คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ขอเิพิ่มเติมส่วนของความรู้นิดนึงนะคะ สำหรับคนที่ยังไม่มั่นใจเรื่องของขนสัตว์เข้าไปในปอดค่ะ
ขอยืนยันอีกครั้งว่าขนสัตว์ไม่สามารถเข้าไปถึงในปอดได้ค่ะ และสาเหตุของการแพ้สัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นจากขน แต่เป็นจากการแพ้โปรตีนจากผิวหนัง หรือสารคัดหลั่งต่างๆ จากสัตว์ค่ะ
สาเหตุที่ขนสัตว์ไม่สามารถเข้าไปถึงปอดได้ เนื่องจาก ร่างกายของคนเรามีการป้องกันการสูดเอาอนุภาค(particle)ในอากาศพวกนี้ได้ค่ะ
กลไกนี่เริ่มตั้งแต่จมูกเลยค่ะ จมูกคนเราจะมีลักษณะเป็นหลืบ (turbinate) และทางเดินหายใจส่วนคอหอย(nasopharynx) ยังโค้งอีกค่ะ บริเวณเยื่อบุทางเดินหายใจ(mucosa) ก็จะมีสารคัดหลั่ง(secretion) เปียกๆ ตลอดเวลา ดักพวกฝุ่นได้อย่างดีค่ะ นอกจากนี้ยังมีขนจมูก , ขนเล็กๆ ที่เรามองไม่เห็น (cilia) คอยดักจับฝุ่น ซ้ำยังสามารถพัดโบกออกมาทิ้งข้างนอกได้อีกนะคะ แล้วเรายังมีกลไกการจามเวลาที่เราสูดสิ่งแปลกปลอมเข้าไปด้วยค่ะ
รูปประกอบค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
particle ในอากาศที่จะลงไปถึงหลอดลม(trachea)ได้ ต้องเล็กมากๆ ขนาดน้อยกว่า 10 micron เลยนะคะ ยิ่งถ้าลงไปถึงถุงลมปอด(alveoli)ได้เนี่ย ต้องเล็กแค่ 1-2 micron เลยค่ะ
บทความประกอบค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปประกอบให้ดูง่ายขึ้นค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนเส้นผม/ขน หน้าตัดจะมีขนาดประมาณ 100 micron ค่ะ แถมรูปร่่างยังยาวๆซะอีก โดนดักหมดตั้งแต่จมูกแล้วค่ะ ไม่ได้แอ้มลงไปในปอดหรอกค่ะ
กรณีที่จะลงไปได้คือ คนไข้ที่เจาะคอ(tracheostomy) หายใจผ่านหลอดลมโดยตรง หลอดลมจะดักจับแทนค่ะ
และการแพ้สัตว์เลี้ยง ไม่ได้เกิดจากการแพ้ขนสัตว์ค่ะ แต่เกิดจากการที่แพ้โปรตีนจากสัตว์ เช่น ผิวหนังที่หลุดลอกหรือรังแค(dander),สารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำลาย ปัสสาวะ ที่แห้งแล้วฟุ้งไปในอากาศค่ะ ซึ่งอนุำภาคพวกนี้เล็กพอจะลงไปปอดได้ค่ะ ประมาณ 1-20 micron
อ่านประกอบค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดังนั้น การแพ้จึงไม่เกี่ยวกับว่า สัตว์เลี้ยงขนเยอะแค่ไหน ขนร่วงแค่ไหน เพราะไม่มีขนก็แพ้ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมากกว่า โดยโปรตีนของแมว ทำให้เกิดอาการแพ้ในคนได้บ่อยที่สุดค่ะ และโปรตีนของสัตว์แต่ละชนิดไม่เหมือนกันดังนั้นถึงแม้จะแพ้แมวแต่อาจไม่แพ้สัตว์อื่นได้ค่ะ
การจัดการสิ่งแวดล้อมในกรณีที่แพ้สัตว์เลี้ยงนะคะ ตามนี้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่สำคัญ ดูให้แน่ว่าแพ้อะำไรกันแน่ค่ะ ในบ้านของเรามีอีกหลายๆอย่างที่ตาเรามองไม่เห็นแต่ทำให้แพ้ได้บ่อยนะคะ เช่น โปรตีนจากไรฝุ่น , แมลงสาบ , เกสรดอกไม้ พวกนี้เป็นผงเล็กๆที่ลอยไปมาในอากาศ พวกนี้เรามองไม่เห็นจึงไม่ค่อยมีใครโทษมันค่ะ แต่สัตว์เลี้ยงวิ่งไปวิ่งมา เห็นอยู่ตำตาเลยมักตกเป็นจำเลยที่ 1 เสมอค่ะ
ขอยืนยันอีกครั้งว่าขนสัตว์ไม่สามารถเข้าไปถึงในปอดได้ค่ะ และสาเหตุของการแพ้สัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นจากขน แต่เป็นจากการแพ้โปรตีนจากผิวหนัง หรือสารคัดหลั่งต่างๆ จากสัตว์ค่ะ
สาเหตุที่ขนสัตว์ไม่สามารถเข้าไปถึงปอดได้ เนื่องจาก ร่างกายของคนเรามีการป้องกันการสูดเอาอนุภาค(particle)ในอากาศพวกนี้ได้ค่ะ
กลไกนี่เริ่มตั้งแต่จมูกเลยค่ะ จมูกคนเราจะมีลักษณะเป็นหลืบ (turbinate) และทางเดินหายใจส่วนคอหอย(nasopharynx) ยังโค้งอีกค่ะ บริเวณเยื่อบุทางเดินหายใจ(mucosa) ก็จะมีสารคัดหลั่ง(secretion) เปียกๆ ตลอดเวลา ดักพวกฝุ่นได้อย่างดีค่ะ นอกจากนี้ยังมีขนจมูก , ขนเล็กๆ ที่เรามองไม่เห็น (cilia) คอยดักจับฝุ่น ซ้ำยังสามารถพัดโบกออกมาทิ้งข้างนอกได้อีกนะคะ แล้วเรายังมีกลไกการจามเวลาที่เราสูดสิ่งแปลกปลอมเข้าไปด้วยค่ะ
รูปประกอบค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
particle ในอากาศที่จะลงไปถึงหลอดลม(trachea)ได้ ต้องเล็กมากๆ ขนาดน้อยกว่า 10 micron เลยนะคะ ยิ่งถ้าลงไปถึงถุงลมปอด(alveoli)ได้เนี่ย ต้องเล็กแค่ 1-2 micron เลยค่ะ
บทความประกอบค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปประกอบให้ดูง่ายขึ้นค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนเส้นผม/ขน หน้าตัดจะมีขนาดประมาณ 100 micron ค่ะ แถมรูปร่่างยังยาวๆซะอีก โดนดักหมดตั้งแต่จมูกแล้วค่ะ ไม่ได้แอ้มลงไปในปอดหรอกค่ะ
กรณีที่จะลงไปได้คือ คนไข้ที่เจาะคอ(tracheostomy) หายใจผ่านหลอดลมโดยตรง หลอดลมจะดักจับแทนค่ะ
และการแพ้สัตว์เลี้ยง ไม่ได้เกิดจากการแพ้ขนสัตว์ค่ะ แต่เกิดจากการที่แพ้โปรตีนจากสัตว์ เช่น ผิวหนังที่หลุดลอกหรือรังแค(dander),สารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำลาย ปัสสาวะ ที่แห้งแล้วฟุ้งไปในอากาศค่ะ ซึ่งอนุำภาคพวกนี้เล็กพอจะลงไปปอดได้ค่ะ ประมาณ 1-20 micron
อ่านประกอบค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดังนั้น การแพ้จึงไม่เกี่ยวกับว่า สัตว์เลี้ยงขนเยอะแค่ไหน ขนร่วงแค่ไหน เพราะไม่มีขนก็แพ้ได้ค่ะ ขึ้นอยู่กับสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดมากกว่า โดยโปรตีนของแมว ทำให้เกิดอาการแพ้ในคนได้บ่อยที่สุดค่ะ และโปรตีนของสัตว์แต่ละชนิดไม่เหมือนกันดังนั้นถึงแม้จะแพ้แมวแต่อาจไม่แพ้สัตว์อื่นได้ค่ะ
การจัดการสิ่งแวดล้อมในกรณีที่แพ้สัตว์เลี้ยงนะคะ ตามนี้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่สำคัญ ดูให้แน่ว่าแพ้อะำไรกันแน่ค่ะ ในบ้านของเรามีอีกหลายๆอย่างที่ตาเรามองไม่เห็นแต่ทำให้แพ้ได้บ่อยนะคะ เช่น โปรตีนจากไรฝุ่น , แมลงสาบ , เกสรดอกไม้ พวกนี้เป็นผงเล็กๆที่ลอยไปมาในอากาศ พวกนี้เรามองไม่เห็นจึงไม่ค่อยมีใครโทษมันค่ะ แต่สัตว์เลี้ยงวิ่งไปวิ่งมา เห็นอยู่ตำตาเลยมักตกเป็นจำเลยที่ 1 เสมอค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เด็กทารก กับ ขนกระต่าย อันตรายมั้ยคะ?
จนปัจจุบัน เราท้องได้ 6 เดือนกว่าแล้ว ตอนนี้อยู่คอนโด และมีน้องต่าย 4 ชีวิต
การอยู่อาศัย
เรามีกรงทั้งหมด 3 กรง โดยจะเปลี่ยนเวรกันออกมาวิ่ง โดยจะมี 1 ชีวิตที่อยู่นอกกรง (สลับกันทุกวัน)
เวลาทำความสะอาดกรง เราใส่ถุงมืออยู่แล้ว (แฟนเป็นช่างสัก ดังนั้นถุงมือหมอเด็มบ้านค่ะ)
ปัญหามีอยู่ว่า
แม่เรา แม่แฟน ญาติๆทั้งหลาย มาไซโคเราด้วยหัวข้อเดียวกันว่า ให้เอากระต่ายไปปล่อย
หรือให้คนอื่นไปซะ (ไซโคตั้งแต่ตอนเริ่มท้องเดือนแรกแล้ว)
เราก็ตีมึนมาเรื่อยๆ จนตอนนี้แม่เราก็มาบ่นๆอีกว่า กลัวหลานคลอดออกมาแล้วจะแพ้ขนกระต่าย
เด็กอ่อนแพ้ง่าย ไม่สงสารลูกหรอ (ในใจเราก็คิดนะว่า กระต่ายที่เลี้ยงมา เค้าก็มีแต่เรา เอาเค้าไปปล่อย ไม่สงสารเค้าหรอ)
เอาไปปล่อยซะ ถ้าจะเลี้ยงก็รอลูกเข้าโรงเรียนก่อน
คือเรากะว่า ในเร็วๆนี้ เราจะซื้อกรงมาเพิ่มอีกกรงนึงให้พออยู่อาศัยได้ทุกตัวอ่ะนะ
แล้วก็ก่อนลูกคลอดก็คงซื้อพัดลมฟอกอากาศด้วย (ที่ห้องมีแอร์อยู่แล้ว)
อยากจะถามพี่ๆว่า ถ้าเราเลี้ยงในกรง (อย่าลืมว่าของเราเป็นคอนโด)
มีพัดลมฟอกอากาศ มีเครื่องปรับอากาศ (เวลาปล่อยเค้าออกมาวิ่งก็จะปล่อยเวลาที่แฟนอยู่ด้วย จะได้มีคนดูกระต่าย)
จะเป็นอะไรมั้ยคะ เพราะเราก็รักลูกเรา แต่เราก็รักน้องต่ายเหมือนกัน เพราะอย่างที่บอก..เค้าก็มีแต่เรา
ส่วนแฟนเราเค้าก็ไม่อยากยกกระต่ายให้คนอื่นเหมือนกันค่ะ