆไม่ได้ บางครั้งการที่เราเรียนอย่างมีความสุข ได้ทำงานที่ทำแล้วมีความสุข มันน่าจะดีกว่า เรียนอย่างไม่มีความสุข แล้วต้องมาทำงานที่ไม่ชอบอีกนะคะ อย่าคิดว่างานทำบัญชีสนุก เพื่อนเราจบบัญชี มาเป็นพนักงานบัญชี ได้ 1 ปี ลาออกเลยค่ะ ทนความเครียดไม่ไหว ทั้งๆที่ชอบการทำบัญชี แล้วยิ่งลูกคุณไม่มีความสุขตั้งแต่ที่จะเรียนแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการทำงานเลยค่ะ มันจะน่าอึดอัดสักแค่ไหน เราไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่รู้สึกอย่างไร แต่สำหรับเรา เราคิดว่าถ้าพ่อแม่เห็นลูกมีความสุข ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
สุดท้าย เส้นทางสายอาชีพของ IR ไม่ได้จบแค่ที่กระทรวงการต่างประเทศก็ได้นะคะ อาจจะเป็น อาจาร์ย ทำงานด้านต่างประเทศในบริษัทต่างๆ หรือหน่วยงานราชการอื่นๆในฝ่ายต่างประเทศ จะรับของมาขายนำเข้า ส่งออกก็ยังได้ หรือถ้าคุณคิดว่า คุณไม่สบายใจจริงๆ แนะนำให้ลองหาหลักสูตร บริหารระหว่างประเทศ ดูค่ะ แล้วคุยกับลูก ทำเหมือนที่บอกตอนแรก เอาหลักสูตรมาดู พบกันครึ่งทางลูกได้เรียนเกี่ยวกับต่างประเทศ และมีความรู้ด้านธุรกิจ แบบนี้จะดีไหม ลองดูค่ะ
คณะรัฐศาสตร์ ที่เกษตร ไม่มีนะคะ
มีแต่ “คณะสังคมศาสตร์” ภาควิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โอเค เมื่อเราเข้าใจกันตรงนี้ มาเราของตอบดังนี้ค่ะ
คำตอบแรกในฐานะที่เป็น นิสิตปริญญาโท ของ “คณะสังคมศาสตร์” ภาควิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ ม.เกษตรฯ นี่แหละค่ะ บอกเลยว่า สาขานี้ เรียนยากจริงค่ะ หนังสือ เอกสารประกอบการเรียน ก็70% เป็น ภาษาอังกฤษทั้งนั้น เหมือนอารมณ์ว่า จ่ายเงินเรียนภาคภาษาไทย แต่กำไรได้เรียนอินเตอร์ ยังไงยังงั้น แต่สำหรับสาขานี้ เราคิดว่ามันไม่ได้ยากไปกว่าการเรียนบัญชี หรือ เรียนวิศวะ หรือเรียนหมอ เพราะแต่ละคนมีความถนัดไม่เหมือนกัน ทีนี้มาพูดถึงการเรียน
ตอบในฐานะเด็กที่เคยเป็นลูก และเคยผ่านภาวะแบบนี้มาก่อน – ต้องบอกเลยว่าก่อนที่จะจิตตกคิดมาก คุณแม่เคยเอาหนังสือแนะนำวิชาเรียน หรือ หนังสือที่พูดถึงสโคปการเรียนในแต่ละวิชามานั่งทำความเข้าใจกับคุณลูกไหมคะ ถ้ายัง แนะนำให้ทำ เปิดรายวิชาเลยค่ะ แล้วก็คุยกับคุณลูกว่า ดูวิชานี้สิ วิชานั่นสิ แม่ว่าถ้าเรียนไปแล้วในชีวิตจริงใช้ได้ไหม หรือลูกว่าไง
แล้วทีนี้ก็เอาหนังสือรายละเอียดวิชาเรียนในสาขาบัญชีมาให้ดูอีก ละก็ดูด้วยกัน พูดแบบเดิม ชี้ให้ลูกคุณเห็นค่ะ ว่า วิชาในสาขาใด น่าจะเอาไปใช้ได้
ถ้าไปประกอบสัมมาอาชีพในชีวิตจริง เพราะเราคิดว่า เด็กอายุ 17-18 ต้องการเหตุผล มากกว่าที่จะห้ามแล้วบอกเหตุผลว่า หางานยาก
ลูกไม่เข้าใจหรอกค่ะ หางานยากแล้วยังไงเหรอ? คือเด็กมองภาพไม่ออกค่ะถ้าเราเป็นลูก เราก็คงน้อยใจค่ะ ที่แม่มาบอกลูกไม่เข้าใจแม่ แต่แม่ยังไม่พยายามเข้าใจลูกเลยเหมือนกัน เราเองไม่เคยเป็นแม่คน
แต่สำหรับเราเห็นการกระทำที่ผ่านมาของแม่และพ่อของเรา แล้วรู้สึกว่า
ท่านทั้งสองหนักแน่นและมีเหตุผลมาก และดูไม่จิตตกเหมือน คุณแม่จขกท.(ขอโทษนะคะถ้าพูดแรง)
เนื่องจาก ตอนที่เราเรียน ป.ตรี ในสาขาที่เปิดใหม่ ในม.เกษตร นี่ละ แม่ก็ไม่ปลื้มเท่าไร แต่แม่ บอกว่า
ไหนลูกอธิบายมาสิ ลูกเรียนแล้วได้อะไร ลูกจบไปแล้ว ลูกจะไปทำงานอะไร หรือ มีความคิดจะทำอะไรต่อไป
ทีนี้เราอยากเรียน เราก็ไปหาเหตุผล ไปหาข้อมูลมาอธิบายให้แม่ฟังจนแม่ยอมให้เราเลยจนได้ แล้วแม่ก็ทิ้งท้ายว่า
ถ้าชอบก็เรียน ถ้าเรียนแล้วมีความสุขอะไรดีๆ มันก็จะเข้ามา อีกอย่าง ถ้าลูกเรียนสาขานี้ 4 ปี ต้องจบ และต้องมีงานทำ ไม่งั้นแม่ไม่เลี้ยงนะ เพราะแม่อยากให้ลูกเรียนบริหาร จบมางานหาง่าย ลูกเรียนสาขานี้แม่ไม่รู้จัก แต่จบมาต้องทำงาน “ให้ได้”
พอมาถึงในระดับปริญญาโทก็เช่นกัน เราทำงานเกี่ยวกับทางด้านธุรกิจ
ก็น่าจะเรียนบริหาร MBA หรือ เกี่ยวกับงานที่ทำ แต่เราก็เลือกเรียน IR ค่ะ
แม่ก็ให้เหตุผลเดิม แต่แม่ไม่ติดเรื่องงานทำแล้ว เพราะแม่รู้ว่า เลี้ยงตัวเองทำงานได้แล้ว
สุดท้ายตอบในฐานะแรงงานและคนทำงาน – เราเรียนจบในสาขาที่คนแทบไม่รุ้จัก แถมยังเปิดเป็นปีแรกในปีที่เราเข้า สาขาเราจบมา มีทางเลือกไม่มากค่ะ ไม่ต่อโทเพื่อเป็นอาจารย์ ก็ ต้องทำงานอื่นๆ หรือไม่ก็เตะฝุ่นค่ะ แต่เราก็สามารถเรียนจบ สามปีครึ่ง ได้งานก่อนเรียนจบ 1 เดือน เริ่มทำงานธนาคารเป็นที่แรก และไม่ใช่งานขายหน้าเคาเตอร์ด้วยนะคะ ทำที่สำนักงานใหญ่ในฝ่ายต่างประเทศ ทั้งที่ภาษาอังกฤษก็กะโหลกกะลา แต่ทั้งหมดนี้อยู่ที่ความตั้งใจล้วนๆค่ะ ทำได้สักปี ก็เปลี่ยนงานใน บ.ที่มั่นคง ระดับหนึ่งในประเทศ เงินเดือน มากกว่า 20K ที่พูดมาไม่ได้ตั้งใจจะอวดว่าตัวเองเก่ง แต่แค่จะบอกว่า ขนาดคนกะโหลกกะลาอย่างเรา ยังก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ได้จบสาขาเริ่ดหรู อะไรเลย ยังทำงานดีๆได้ แล้วทำไมคุณลูกของคุณจะทำงานในที่ที่ดีๆไม่ได้ บางครั้งการที่เราเรียนอย่างมีความสุข ได้ทำงานที่ทำแล้วมีความสุข มันน่าจะดีกว่า เรียนอย่างไม่มีความสุข แล้วต้องมาทำงานที่ไม่ชอบอีกนะคะ อย่าคิดว่างานทำบัญชีสนุก เพื่อนเราจบบัญชี มาเป็นพนักงานบัญชี ได้ 1 ปี ลาออกเลยค่ะ ทนความเครียดไม่ไหว ทั้งๆที่ชอบการทำบัญชี แล้วยิ่งลูกคุณไม่มีความสุขตั้งแต่ที่จะเรียนแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการทำงานเลยค่ะ มันจะน่าอึดอัดสักแค่ไหน เราไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่รู้สึกอย่างไร แต่สำหรับเรา เราคิดว่าถ้าพ่อแม่เห็นลูกมีความสุข ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
สุดท้าย เส้นทางสายอาชีพของ IR ไม่ได้จบแค่ที่กระทรวงการต่างประเทศก็ได้นะคะ อาจจะเป็น อาจาร์ย ทำงานด้านต่างประเทศในบริษัทต่างๆ หรือหน่วยงานราชการอื่นๆในฝ่ายต่างประเทศ จะรับของมาขายนำเข้า ส่งออกก็ยังได้ หรือถ้าคุณคิดว่า คุณไม่สบายใจจริงๆ แนะนำให้ลองหาหลักสูตร บริหารระหว่างประเทศ ดูค่ะ แล้วคุยกับลูก ทำเหมือนที่บอกตอนแรก เอาหลักสูตรมาดู พบกันครึ่งทางลูกได้เรียนเกี่ยวกับต่างประเทศ และมีความรู้ด้านธุรกิจ แบบนี้จะดีไหม ลองดูค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เครียดจังลูกเรียนคณะรัฐศาสตร์ IR
ขอความเห็นทานสมาชิกที่พอรู้ได้มั๊ยคะ บางทีก็อยากทิ้งเงินที่เสียค่าเรียน แล้วให้ไปเรียนคณะอื่น แต่เป็นม.เอกชน