6 ศพสุดท้ายใน 99 ศพ
วงค์ ตาวัน
3ปีมาแล้ว สำหรับเหตุการณ์ 10 เมษายน - 19 พฤษภาคม 2553 ที่ชาวเสื้อแดงและประชาชน ผู้สูญเสียญาติพี่น้องไปในเหตุการณ์ 99 ศพ ยังคงรวมตัวกันชุมนุมเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง ต่อไป
เพราะ
คนตายยังไม่ได้รับความเป็นธรรม คนสั่งการจนมีคนตายนับร้อยกลางเมือง ยังไม่ยอมรับผิด
รวมทั้ง
การใส่ร้ายคนตายยังมีอยู่!
โดยเฉพาะ
การอ้างชายชุดดำ
ผ่านมาแล้ว 3 ปี การสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคืบหน้าไปเรื่อย
ศาลมีคำสั่งผลการไต่สวนแล้ว 5 ราย ตายด้วยกระสุนปืนเจ้าหน้าที่รัฐตามคำสั่งศอฉ.
ยังไม่มีศพไหนแม้แต่รายเดียว ที่บอกว่าเสื้อดำเป็น คนฆ่า
แม้แต่ฝ่ายศอฉ.เองก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ชายชุดดำที่ป่าวร้องนั้นเป็นใครมาจากไหน
เห็นกันแค่วับๆ แวมๆ
ขณะที่
สูตรสำเร็จของเผด็จการทั่วโลกเวลาปราบ ม็อบผิดพลาด ล้วนปั้นมือที่สามมาเป็นแพะ
มี
กรณี 6 ศพวัดปทุมวนาราม ที่ถือได้ว่าเป็นกลุ่มผู้ถูกสังหารชุดสุดท้าย
ลงมือกันหลัง 6 โมงเย็นของวันที่ 19 พ.ค. 2553 ไปจนถึงเกือบสว่าง
ทั้งที่ไม่มีการต่อสู้ของม็อบเสื้อแดงอีกแล้ว แต่เมื่อ เกิดการสังหารหมู่ในเขตอภัยทานอีก ศอฉ.ก็โยนไป ที่ชายชุดดำ
หลังเกิดเหตุ
สื่อมวลชนคุยกับคนในเหตุการณ์คืนนั้น คนเป็นพันไม่มีใครแม้แต่คนเดียวเห็นชายชุดดำ
ทุกคนเห็นเต็มตาว่า
เจ้าหน้าที่บนรางรถไฟฟ้าที่เล็ง ยิงใส่ สลับกับชุดเขียวอีกทีมที่วิ่งเข้ามายิงบนพื้นราบ
หลักฐานสำคัญชิ้นแรก คือ
วิดีโอที่ตำรวจบันทึกเอาไว้บนตึกสูง หลังแนวรถไฟฟ้า ที่ฝ่ายศอฉ.ก็คาดไม่ถึง
เห็นชัดว่า
ชายชุดเขียวสติ๊กเกอร์ชมพูที่หมวกเหล็ก ระดมยิงเข้าไป
สายตาตำรวจชุดนี้ไปเบิกความในศาลยังอธิบายว่า
ยิงลงไปในวัดอย่างเดียว ไม่มีการหลบหรือก้มเงยเลย!?!
แปลว่า
ยิงสบายๆ ไม่มีใครยิงต่อสู้
การตรวจบนรางรถไฟฟ้าและบนพื้นหน้าวัด
ของ ดีเอสไอก็ชัดเจนว่า ยิงจากบนลงล่างฝ่ายเดียว
เช่นเดียวกับ
กองพิสูจน์หลักฐานก็เพิ่งเบิกความว่า
มีแต่การยิงจากข้างบนลงมา ทุกศพไม่มีเขม่าดินปืนในมือ
คดีนี้อีกไม่นานจะรู้ผล
จะได้รู้กันว่าใครสั่งฆ่าคนมือเปล่าในวัด!
ที่มา...
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk9EazNOall3TWc9PQ==§ionid=
?????????????????????????????????????????
".......
ศาลมีคำสั่งผลการไต่สวนแล้ว
5 ราย ตายด้วยกระสุนปืนเจ้าหน้าที่รัฐตามคำสั่งศอฉ.
ยัง
ไม่มีศพไหนแม้แต่รายเดียว ที่บอกว่าเสื้อดำเป็น คนฆ่า......"
".....สูตรสำเร็จของเผด็จการทั่วโลกเวลาปราบ ม็อบผิดพลาด ล้วนปั้นมือที่สามมาเป็นแพะ
.....กรณี 6 ศพวัดปทุมวนาราม .....
ลงมือกันหลัง 6 โมงเย็นของวันที่ 19 พ.ค. 2553 ไปจนถึงเกือบสว่าง ทั้งที่ไม่มีการต่อสู้ของม็อบเสื้อแดงอีกแล้ว......"
"....สื่อมวลชน.... คนเป็นพัน
ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวเห็นชายชุดดำ
ทุกคนเห็นเต็มตาว่าเจ้าหน้าที่บนรางรถไฟฟ้าที่เล็ง ยิงใส่ สลับกับชุดเขียวอีกทีมที่วิ่งเข้ามายิงบนพื้นราบ
.....
วิดีโอที่ตำรวจบันทึกเอาไว้บนตึกสูง หลังแนวรถไฟฟ้า ที่ฝ่ายศอฉ.ก็คาดไม่ถึง
.....ชายชุดเขียวสติ๊กเกอร์ชมพูที่หมวกเหล็ก ระดมยิงเข้าไป
......
ยิงลงไปในวัดอย่างเดียว ไม่มีการหลบหรือก้มเงยเลย!?! แปลว่า
ยิงสบายๆ ไม่มีใครยิงต่อสู้
การตรวจบนรางรถไฟฟ้าและบนพื้นหน้าวัดของ ดีเอสไอก็ชัดเจนว่า
ยิงจากบนลงล่างฝ่ายเดียว
เช่นเดียวกับกองพิสูจน์หลักฐานก็เพิ่งเบิกความว่า มีแต่การยิงจากข้างบนลงมา
ทุกศพไม่มีเขม่าดินปืนในมือ....."
นี่คือข้อมูล - หลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการหาเหตุผล
ไม่ใช่การกุเรื่อง ปั้นเหตุ เต้าข่าว เหมือนที่คี่ค่าเผด็จการชอบกระทำ
หากมีสำนึกละอายอยู่บ้างแม้เพียงสักน้อยนิด
โปรดได้ตั้งสติก่อนจะเผยสันดอนที่เป็นที่น่ารังเกียจของสังคมอีกต่อไป
พวกนายไม่มีคุณประโยชน์ใดๆเลยต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในสังคมประเทศนี้
จะไปลงนรกขุมไหนก็รีบๆไปเถอะไป๊...........
"6 ศพสุดท้ายใน 99 ศพ"โดย วงค์ ตาวัน...ศาลมีคำสั่งผลการไต่สวนแล้ว 5 ราย ตายด้วยกระสุนปืนเจ้าหน้าที่รัฐตามคำสั่งศอฉ.
วงค์ ตาวัน
3ปีมาแล้ว สำหรับเหตุการณ์ 10 เมษายน - 19 พฤษภาคม 2553 ที่ชาวเสื้อแดงและประชาชน ผู้สูญเสียญาติพี่น้องไปในเหตุการณ์ 99 ศพ ยังคงรวมตัวกันชุมนุมเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง ต่อไป
เพราะคนตายยังไม่ได้รับความเป็นธรรม คนสั่งการจนมีคนตายนับร้อยกลางเมือง ยังไม่ยอมรับผิด
รวมทั้งการใส่ร้ายคนตายยังมีอยู่!
โดยเฉพาะการอ้างชายชุดดำ
ผ่านมาแล้ว 3 ปี การสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานคืบหน้าไปเรื่อย
ศาลมีคำสั่งผลการไต่สวนแล้ว 5 ราย ตายด้วยกระสุนปืนเจ้าหน้าที่รัฐตามคำสั่งศอฉ.
ยังไม่มีศพไหนแม้แต่รายเดียว ที่บอกว่าเสื้อดำเป็น คนฆ่า
แม้แต่ฝ่ายศอฉ.เองก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ชายชุดดำที่ป่าวร้องนั้นเป็นใครมาจากไหน
เห็นกันแค่วับๆ แวมๆ
ขณะที่สูตรสำเร็จของเผด็จการทั่วโลกเวลาปราบ ม็อบผิดพลาด ล้วนปั้นมือที่สามมาเป็นแพะ
มีกรณี 6 ศพวัดปทุมวนาราม ที่ถือได้ว่าเป็นกลุ่มผู้ถูกสังหารชุดสุดท้าย ลงมือกันหลัง 6 โมงเย็นของวันที่ 19 พ.ค. 2553 ไปจนถึงเกือบสว่าง
ทั้งที่ไม่มีการต่อสู้ของม็อบเสื้อแดงอีกแล้ว แต่เมื่อ เกิดการสังหารหมู่ในเขตอภัยทานอีก ศอฉ.ก็โยนไป ที่ชายชุดดำ
หลังเกิดเหตุ สื่อมวลชนคุยกับคนในเหตุการณ์คืนนั้น คนเป็นพันไม่มีใครแม้แต่คนเดียวเห็นชายชุดดำ
ทุกคนเห็นเต็มตาว่าเจ้าหน้าที่บนรางรถไฟฟ้าที่เล็ง ยิงใส่ สลับกับชุดเขียวอีกทีมที่วิ่งเข้ามายิงบนพื้นราบ
หลักฐานสำคัญชิ้นแรก คือ วิดีโอที่ตำรวจบันทึกเอาไว้บนตึกสูง หลังแนวรถไฟฟ้า ที่ฝ่ายศอฉ.ก็คาดไม่ถึง
เห็นชัดว่าชายชุดเขียวสติ๊กเกอร์ชมพูที่หมวกเหล็ก ระดมยิงเข้าไป
สายตาตำรวจชุดนี้ไปเบิกความในศาลยังอธิบายว่า ยิงลงไปในวัดอย่างเดียว ไม่มีการหลบหรือก้มเงยเลย!?!
แปลว่ายิงสบายๆ ไม่มีใครยิงต่อสู้
การตรวจบนรางรถไฟฟ้าและบนพื้นหน้าวัดของ ดีเอสไอก็ชัดเจนว่า ยิงจากบนลงล่างฝ่ายเดียว
เช่นเดียวกับกองพิสูจน์หลักฐานก็เพิ่งเบิกความว่า มีแต่การยิงจากข้างบนลงมา ทุกศพไม่มีเขม่าดินปืนในมือ
คดีนี้อีกไม่นานจะรู้ผล
จะได้รู้กันว่าใครสั่งฆ่าคนมือเปล่าในวัด!
ที่มา...http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk9EazNOall3TWc9PQ==§ionid=
?????????????????????????????????????????
".......ศาลมีคำสั่งผลการไต่สวนแล้ว 5 ราย ตายด้วยกระสุนปืนเจ้าหน้าที่รัฐตามคำสั่งศอฉ.
ยังไม่มีศพไหนแม้แต่รายเดียว ที่บอกว่าเสื้อดำเป็น คนฆ่า......"
".....สูตรสำเร็จของเผด็จการทั่วโลกเวลาปราบ ม็อบผิดพลาด ล้วนปั้นมือที่สามมาเป็นแพะ
.....กรณี 6 ศพวัดปทุมวนาราม ..... ลงมือกันหลัง 6 โมงเย็นของวันที่ 19 พ.ค. 2553 ไปจนถึงเกือบสว่าง ทั้งที่ไม่มีการต่อสู้ของม็อบเสื้อแดงอีกแล้ว......"
"....สื่อมวลชน.... คนเป็นพันไม่มีใครแม้แต่คนเดียวเห็นชายชุดดำ
ทุกคนเห็นเต็มตาว่าเจ้าหน้าที่บนรางรถไฟฟ้าที่เล็ง ยิงใส่ สลับกับชุดเขียวอีกทีมที่วิ่งเข้ามายิงบนพื้นราบ
.....วิดีโอที่ตำรวจบันทึกเอาไว้บนตึกสูง หลังแนวรถไฟฟ้า ที่ฝ่ายศอฉ.ก็คาดไม่ถึง
.....ชายชุดเขียวสติ๊กเกอร์ชมพูที่หมวกเหล็ก ระดมยิงเข้าไป
...... ยิงลงไปในวัดอย่างเดียว ไม่มีการหลบหรือก้มเงยเลย!?! แปลว่ายิงสบายๆ ไม่มีใครยิงต่อสู้
การตรวจบนรางรถไฟฟ้าและบนพื้นหน้าวัดของ ดีเอสไอก็ชัดเจนว่า ยิงจากบนลงล่างฝ่ายเดียว
เช่นเดียวกับกองพิสูจน์หลักฐานก็เพิ่งเบิกความว่า มีแต่การยิงจากข้างบนลงมา ทุกศพไม่มีเขม่าดินปืนในมือ....."
นี่คือข้อมูล - หลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการหาเหตุผล
ไม่ใช่การกุเรื่อง ปั้นเหตุ เต้าข่าว เหมือนที่คี่ค่าเผด็จการชอบกระทำ
หากมีสำนึกละอายอยู่บ้างแม้เพียงสักน้อยนิด
โปรดได้ตั้งสติก่อนจะเผยสันดอนที่เป็นที่น่ารังเกียจของสังคมอีกต่อไป
พวกนายไม่มีคุณประโยชน์ใดๆเลยต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในสังคมประเทศนี้
จะไปลงนรกขุมไหนก็รีบๆไปเถอะไป๊...........