Siam Business : UN ESCAP ชมนโยบายการคลังไทย ที่ช่วยรองรับความผันผวนเศรษฐกิจ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผอ.สนง.เศรษฐกิจการคลัง & โฆษกสนง.เศรษฐกิจการคลัง ได้เป็นผู้แทนประเทศไทย ในการเข้าร่วมหารือระดับสูงกับ ผู้วางนโยบายเศรษฐกิจในภูมิภาคAsia-Pacipic ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการเศรษฐกิจ&สังคม ขององค์การสหประชาชาติ (U.N. ESCAP High-level Policy Dialogue) ในหัวข้อ นโยบาย เศรษฐกิจ_มหภาค สำหรับการเติบโตที่ยั่งยืน&เป็นธรรม ในเอเชียตะวันออก (Macroeconomic Policies for Sustainable Growth with Equity in East Asia) ระหว่างวันที่ 15 - 17พค. 56 ณ. เมืองยอคยาการ์ตา Indonesia โดยมีรายละเอียด สรุปได้ :
นายเอกนิติฯ ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรในหัวข้อ นโยบายการคลัง เพื่อการพัฒนา&ผลฯ ต่องบประมาณ (Fiscal Policy for Development and its Budget Implication) โดยได้นำเสนอแนวการดำเนินนโยบายการคลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก&ปัจจัยภายในประเทศ ซึ่งได้ช่วยให้เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวได้รวดเร็วจากที่หดตัวถึง (-)2.3% ในปี '52 ให้กลับมาฟื้นตัวเป็น 7.8% ในปี '53 & จากที่ขยายตัวเพียง 0.1% ในปี '54 เป็น 6.4% ในปี '55
นายเอกนิติฯ ได้แนะแนวทางการออกแบบนโยบายการคลัง ที่มีประสิทธิผล ในการรองรับผลฯ จากวิกฤติเศรษฐกิจโลก 4ประการ ได้แก่...
(1) การเลือกใช้เครื่องมือการคลัง ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันท่วงที ( Timely )
(2) การกำหนดเป้าฯ ของการใช้นโยบายการคลัง ไปที่ผู้ที่มีรายได้น้อย ( Target )
ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในวงกว้างแล้ว ยังช่วยรองรับผลกระทบทางสังคม แก่ผู้มีรายได้น้อยด้วย
(3) การใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ เพียงชั่วคราว&มีระยะเวลาจำกัด ( Temporary )
ไม่เป็น ภาระการคลัง ในระยะยาว
(4) การสร้างความโปร่งใสทางการคลัง ( Transparency )
โดยเฉพาะการเปิดเผยข้อมูลการคลัง & ความยั่งยืนทางการคลัง ให้สาธารณชนได้รับทราบ & ตรวจสอบได้
นอกจากนี้ นายเอกนิติฯ ยังได้กล่าวถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ของ ก.การคลังไทย ในระยะปานกลาง ที่มุ่งเน้น 3ด้าน ได้แก่...
(1) ยุทธศาสตร์การคลัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจเอกชนไทย แข่งขันได้กับนานาประเทศ & การเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อลดต้นทุนการขนส่งให้แก่ภาคเอกชน
(2) ยุทธศาสตร์การคลัง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เช่น...
การปฏิรูประบบประกันสังคม ให้ครอบคลุมทั้งแรงงานในระบบ & นอกระบบ , การใช้ เครื่องมือ_กึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ มาช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้มีรายได้น้อย & ธุรกิจรายย่อย
(3) ยุทธศาสตร์ การรักษาความยั่งยืนการคลัง ในระยะ... " ยาวๆ "
โดยเฉพาะการกำกับดูแลหนี้สาธารณะต่อรายได้ (GDP) ไม่ให้เกินร้อยละ 60 , ดังนั้น การดำเนินนโยบายการคลัง ที่มียุทธศาสตร์ระยะปานกลางที่ชัดเจน ดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน & เป็นธรรม ไปพร้อมๆ กัน
อนึ่ง! ในการประชุมหารือระดับสูงดังกล่าว ผู้แทนของ UN ESCAP ได้กล่าวชื่นชมการดำเนินนโยบายการคลังของไทย
ในการรองรับความผันผวนเศรษฐกิจโลก ไปพร้อมๆ กับ การกระจายรายได้ที่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้ยกตัวอย่างนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของไทย เป็น Case Study ให้แก่ประเทศสมาชิกอื่นๆ ที่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะเดียวกัน ก็เป็นนโยบายที่เน้น การกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจไปสู่ผู้มีรายได้น้อย (Inclusive Growth)
นอกจากนี้ นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของไทยนั้น ยังช่วยยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศ ผ่านการสนับสนุนให้เอกชนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งจะส่งผลดีต่อการยกระดับศักยภาพการผลิตของประเทศ ในระยะ... " ยาวๆ "
*** ยาหอม_UN : เศรษฐกิจ_THAI >> จะสามารถเติบโต ได้อย่าง... " ยั่งยืน & เป็นธรรม "
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผอ.สนง.เศรษฐกิจการคลัง & โฆษกสนง.เศรษฐกิจการคลัง ได้เป็นผู้แทนประเทศไทย ในการเข้าร่วมหารือระดับสูงกับ ผู้วางนโยบายเศรษฐกิจในภูมิภาคAsia-Pacipic ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการเศรษฐกิจ&สังคม ขององค์การสหประชาชาติ (U.N. ESCAP High-level Policy Dialogue) ในหัวข้อ นโยบาย เศรษฐกิจ_มหภาค สำหรับการเติบโตที่ยั่งยืน&เป็นธรรม ในเอเชียตะวันออก (Macroeconomic Policies for Sustainable Growth with Equity in East Asia) ระหว่างวันที่ 15 - 17พค. 56 ณ. เมืองยอคยาการ์ตา Indonesia โดยมีรายละเอียด สรุปได้ :
นายเอกนิติฯ ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรในหัวข้อ นโยบายการคลัง เพื่อการพัฒนา&ผลฯ ต่องบประมาณ (Fiscal Policy for Development and its Budget Implication) โดยได้นำเสนอแนวการดำเนินนโยบายการคลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก&ปัจจัยภายในประเทศ ซึ่งได้ช่วยให้เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวได้รวดเร็วจากที่หดตัวถึง (-)2.3% ในปี '52 ให้กลับมาฟื้นตัวเป็น 7.8% ในปี '53 & จากที่ขยายตัวเพียง 0.1% ในปี '54 เป็น 6.4% ในปี '55
นายเอกนิติฯ ได้แนะแนวทางการออกแบบนโยบายการคลัง ที่มีประสิทธิผล ในการรองรับผลฯ จากวิกฤติเศรษฐกิจโลก 4ประการ ได้แก่...
(1) การเลือกใช้เครื่องมือการคลัง ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันท่วงที ( Timely )
(2) การกำหนดเป้าฯ ของการใช้นโยบายการคลัง ไปที่ผู้ที่มีรายได้น้อย ( Target )
ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในวงกว้างแล้ว ยังช่วยรองรับผลกระทบทางสังคม แก่ผู้มีรายได้น้อยด้วย
(3) การใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ เพียงชั่วคราว&มีระยะเวลาจำกัด ( Temporary )
ไม่เป็น ภาระการคลัง ในระยะยาว
(4) การสร้างความโปร่งใสทางการคลัง ( Transparency )
โดยเฉพาะการเปิดเผยข้อมูลการคลัง & ความยั่งยืนทางการคลัง ให้สาธารณชนได้รับทราบ & ตรวจสอบได้
นอกจากนี้ นายเอกนิติฯ ยังได้กล่าวถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ของ ก.การคลังไทย ในระยะปานกลาง ที่มุ่งเน้น 3ด้าน ได้แก่...
(1) ยุทธศาสตร์การคลัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจเอกชนไทย แข่งขันได้กับนานาประเทศ & การเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อลดต้นทุนการขนส่งให้แก่ภาคเอกชน
(2) ยุทธศาสตร์การคลัง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เช่น...
การปฏิรูประบบประกันสังคม ให้ครอบคลุมทั้งแรงงานในระบบ & นอกระบบ , การใช้ เครื่องมือ_กึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ มาช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้มีรายได้น้อย & ธุรกิจรายย่อย
(3) ยุทธศาสตร์ การรักษาความยั่งยืนการคลัง ในระยะ... " ยาวๆ "
โดยเฉพาะการกำกับดูแลหนี้สาธารณะต่อรายได้ (GDP) ไม่ให้เกินร้อยละ 60 , ดังนั้น การดำเนินนโยบายการคลัง ที่มียุทธศาสตร์ระยะปานกลางที่ชัดเจน ดังกล่าวจะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน & เป็นธรรม ไปพร้อมๆ กัน
อนึ่ง! ในการประชุมหารือระดับสูงดังกล่าว ผู้แทนของ UN ESCAP ได้กล่าวชื่นชมการดำเนินนโยบายการคลังของไทย
ในการรองรับความผันผวนเศรษฐกิจโลก ไปพร้อมๆ กับ การกระจายรายได้ที่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้ยกตัวอย่างนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของไทย เป็น Case Study ให้แก่ประเทศสมาชิกอื่นๆ ที่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะเดียวกัน ก็เป็นนโยบายที่เน้น การกระจายการเติบโตทางเศรษฐกิจไปสู่ผู้มีรายได้น้อย (Inclusive Growth)
นอกจากนี้ นโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของไทยนั้น ยังช่วยยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศ ผ่านการสนับสนุนให้เอกชนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งจะส่งผลดีต่อการยกระดับศักยภาพการผลิตของประเทศ ในระยะ... " ยาวๆ "