สมัย จขกท ยังรุ่นๆ ก็เรียนพวกศิลปะป้องกันตัวมา ใช้มือทุบกระเบื้อง หรืออิฐได้เหมือนกัน เช่นอิฐมอญ ซ้อนกันได้ 4 - 5 ก้อน ก็ยังไหว (ตอนนี้ไม่ก้า แก่แล้ว)
แต่ความหนาของวัตถุที่เอามือฟันลงไป มันก็จะบางกว่า "รัศมี" ของวงแขน เช่นแขนยาว 30 นิ้ว อิฐที่เรียงซ้อนกัน 5 ก้อน อย่างมากก็หนาไม่เกิน 8 นิ้ว สั้นกว่าวงแขนที่วาดเยอะ
แต่พวกที่ฟันน้ำแข็ง ทีละ 10 - 20 ชั้น แบบที่แต่ละชั้น เอาน้ำแข็งมาวางกั้นไว้ ให้ซ้อนกันหลวมๆ จนบางที ต้องขึ้นไปทุบจากบนนั่งร้าน
ทำไม เวลาทุบก้อนแรกแล้ว ก้อนล่างจะแตกไปด้วย ทั้งที่ทุบโดนก้อนเดียว หรืออย่างมาก 2 ก้อน ก้อนที่ 3 ลงไปไม่โดนมือ เพราะห่างเกินรัศมีของวงแขนไปแล้ว
มันแตกเพราะอะไรเหรอท่าน บางที แตกถึงชั้นล่างเลย
1. เพราะน้ำแข็งชั้นบนๆ แตกลงมากระแทกชั้นล่างแบบโดมิโนกระแทก
หรือ
2. เป็นการส่งพลังงานที่ทุบลงมา แบบคลื่นกระแทกอะไรแบบนี้ ลงมาจนถึงชั้นล่าง ทำนอง "ฮาโดเคน"
ถ้าวางน้ำแข็งแบบซ้อนทึบ ไม่มีช่องว่างระหว่างก้อน ถ้าแรงส่งไปถึงมากพอ ็แตกหมด
แต่การวางแบบหลวมๆ แบบที่ถาม ทำไมน้ำแข็งแตกหมด บางทีคนทุบ แทบหน้าทิ่มลงมาเลย เพราะซ้อนชั้นขึ้นไปสูง
ขอความรู้หน่อยเน้อ เพราะ จขกท เรียนศิลป์ภาษา ไม่เคยเรียนฟิสิกข์เลยท่าน
ไกด์ไม่เก่า
ั
ถามหน่อยท่าน การทุบอิฐ หรือของแข็งต่างๆในศิลปะการต่อสู้ หลักการยังไงเหรอท่าน
แต่ความหนาของวัตถุที่เอามือฟันลงไป มันก็จะบางกว่า "รัศมี" ของวงแขน เช่นแขนยาว 30 นิ้ว อิฐที่เรียงซ้อนกัน 5 ก้อน อย่างมากก็หนาไม่เกิน 8 นิ้ว สั้นกว่าวงแขนที่วาดเยอะ
แต่พวกที่ฟันน้ำแข็ง ทีละ 10 - 20 ชั้น แบบที่แต่ละชั้น เอาน้ำแข็งมาวางกั้นไว้ ให้ซ้อนกันหลวมๆ จนบางที ต้องขึ้นไปทุบจากบนนั่งร้าน
ทำไม เวลาทุบก้อนแรกแล้ว ก้อนล่างจะแตกไปด้วย ทั้งที่ทุบโดนก้อนเดียว หรืออย่างมาก 2 ก้อน ก้อนที่ 3 ลงไปไม่โดนมือ เพราะห่างเกินรัศมีของวงแขนไปแล้ว
มันแตกเพราะอะไรเหรอท่าน บางที แตกถึงชั้นล่างเลย
1. เพราะน้ำแข็งชั้นบนๆ แตกลงมากระแทกชั้นล่างแบบโดมิโนกระแทก
หรือ
2. เป็นการส่งพลังงานที่ทุบลงมา แบบคลื่นกระแทกอะไรแบบนี้ ลงมาจนถึงชั้นล่าง ทำนอง "ฮาโดเคน"
ถ้าวางน้ำแข็งแบบซ้อนทึบ ไม่มีช่องว่างระหว่างก้อน ถ้าแรงส่งไปถึงมากพอ ็แตกหมด
แต่การวางแบบหลวมๆ แบบที่ถาม ทำไมน้ำแข็งแตกหมด บางทีคนทุบ แทบหน้าทิ่มลงมาเลย เพราะซ้อนชั้นขึ้นไปสูง
ขอความรู้หน่อยเน้อ เพราะ จขกท เรียนศิลป์ภาษา ไม่เคยเรียนฟิสิกข์เลยท่าน
ไกด์ไม่เก่า
ั