ผมเคยได้ยินว่ายศทางทหารระดับสูงสมัยฮั่นตะวันตกก็มี ไท่เว่ย (太尉) หรือสมุหพระกลาโหมซึ่งจัดเป็นหนึ่งในซานกง (三公) หรือ สามมหาเสนาบดี ซึ่งเป็นตำแหน่งบริหารสูงสุด ต่อมาเปลี่ยนเป็น ต้าซือหม่า (大司馬) แล้วก็เปลี่ยนกลับมาเป็นไท่เว่ยในสมัยฮั่นจะวันออก
แต่ในสมัยเว่ย (วุยก๊ก) กลับมีการใช้ตำแหน่งไท่เว่ยและต้าซือหม่า อยู่ในเวลาเดียวกัน แต่ต้าซือหม่านั้นเหมือนจะตั้งให้เฉพาะคนตระกูลเฉาเท่านั้น คือ เฉาเหริน (โจหยิน) เฉาซิว (โจฮิว) และ เฉาเจิน (โจจิ๋น) ในขณะที่ไท่เว่ยดูเป็นตำแหน่งทั่วไปมากกว่า
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่ง ต้าเจียงจวิน (大將軍) หรือมหาขุนพลที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดอีก ซึ่งหลายครั้งก็พบว่ามีตั้งอยู่ในเวลาเดียวกับไท่เว่ยและต้าซือหม่า เช่น เฉาซิวเป็นต้าซือหม่าในเวลาเดียวกับเฉาเจินที่เป็นต้าเจียงจวิน ส่วนตำแหน่งไท่เว่ยเป็นของหฺวาซิน (ฮัวหิม) ต่อมาเมื่อเฉาเจินได้เลื่อนเป็นต้าซือหม่า ซือหม่าอี้ (สุมาอี้) ก็ได้เป็นต้าเจียงจวินแทน (เลยสงสัยว่าในยุคนั้นต้าซือหม่าจะสูงกว่าต้าเจียงจวิน) ต่อมาราชสำนักจึงให้ซือหม่าอี้เป็นไท่เว่ย
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่ง ต้าตูตู (大都督) ซึ่งในแคว้นหวู (ง่อก๊ก) ก็เป็นตำแหน่งที่กุมอำนาจทหารมาตลอดทั้ง โจวอวี๋ (จิวยี่) หลู่ซู่ (โลซก) หลวี่เหมิง (ลิบอง) กับลวี่ซุ่น (ลกซุน) ในแคว้นเว่ยบางครั้งซือหม่าอี้ก็ได้เป็น เข้าใจว่าเป็นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารในยามที่ต้องออกศึกเป็นคราวๆ ไปหรือเปล่าครับ
อยากทราบว่าทุกตำแหน่งนี้มีอำนาจต่างกันยังไงครับ
อีกข้อหนึ่ง ปรากฏในจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่วว่า ในรัชศกเจี้ยนอันที่ 13 (ค.ศ. 208) เดือนหนึ่ง ราชสำนักฮั่นยุบตำแหน่งซานกงทิ้ง แล้วฟื้นตำแหน่ง เฉิงเสี้ยง (丞相) กับ อวี้สื่อต้าฟู (御史大夫) ในสมัยฮั่นตะวันตกขึ้นมาใหม่ ต่อมาเดือนหก เฉาเชา (โจโฉ) จึงได้เป็นเฉิงเซี่ยง
ในเวลานั้นไม่มีทั้งตำแหน่งไท่เว่ย ต้าซือหม่า ต้าเจียงจวิน เข้าใจว่าเพราะเฉาเชาต้องการรวบอำนาจทั้งพลเรือนและทหารไว้กับตนเองเพียงผู้เดียวหรือเปล่าครับ เพราะเท่าที่ดูมาเฉาเชามีอำนาจเป็นสิทธิขาดทั้งการทหารและพลเรือนในราชสำนักฮั่นมาตลอด
จนเมื่อเฉาพี (โจผี) ได้เป็นเว่ยหวัง (วุยอ๋อง) และสืบทอดตำแหน่งเฉิงเซี่ยงจากเฉาเชา ถึงได้ฟื้นฟูตำแหน่งพวกซานกงขึ้นมาอีก คือตั้ง เจี๋ยสวี่ (กาเซี่ยง) เป็นไท่เว่ย หฺวาซินเป็นเซี่ยงกั๋ว
ภาพจากหนัง Red Cliff โจโฉเป็นเฉิงเซี่ยงแต่ใส่เครื่องแบบแบบขุนนางฝ่ายทหารสมัยฮั่นคือชุดแดง ประดับขนไก่ฟ้าที่หมวก
ทั้งนี้อาจเป็นการสื่อหรือเปล่าครับว่าโจโฉคุมทั้งทหารและพลเรือน
ผ่านไปหลายปีตั้งแต่ตั้งกระทู้นี้ ผมสามารถหาข้อมูลได้ด้วยตนเองแล้ว จึงขอนำมาลงในกระทู้เดิม เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจครับ
ไท่เว่ย (太尉) เป็นตำแหน่งขุนนางฉิน ไท่ (太) แปลว่ายิ่งใหญ่ เว่ย (尉) หมายถึงผู้รักษาความสงบจึงใช้เป็นคำเรียกขุนนางฝ่ายทหาร ในสมัยต้นราชวงศ์ฮั่นตะวันตกเป็นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดหรือสมุหพระกลาโหม
รัชศกหยวนโซ่วปีที่ 6 รัชสมัยฮั่นอู่ตี้ ยกเลิกตำแหน่งไท่เว่ย เอาอย่างธรรมเนียมโจวจะเปลี่ยนชื่อเป็น ซือหม่า (司馬) (ซือ (司) แปลว่า ผู้ควบคุม หม่า (馬) แปลตรงตัวว่า ม้า แต่มีความหมายสื่อถึงสงครามหรือการรบ) แต่เนื่องจากในเวลานั้นมีตำแหน่งซือหม่าเป็นขุนนางฝ่ายทหารทั่วไปอยู่แล้ว จึงเพิ่มคำว่า ต้า (大) ที่แปลว่า ใหญ่ นำหน้าเป็น ต้าซือหม่า (大司馬) ให้แยกจากซือหม่าธรรมดา
ต้าซือหม่าใช้เป็นชื่อตำแหน่งสำหรับขุนพลสูงสุด ต่อมาสมัยฮั่นเซวียนตี้ไม่ได้เป็นขุนพลสูงสุด ไม่มีตราไม่มีขุนนางในสังกัด สมัยฮั่นเฉิงตี้ ให้ถือตราทองสายแพรห้อยสีม่วง มีขุนนางในสังกัด มีเบี้ยหวัดเสมอเฉิงเซี่ยง แต่ไม่ได้มอบตำแหน่งให้ขุนพล
สมัยฮั่นอายตี้กลับมามอบให้ขุนพลเหมือนเดิม แต่ปลายฮั่นตะวันตกไม่ได้มอบให้ขุนพล ยกสถานะให้สูงกว่าซือถู
ในสมัยฮั่นตะวันออก รัชศกเจี้ยนอู่ปีที่ 27 รัชสมัยฮั่นกวงอู่ตี้ เปลี่ยนชื่อต้าซือหม่ากลับมาเป็นไท่เว่ยตามเดิม ไท่เว่ยมีหน้าที่บัญชาการทหารทั้งสี่ทิศ เมื่อสิ้นปีถวายรายงานต่อราชสำนักและรับผิดชอบการปูนบำเหน็จและลงทัณฑ์ รับผิดชอบพิธีสักการะฟ้าดินที่ชานเมืองและเป็นผู้ถวายสุราคนที่สองในพิธี เมื่อมีพิธีศพหลวงจะเป็นผู้แจ้งสมัญญาหลังสิ้นชีพต่อชานเมืองทิศใต้ หากแผ่นดินมีเหตุใหญ่หรือเหตุไม่ชัดเจน ไท่เว่ยปรึกษากับซือถูและซือคง แผ่นดินไม่ปกติให้ปรึกษาราชการต่อซานกงทั้งสาม
ซานกงจากสูงไปต่ำคือ ไท่เว่ย ซือคง ซือถู มีการถ่วงดุลอำนาจมากกว่าฮั่นตะวันตก ไม่ค่อยมีอำนาจบริหารมากเพราะอำนาจบริหารไปตกอยู่กับสำนักซ่างซู (尚書臺) ที่ขึ้นมาดูแลฝ่ายบริหารแทน ซานกงจึงกลายเป็นเหมือนตำแหน่งองมนตรีที่ปรึกษาหรือตำแหน่งเกียรติยศมากกว่า ไท่เว่ยไม่ได้มีอำนาจบัญชาการทหารโดยตรงเหมือนช่วงต้นราชวงศ์ฮั่น ตำแหน่งที่มีอำนาจบัญชาการทหารสูงสุดคือต้าเจียงจวิน ซึ่งในสมัยฮั่นตะวันออกถูกยกสถานะให้สูงกว่าซานกง และมักตกเป็นของพระญาติข้างฮองเฮาหรือไทเฮา
หลังต่งจั๋ว (ตั๋งโต๊ะ) ยึดอำนาจในราชสำนัก ราชสำนักเลื่อนไท่เว่ยหลิวอวี๋ (เล่าหงี) เป็นต้าซือหม่า ตั๋งโต๊ะได้เป็นไท่เว่ยแทน ตำแหน่งไท่เว่ยกับต้าซือหม่าจึงแยกกันเป็นสองตำแหน่งนับแต่นั้น ต้าซือหม่ากลายเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดเหนือกว่าต้าเจียงจวินอีกครั้ง
รัชศกเจี้ยนอันที่ 1 เฉาเชา (โจโฉ) ช่วยเหลือพระเจ้าเหี้ยนเต้ ได้เป็นต้าเจียงจวินคุมอำนาจทหารสูงสุด ได้ว่าราชการซ่างซู (錄尚書事) คุมฝ่ายบริหาร กุมอำนาจสูงสุดในราชสำนักฮั่น
ก่อนหน้านั้นพระเจ้าเหี้ยนเต้ตั้งจางหยาง (เตียวเอี๋ยง) ผู้ว่าราชการจังหวัดเหอเน่ยที่ช่วยเหลือพระองค์เป็นต้าซือหม่า ภายหลังจางหยางส่งทหารไปช่วยหลี่ว์ปู้ (ลิโป้) รบกับเฉาเชาแต่ถูกลูกน้องสังหาร จึงไม่ได้มีบทบาทอะไร
เวลานั้นซานกงทั้งไท่เว่ยและซือคงต่างลาออก เฉาเชานำตำแหน่งไท่เว่ยไปให้หยวนเส้า (อ้วนเสี้ยว) แต่หยวนเส้าไม่พอใจเพราะเห็นว่าต่ำกว่าตำแหน่งต้าเจียงจวินของเฉาเชา เฉาเชาจึงยกตำแหน่งต้าเจียงจวินให้ แล้วลดตัวเองลงไปเป็นซือคงว่าราชการในตำแหน่งจวีจี้เจียงจวิน (車騎將軍) ขุนพลทหารม้ารถศึก แต่ยังคุมอำนาจสูงสุดตามเดิม
รัชศกเจี้ยนอันปีที่ 13 เฉาเชาปลดซือถูจ้าวเวิน (趙溫) ราชสำนักยุบตำแหน่งซานกง ฟื้นตำแหน่งเฉิงเซี่ยง (丞相) กับ อวี้สื่อต้าฟู (御史大夫) ในสมัยฮั่นตะวันตกขึ้นใหม่ เดือน 6 เฉาเชาได้เป็นเฉิงเซึ่ยงที่อัครมหาเสนาบดี (มหาอุปราช) กุมอำนาจทหารและพลเรือนสูงสุด เป็นรองเพียงฮ่องเต้เท่านั้น
เมื่อเฉาเชาได้รับบรรดาศักดิ์เว่ยกง (魏公) และต่อมาเลื่อนเป็นเว่ยหวัง (魏王) ยังคงเป็นเฉิงเซี่ยงของราชวงศ์ฮั่น แต่มีรัฐศักดินาของตนเองมีอำนาจปกครองโดยตรงคือรัฐเว่ย (魏 วุยก๊ก) จึงมีอำนาจแต่งตั้งขุนนางของตนเองได้ ในรัชศกเจี้ยนอันที่ 21 จึงตั้ง จงเหยา (จงฮิว) เป็นเซี่ยงกั๋ว (相國) อัครมหาเสนาบดีแห่งเว่ย รัชศกเจี้ยนอันปีที่ 23 ตั้งหัวซิน (ฮัวหิม) เป็นอวี้สื่อต้าฟู แต่ต่อมาจงเหยาถูกปลดเพราะลูกน้องพัวพันกับกบฏ
เมื่อเฉาพี (โจผี) สืบถอดตำแหน่งเว่ยหวัง จึงตั้งซานกงครบสามตำแหน่ง ตั้งเจี๋ยสวี่ (กาเซี่ยง) เป็นไท่เว่ย หัวซินเป็นเซี่ยงกั๋ว หวังหล่าง (อองลอง) เป็นอวี้สื่อต้าฟู เมื่อเฉาพีสถาปนาตนเป็นฮ่องเต้จึงเปลี่ยนชื่อซานกงกลับมาเป็นตามระบบฮั่นตะวันออก เซี่ยงกั๋วเปลี่ยนเป็นซือถู อวี้สื่อต้าฟูเปลี่ยนเป็นซือคง
แต่อย่างที่กล่าวคือซานกงในเวลานั้นเป็นเพียงตำแหน่งเกียรติยศ ในช่วงต้นราชวงศ์เว่ยไม่มีหน้าที่อะไรเลย เกาโหรว (โกหยิว) จึงถวายฎีกาเสนอว่าเมื่อราชสำนักมีราชการสำคัญให้ปรึกษาหารือกับซานกง และให้ซานกงได้เข้าร่วมประชุมขุนนางด้วย เฉาพีจึงอนุมัติตามคำขอ
ต้าตูตู (大都督) คือตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดเฉพาะกาลที่ตั้งขึ้นในยามสงคราม หลังจากเสร็จศึกและก็ยกเลิก เช่น ลู่ซวิ่น (ลกซุน) เป็นต้าตูตูบัญชาการกองทัพรบกับหลิวเป้ย (เล่าปี่) ภายหลังเมื่อรบกับเว่ยก็ได้เป็นต้าตูตูอีกครั้ง ถือขวานอาญาสิทธิ์เหลือง บัญชาการกองทัพอู๋หกทัพรวมถึงทหารองครักษ์ออกศึกอย่างมีอำนาจเต็ม
สำหรับรัฐเว่ย ในสมัยเฉาพีตั้งตำแหน่ง ตูตู (都督) ผู้บัญชาการทหารที่ถืออาญาสิทธิ์ประจำมณฑล หรือเป็นผู้ตรวจการมณฑล (刺史) ได้แก่
- เฉาเหริน (โจหยิน) เป็น จวีจี้เจียงจวิน เป็นตูตูบัญชาการทหารสามมณฑลคือจิงโจว (เกงจิ๋ว) หยางโจว (ยังจิ๋ว) และอี้โจว (เอ๊กจิ๋ว) แล้วได้เลื่อนเป็นต้าเจียงจวิน ต้าซือหม่า ตามลำดับ
- เฉาเจิน (โจจิ๋น) เป็น เจิ้นซีเจียงจวิน (鎮西將軍) ขุนพลพิทักษ์ประจิม เป็นตูตูบัญชาการทหารมณฑลยงโจวและเหลียงโจว เมื่อเฉาพีเป็นฮ่องเต้ถูกเรียกกลับราชธานีเลื่อนเป็น ซ่างจวินต้าเจียงจวิน (上軍大將軍) มหาขุนพลกองทัพบน ถือขวานอาญาสิทธิ์เหลือง เป็นตูตูบัญชาการทหารทั้งในราชธานีและภายนอก ภายหลังเปลี่ยนตำแหน่งเป็น จงจวินต้าเจียงจวิน (中軍大將軍) มหาขุนพลกองทัพกลาง
- เฉาซิว (โจฮิว) เป็น เจิ้นหนานเจียงจวิน (鎮南將軍) ขุนพลพิทักษ์ทักษิณ เป็นตูตูถืออาญาสิทธิ์บัญชาการทหาร ต่อมาเลื่อนเป็น เจิงตงเจียงจวิน (征東將軍) ขุนพลพิชิตบูรพา ควบตำแหน่งผู้ตรวจการมณฑลหยางโจว (揚州刺史) แล้วเลื่อนเป็น เจิงตงต้าเจียงจวิน (征東大將軍) มหาขุนพลพิชิตบูรพา ถือขวานอาญาสิทธิ์เหลือง บัญชาการทหารมณฑลยี่สิบทัพตีรัฐอู๋ (ง่อก๊ก)
- เซี่ยโหวซ่าง (แฮหัวซง) เป็นเจิงหนานเจียงจวิน (征南將軍) ขุนพลพิชิตทักษิณ ควบตำแหน่งผู้ตรวจราชการมณฑลจิงโจว (荊州刺史) เป็นตูตูถืออาญาสิทธิ์บัญชาการทหารภาคใต้ แล้วได้เลื่อนเป็น เจิงหนานต้าเจียงจวิน (征南大將軍) มหาขุนพลพิชิตทักษิณ
- เซี่ยโหวเม่า (แฮหัวหลิม) เป็นอันซีเจียงจวิน (安西將軍) ขุนพลสงบประจิม เป็นตูตูถืออาญาสิทธิ์บัญชาการทหารภูมิภาคกวนจง
ในสมัยเฉารุ่ย (โจยอย) เลื่อนเฉาซิวเป็นต้าซือหม่า เป็นตูตูบัญชาการทหารมณฑลหยางโจวตามเดิม เฉาเจินเป็นต้าเจียงจวิน ต่อมาเป็นตูตูบัญชาการทหารกวนโย่ว ซือหม่าอี้ (สุมาอี้) เป็นเพี่ยวจี้ต้าเจียงจวิน (驃騎大將軍) มหาขุนพลทหารม้าทะยาน เป็นตูตูบัญชาการทหารมณฑลอวี้โจวและจิงโจว
หลังเฉาซิวตาย เลื่อนเฉาเจินเป็นต้าซือหม่า ซือหม่าอี้เป็นต้าเจียงจวิน และเป็นต้าตูตูถือขวานอาญาสิทธิ์เหลืองยกทัพบุกรัฐสู่ (จ๊กก๊ก) หลังเฉาเจินตาย ซือหม่าอี้จึงกุมอำนาจทหารสูงสุด
ภายหลังซือหม่าอี้ได้เลื่อนเป็นไท่เว่ย ซึ่งเดิมต่ำกว่าต้าเจียงจวิน แต่ครั้งนั้นยกต้าเจียงจวินลงไปต่ำกว่าซานกงเป็นกรณีพิเศษ เข้าใจว่าเพื่อยกย่องซือหม่าอี้ และยังได้คุมอำนาจทหารอยู่ ภายหลังซือหม่าอี้พ้นตำแหน่งไท่เว่ยจึงยกต้าเจียงจวินขึ้นไปเหนือกว่าซานกงตามเดิม
อยากถามเรื่องยศและอำนาจทางทหารสมัยราชวงศ์ฮั่นถึงสามก๊กครับ
แต่ในสมัยเว่ย (วุยก๊ก) กลับมีการใช้ตำแหน่งไท่เว่ยและต้าซือหม่า อยู่ในเวลาเดียวกัน แต่ต้าซือหม่านั้นเหมือนจะตั้งให้เฉพาะคนตระกูลเฉาเท่านั้น คือ เฉาเหริน (โจหยิน) เฉาซิว (โจฮิว) และ เฉาเจิน (โจจิ๋น) ในขณะที่ไท่เว่ยดูเป็นตำแหน่งทั่วไปมากกว่า
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่ง ต้าเจียงจวิน (大將軍) หรือมหาขุนพลที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดอีก ซึ่งหลายครั้งก็พบว่ามีตั้งอยู่ในเวลาเดียวกับไท่เว่ยและต้าซือหม่า เช่น เฉาซิวเป็นต้าซือหม่าในเวลาเดียวกับเฉาเจินที่เป็นต้าเจียงจวิน ส่วนตำแหน่งไท่เว่ยเป็นของหฺวาซิน (ฮัวหิม) ต่อมาเมื่อเฉาเจินได้เลื่อนเป็นต้าซือหม่า ซือหม่าอี้ (สุมาอี้) ก็ได้เป็นต้าเจียงจวินแทน (เลยสงสัยว่าในยุคนั้นต้าซือหม่าจะสูงกว่าต้าเจียงจวิน) ต่อมาราชสำนักจึงให้ซือหม่าอี้เป็นไท่เว่ย
นอกจากนี้ยังมีตำแหน่ง ต้าตูตู (大都督) ซึ่งในแคว้นหวู (ง่อก๊ก) ก็เป็นตำแหน่งที่กุมอำนาจทหารมาตลอดทั้ง โจวอวี๋ (จิวยี่) หลู่ซู่ (โลซก) หลวี่เหมิง (ลิบอง) กับลวี่ซุ่น (ลกซุน) ในแคว้นเว่ยบางครั้งซือหม่าอี้ก็ได้เป็น เข้าใจว่าเป็นตำแหน่งผู้บัญชาการทหารในยามที่ต้องออกศึกเป็นคราวๆ ไปหรือเปล่าครับ
อยากทราบว่าทุกตำแหน่งนี้มีอำนาจต่างกันยังไงครับ
อีกข้อหนึ่ง ปรากฏในจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่วว่า ในรัชศกเจี้ยนอันที่ 13 (ค.ศ. 208) เดือนหนึ่ง ราชสำนักฮั่นยุบตำแหน่งซานกงทิ้ง แล้วฟื้นตำแหน่ง เฉิงเสี้ยง (丞相) กับ อวี้สื่อต้าฟู (御史大夫) ในสมัยฮั่นตะวันตกขึ้นมาใหม่ ต่อมาเดือนหก เฉาเชา (โจโฉ) จึงได้เป็นเฉิงเซี่ยง
ในเวลานั้นไม่มีทั้งตำแหน่งไท่เว่ย ต้าซือหม่า ต้าเจียงจวิน เข้าใจว่าเพราะเฉาเชาต้องการรวบอำนาจทั้งพลเรือนและทหารไว้กับตนเองเพียงผู้เดียวหรือเปล่าครับ เพราะเท่าที่ดูมาเฉาเชามีอำนาจเป็นสิทธิขาดทั้งการทหารและพลเรือนในราชสำนักฮั่นมาตลอด
จนเมื่อเฉาพี (โจผี) ได้เป็นเว่ยหวัง (วุยอ๋อง) และสืบทอดตำแหน่งเฉิงเซี่ยงจากเฉาเชา ถึงได้ฟื้นฟูตำแหน่งพวกซานกงขึ้นมาอีก คือตั้ง เจี๋ยสวี่ (กาเซี่ยง) เป็นไท่เว่ย หฺวาซินเป็นเซี่ยงกั๋ว
ภาพจากหนัง Red Cliff โจโฉเป็นเฉิงเซี่ยงแต่ใส่เครื่องแบบแบบขุนนางฝ่ายทหารสมัยฮั่นคือชุดแดง ประดับขนไก่ฟ้าที่หมวก
ทั้งนี้อาจเป็นการสื่อหรือเปล่าครับว่าโจโฉคุมทั้งทหารและพลเรือน
สมัยฮั่นอายตี้กลับมามอบให้ขุนพลเหมือนเดิม แต่ปลายฮั่นตะวันตกไม่ได้มอบให้ขุนพล ยกสถานะให้สูงกว่าซือถู
ซานกงจากสูงไปต่ำคือ ไท่เว่ย ซือคง ซือถู มีการถ่วงดุลอำนาจมากกว่าฮั่นตะวันตก ไม่ค่อยมีอำนาจบริหารมากเพราะอำนาจบริหารไปตกอยู่กับสำนักซ่างซู (尚書臺) ที่ขึ้นมาดูแลฝ่ายบริหารแทน ซานกงจึงกลายเป็นเหมือนตำแหน่งองมนตรีที่ปรึกษาหรือตำแหน่งเกียรติยศมากกว่า ไท่เว่ยไม่ได้มีอำนาจบัญชาการทหารโดยตรงเหมือนช่วงต้นราชวงศ์ฮั่น ตำแหน่งที่มีอำนาจบัญชาการทหารสูงสุดคือต้าเจียงจวิน ซึ่งในสมัยฮั่นตะวันออกถูกยกสถานะให้สูงกว่าซานกง และมักตกเป็นของพระญาติข้างฮองเฮาหรือไทเฮา