นาวีไทยได้ของดี จรวด ESSM ซัดขีปนาวุธดำดิ่งเร็วสูงอยู่หมัด

กระทู้ข่าว


เรือพิฆาตชาฟี (USS Chafee -- DDG 90) เรือต้นตำรับที่ติดระบบจรวด ESSM นำหน้าขบวนเรือรบของราชนาวีไทย ซึ่งนำโดยเรือหลวงนเรศวร (HTMS Naresuan --FFG 421) เรือหลวงมกุฏราชกุมาร (HTMS Makutrajakuman -- FF 433) กับเรือหลวงจักรีนฤเบศ (HTMS Chakri Naruebet -- CVH 911) ระหว่างฝึก CARAT 2009 ในอ่าวไทยวันที่ 13 ก.ค.2552 เรือฟรีเกตชุดเรือหลวงนเรศวรกับเรือหลวงตากสิน กำลังจะติดตั้งระบบ ESSM เช่นเดียวกับเรือพิฆาตสหรัฐลำนี้ บริษัทเรย์ธีออนกล่าวว่าของไทยจะติดระบบท่อยิงแนวดิ่ง MK41 แต่ไม่ได้อธิบาย ขณะที่ ESSM สามารถติดตั้งท่อยิงแบบตั้งอิสระได้. -- US Navy Photo/Lt Ed Early



       ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- การทดสอบจรวดซีสแปโรว์รุ่นวิวัฒน์ หรือ ESSM ได้ผลดีเกินคาด ในสัปดาห์ที่ผ่านมา จรวดนำวิถีสุดล้ำได้ทำลายเป้าหมายเคลื่อนที่แนวดิ่งด้วยความสูงระดับซูเปอร์โซนิก ประสบความสำเร็จในวันที่ 14 พ.ค. บริษัทเรย์ธีออน (Raytheon Company) ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐ ระบุเรื่องนี้ในคำแถลงฉบับหนึ่งที่ออกในเมืองทูซอน (Tucson) รัฐอาริโซนา (Arizona)
       
       "ความสำเร็จของการยิงที่มีจุดเด่นอยู่ที่การรุกไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิดทันการณ์นั้นเป็นผลโดยตรงจากการปรับปรุงเสริมขยายสมรรถนะของสิ่งที่เป็นจรวดนานาชาติอันแท้จริง" นายกริค เนลสัน รองประธานคนหนึ่งของเรย์ธีออนกล่าวถึง จรวดแบบยิงจากพื้นสู่อากาศแบบซีสแปโรว์รุ่นพัฒนา หรือ Evolved SeaSparrow Missile ซึ่งในปัจจุบันมีใช้ในไม่กี่ประเทศที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐทั่วโลก
       
       ราชนาวีไทยได้เซ็นเอกสารกับฝ่ายสหรัฐเมื่อต่นปีนี้ ขอซื้อ ESSM จำนวน 9 ชุด เพื่อติดตั้งบนเรือฟรีเกต 2 ลำ คือเรือหลวงนเรศวรกับเรือหลวงตากสิน ตามโครงการอัปเกรดที่ดำเนินต่อเนื่องหลายปี
       
       ระบบจรวด ESSM เป็นผลผลิตจากการร่วมพัฒนาระหว่างเรย์ธีออนกับบริษัทเทคโนโลยีด้านกลาโหมรวม 18 แห่งของ 10 ประเทศ เพื่อนำเข้าใช้งานร่วมกัน ซึ่งจนถึงปัจจุบันสามารถพัฒนาไปสู่ระบบที่ติดตั้งฐานยิงบนพื้นดินได้แล้วจากแต่เดิมที่ยิงจากเรือรบ เพื่อให้สามารถรับมือการต่อสู้ในหลายรูปหลาบแบบยิ่งขึ้น
       
       จรวด ESSM มีชื่ออย่างเป็นทางคือ The RIM-162 (Evolved SeaSparrow Missile) หรือ RIM-162 ESSM นำเข้าประจำการเป็นครั้งแรกในปี 2547 บนเรือพิฆาตชาฟี (USS Chafee -- DDG 90) ก่อนจะเป็นอาวุธมาตรฐานอีกชนิดหนึ่งบนเรือพิฆาตชั้นอาร์ลีห์เบิร์ก (Arleigh Burke- class) ทุกลำของกองทัพเรือสหรัฐ เพื่อยิงทำลายขีปนาวุธโจมตีเรือของฝ่ายข้าศึก ออกแบบมาเพื่อรับมือกับขีปนาวุธทุกชนิด ทั้งที่มีความเร็วสูงและความเร็วต่ำ
       
       ตามรายงานในเว็บไซต์ข่าวกลาโหม การยิงทำลายขีปนาวุธแบบแล่นระดับต่ำเหนือผิวน้ำไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นอาวุธที่มีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของเสียง (Sub-sonic) หรือ เร็วกว่าความเร็วเสียง (Supersonic) แต่อาวุธที่พุ่งลงในแนวดิ่งเหนือลำเรือ และในความเร็วระดับซูเปอร์โซนิกนั้น มีอันตรายมาก รับมือได้ยากมากกว่า
       
       ความสำเร็จจากการทดลองยิงจรวด ESSM สัปดาห์ที่แล้วจึงเป็นการตอกย้ำในเรื่องประสิทธิภาพ
       
       ระบบ Evolved SeaSparrow พัฒนาต่อจาก ระบบจรวด RIM-7 "ซีสแปโรว์" ที่ใช้แพร่หลายมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น จนกระทั่งถูกเรียกเป็น "จรวดนาโต้" อีกชนิดหนึ่ง แต่ ESSM มีขนาดใหญ่กว่า มีระบบขับดันที่ทรงพลังกว่า รัศมีปฏิบัติการไกลกว่า มีรูปลักษณ์คล่องตัวมากยิ่งขึ้นเพื่อรับมือกับอาวุธโจมตีที่มีความเร็วเหนือเสียงเป็นหลัก ขณะที่ RIM-7 ออกแบบมาเพื่อยิงเครื่องบินโจมตีของฝ่ายข้าศึกอีกด้วย
       
       นอกจากจะติดตั้งร่วมในระบบอีจิส (Aegis) แล้ว ESSM ยังติดตั้งเดี่ยวๆ บนท่อยิงชุด Mk41VLS หรือท่อยิงแนวตั้งแบบ 4 ท่อ สำหรับจรวด 4 ลูก
       
       หลายประเทศต้องการซื้อจรวดรุ่นนี้ แต่ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของ ปัจจุบันระบบ ESSM มีประจำการในกองทัพเรือสหรัฐ ออสเตรเลีย แคนาดา เยอรมนี ตุรกี กรีซ ญี่ปุ่น เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เว นิวซีแลนด์ สเปน และ ไทยเป็นรายล่าสุดที่ถูกบรรจุลงในบัญชีรายชื่อ โดยมีอาจจะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกรายที่อยู่ระหว่างเจรจาขอซื้อ
       
       บริษัทเรย์ธีออนกล่าวในเดือน ม.ค.ปีนี้ว่าไทยกำลังจะนำจรวดนำวิถี ESSM เข้าติดตั้งบนเรือหลวงนเรศวร กับเรือหลวงตากสิน ผู้แทนราชนาวีไทยได้ร่วมลงนามในเอกสาร LOA (Letter of Offer and Acceptance) กับผู้แทนรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งทำให้ไทยเป็นเพียงประเทศที่ 13 ที่มีระบบอาวุธนี้ประจำการ
       
       “การใช้ ESSM จะทำให้ราชนาวีไทยมีขีดความสามารถในการป้องกันเรือที่ไร้เทียมทาน รวมทั้งจะทำให้กองเรือรบได้รับประโยชน์จากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของขีปนาวุธนี้อีกด้วย” นายริค เนลสัน รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์การป้องกันทางนาวีของระบบขีปนาวุธเรย์ธีออน กล่าว.

Credit: http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9560000060016
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่